ผมและครอบครัวให้ความสำคัญเรื่องความสบายบนที่นอนมากครับ เวลาทำงานเหน็ดเหนื่อยกลับมา เวลาพักผ่อนก็เลยอยากจะสบายให้เต็มที่ หลังจากศึกษาเรื่องการเลือกผ้าปูที่นอนมาพอสมควร วันนี้จะมาแบ่งปันข้อมูลให้เพื่อนๆทราบกันว่าต้องเลือกผ้าปูที่นอนอย่างไร ชนิดของผ้ามีกี่แบบ แต่ละแบบดีไม่ดีอย่างไร ผ้าแบบไหนจึงจะเหมาะกับตัวเราที่สุด ตามไปรับชมกันครับ
ครบเครื่องเรื่องที่นอนตอนที่แล้ว
ครบเครื่องเรื่องที่นอน ตอนที่ 1 : ไรฝุ่นภัยร้ายสาเหตุแห่งการเจ็บป่วย
ครบเครื่องเรื่องที่นอน ตอนที่ 2 : วิธีดูแลความสะอาดให้ที่นอน
1.) เลือกขนาดผ้าปูให้ถูกต้องกับขนาดของที่นอน
ก่อนจะเลือกซื้อผ้าปูที่นอน เราจำเป็นจะต้องรู้ขนาดของที่นอนก่อน เมื่อทราบขนาดที่แน่นอนแล้ว ก็มาเริ่มเลือกผ้าปูที่ขนาดเหมาะพอดีกับที่นอน ไม่ควรใช้ผ้าปูที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่กว่าที่นอน เพราะจะทำให้ผ้าไม่เรียบตึง เมื่อใช้งานจริงและยังทำให้ผู้นอนรู้สึกไม่สบายตัว ขณะนอนหลับอีกด้วย
ในประเทศไทยจะมีขนาดมาตรฐานดังนี้ครับ ขนาด 3.5 ฟุต(Single) , 5ฟุต (Queen) ,ขนาด 6 ฟุต (King) ความกว้างของที่นอนจะแตกต่างกันไปตามขนาด แต่ความยาวจะเท่ากันทุกขนาด นั่นคือ 78 นิ้ว หรือ 198 ซม.
2.) เลือกผ้าปูให้เข้ากับสีของโทนห้องนอน และลักษณะการตกแต่งของห้องนอน
หากมีฐานเตียงหรือหัวเตียงก็ควรเลือกให้เข้ากับสีของฐานเตียงและห้วเตียงด้วยเช่นกัน เพื่อความสวยงามและความน่านอนของห้องนอน โดยเฉพาะในปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผ้าปูที่นอนนั้นเป็นเสมือนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งในการตกแต่งห้องนอนที่เป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่อาศัยของเราไปเรียบร้อยแล้ว
เชื่อหรือไม่ว่า สีมีส่วนอย่างมากต่อสภาวะอารมณ์ของผู้อยู่อาศัย ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกผ้าปูที่นอนสีต่างๆ เรามาดูกันว่า สีไหนส่งผลด้านใดกันบ้าง
โทนสีเย็น
สีฟ้า เป็นสีที่เหมาะแก่การพักผ่อนมากสุด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งยังทำให้นอนหลับสบาย
สีเขียว ทำให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และจิตใจให้สดชื่น
สีม่วง เป็นสีกลางระหว่างโทนร้อนกับโทนเย็น สำหรับห้องนอนเด็ก ผ้าปูที่นอนสีม่วงนับเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
สีดำ ผ้าปูที่นอนสีดำจะทำให้รู้สึกร้อนและจำกัดความกว้างของห้อง ห้องที่มีขนาดเล็กจึงไม่ควรใช้ แต่สำหรับห้องโล่งกว้างผ้าปูสีดำก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดูเก๋ไปอีกแบบ
สีขาว ถือเป็นสีเบสิคของผ้าปูที่นอน เป็นสีทีให้ความรู้สึกสบายตา เหมาะสำหรับห้องนอนของทุกเพศ ทุกวัย
โทนสีอุ่น
สีแดง เป็นสีที่เพิ่มพลังงานในร่างกายและช่วยในการไหลเวียนสูบฉีดโลหิต สำหรับคนที่รู้สึกซึมเศร้า หดหู่ ผ้าปูที่นอนสีแดงจะช่วยให้รู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นได้
สีส้ม เป็นสีที่ให้ผลใกล้เคียงกับสีแดง คือช่วยให้รู้สึกสบายใจและผ่อนคลายขึ้น
สีเหลือง ทำให้ห้องสว่างขึ้น สำหรับผู้สูงอายุ ที่สายตาไม่ค่อยดี ผ้าปูที่นอนสีเหลืองอ่อนเป็นตัวเลือกที่เหมาะ
3.) เลือกผ้าปูจากวัตถุดิบที่ใช้ในการทอ
เส้นใยที่ใช้ในการทอ ตัวอย่าง ได้แก่
- เส้นใยธรรมชาติ 100% ตัวอย่างเช่น เส้นใยที่ทำมาจากฝ้าย(Cotton), เส้นใยที่ทำมาจากไหม (Silk), เส้นใยที่ทำมาจากใยไผ่ (bamboo) เป็นต้น ผ้าที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติจะมีคุณสมบัติในการถ่ายเทอากาศได้ดีที่สุด ทำให้ไม่รู้สึกร้อนขณะนอนหลับ และยังให้ความรู้สึกนุ่มสบายมากอีกด้วย
-
ผ้าฝ้ายผสมใยสังเคราะห์ (Poly-cotton)
เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี ถึงแม้จะไม่สามารถระบายอากาศได้ดีเท่าผ้าฝ้ายแท้ แต่ฝ้ายผสมใยสังเคราะห์นี้จะยับยากกว่าผ้าฝ้ายแท้ และราคาถูกกว่า -
ผ้าซาติน (Satin)
ผ้าซาตินมีจุดเด่นที่ให้ความรู้สึกนุ่มเรียบลื่น เย็นสบายผิว และดูหรู แต่ผ้าชนิดนี้มีข้อเสียตรงที่อาจจะไม่ทนทานเท่าผ้าชนิดอื่นๆ -
ผ้าไหม (Silk)
แม้จะเป็นผ้าที่ให้ความรู้สึกหรู นุ่มละมุน แต่ข้อเสียของผ้าไหมคือไม่ทนทานเท่าผ้าชนิดอื่นๆ ทำความสะอาดยาก และมีราคาที่สูง นิยมให้เป็นของขวัญสำหรับคู่แต่งงานใหม่
4.) เลือกจากวอิธีการดูแลรักษา และการใช้งาน
วิธีการที่ใช้ในการทอผ้าปูที่นอนมี อยู่ด้วยกัน 2 แบบ
- แบบที่ 1 ทอแบบลายขัด (Plain) เนื้อผ้าที่ได้จะไม่ขึ้นเงาแต่จะเป็นการทอแบบแน่น เพราะฉะนั้นข้อดีของลายขัดคือความแข็งแรงคงทน ใช้ได้เป็นระยะเวลานาน ข้อเสียคือ เนื้อผ้าจะไม่นุ่มเท่าการทอแบบซาติน ดังที่เราจะกล่าวต่อไป
-
แบบที่ 2 ทอแบบขึ้นเงา (Satin /Sateen) เนื้อผ้าที่ได้จะขึ้นเงา เนื้อจากแป็นการทอที่ทำให้เส้นด้ายมีเนื้อที่ในการตกกระทบของแสงมากกว่าแบบแรก จึงทำให้เห็นเนื้อผ้าขึ้นเป็นเงา ข้อดีของการทอแบบขึ้นเงาคือ เนื้อผ้าที่ได้จะนุ่ม ลื่น ข้อเสียก็คือ ความที่เส้นด้ายมีเนื้อที่มากขึ้นในการกระทบกับแสง จึงทำให้ในการซักล้าง ทำความสะอาด เส้นด้ายดังกล่าวจะกระทบโดยตรงกับน้ำยาซักล้าง และ การขัด การถู และการปั่น จึงทำให้อายุการใช้งานและความคงทนสั้นลง
5.) เลือกจากจำนวน เส้นด้ายในการทอ / 1 ตารางนิ้ว (Tread Count)
ตามมาตรฐานของสิ่งทอ ในการนับจำนวนความหนาแน่นของเส้นด้ายเราจะนับกันอยูที่ จำนวนเส้นด้ายแนวนอน + จำนวนเส้นด้ายแนวตั้ง ในพื้นที่ 1 ตารางนิ้ว เท่านั้น จึงจะเป็นมาตรฐานที่ถูกต้อง จำนวนน้อยหรือมาก/1ตารางนิ้ว จะมีผลกับราคาของผ้าปูชุดนั้นๆ หากจำนวนความหนาแน่นของเส้นด้าย/1ตารางนิ้วยิ่งมาก แสดงว่าความหนาแน่นของเนื้อผ้าก็ยิ่งมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ กรรมวิธีในการทอ (ดังที่ได้กล่าวมาแล้วในข้อ4)
ผมและภรรยาออกเดินทางบ่อยๆ จึงได้มีโอกาสได้นอนผ้าปูที่นอนของโรงแรม แล้วก็ชอบที่มันลื่นๆนุ่มๆเย็นๆ ภายหลังที่หาข้อมูลเพิ่มเติม ก็เลยรู้ว่ามันเป็นผ้าที่ใช้เส้นด้ายในการทอจำนวนสูงๆและทอแบบ Satin นี่เอง ซื้อผ้าปูที่นอนอีกที ก็เลยเลือกยี่ห้อที่เป็นเส้นใยจากธรรมชาติ อากาศถ่ายเทได้ดีกว่าแบบอื่นๆ จะได้ไม่ร้อนเกินไปด้วย ตอนแรกก็มองยี่ห้อ P ที่ดังๆ ปรากฏว่าไม่ตอบโจทย์ เพราะแม้มันจะนุ่มลื่นมันๆ แต่มันมีส่วนผสมใยสังเคราะห์ สุดท้ายเลยไปได้ของยี่ห้อ Ply & Poem มาครับ
ผ้าปูที่นอนของ Ply & Poem เป็นยี่ห้อที่ใช้เส้นใยจากธรรมชาติล้วนๆ จึงถูกใจผมกับภรรยามากๆ ผิวสัมผัสของผ้าปูที่นอนนุ่มๆมาพร้อมกับความลื่นๆด้วย ชอบใจเหลือเกิน
อีกอย่างที่ชอบมากๆ คือ ปลอกหมอนแบบมีปีกแบบโรงแรมหรูครับ บอกเลยว่าหาไม่ค่อยจะเจอยี่ห้อไหนทำขายกัน ทีนี้ก็ได้นอนสบายอยู่กับบ้านเหมือนกับได้นอนโรงแรมหรูห้าดาวเลยหละ
ใครสนใจก็ลองไปที่ Shop เค้าที่ Emporium และ Siam Paragon ได้เลยจ้า คุ้มค่าราคาที่จ่ายไปแน่นอน
รู้วิธีการเลือกซื้อผ้าปูที่นอนกันไปแล้ว อย่าลืมนำความรู้ที่ได้ไปประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อที่นอนที่เหมาะกับตัวเองนะครับ
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป