เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา เหมียวๆได้มีโอกาสเดินทางไปที่จังหวัดใกล้ๆ กรุงเทพมหานคร นั่นก็คือจังหวัดนครปฐมนั่นเอง ถ้าพูดถึงจังหวัดนครปฐม ทุกคนคงนึกถึงพระปฐมเจดีย์ ตลาดน้ำดอนหวาย พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย หรืออีกหลายๆที่ แต่ครั้งนี้เหมียวๆขอชวนเพื่อนๆไปดู ดอกไม้ค่ะ ตอนแรกๆเหมียวๆก็ไม่คิดว่าจะมี เพราะไม่เคยรู้ข้อมูลมาก่อนเลยจนที่รักพาไปชม เหมียวๆขอโอกาสนี้ชวนเพื่อนๆไปเที่ยวด้วยกันเลยนะคะ
ก็สืบเนื่องมาจาก เดือนที่ผ่านมาเป็นเดือนแห่งความรัก ที่รักไม่มีของขวัญให้เหมียวๆสักชิ้น แต่เหมียวๆก็ซื้อดอกไม้ให้ที่รักนะคะ ที่รักบอกแต่ว่าไว้สิ้นเดือนก่อน เหมียวๆก็งงสิค่ะ ทำไมต้องรอสิ้นเดือน จะเซอร์ไพรส์อะไรทำไมต้องรอนานขนาดนั้น..จนถึงสิ้นเดือนค่ะ เหมียวๆซึ่งจำได้ทุกอย่างก็ทักท้วงค่ะ ไหนละๆๆๆ?? ที่รักก็เลยบอกว่า เดี๋ยวรอวันพรุ่งนี้นะ วันที่ 1 มีนาคม เดียวเราไปที่ที่นึงกัน เราก็นัดกันค่ะ โดยที่เหมียวๆต้องขับรถจากบ้านไปเจอที่รักแถวที่ทำงานแถวอ้อมใหญ่ก่อน เนื่องจากเหมียวๆอยู่ฝั่งธนบุรี การเดินทางของเหมียวๆเลยใช้เส้นกัลปพฤกษ์ เพื่อเข้าสู่เส้นกาญจนาภิเษกแล้วเลี้ยวซ้ายออกเพื่อไปเข้าเส้นเพชรเกษมหรือเส้นที่เขียนว่าไปนครปฐมอีกทีค่ะ ที่เหมียวๆใช้การเดินทางเส้นนี้ ก็เนื่องมาจากเส้นเพชรเกษมเกือบทั้งเส้นกำลังก่อสร้างรถไฟสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง – บางแค) อยู่ค่ะ ทำให้รถติดมากๆ หลังจากเหมียวๆเจอที่รักที่อ้อมใหญ่ ก็เปลี่ยนไปใช้รถที่รักค่ะ ที่รักจะเป็นคนพาเหมียวๆขับขึ้นไปตามเส้นเพชรเกษมทางที่ไปนครปฐมเลยค่ะ เป้าหมายที่เหมียวๆยังไม่รู้ก็คือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
สามารถศึกษาเส้นทางตามแผนที่นี้ได้เลยนะค่ะ เหมียวเอาแผนที่มาจากเวปไซด์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสนค่ะ
เช้าวันนั้นเหมียวๆยังไม่ได้ทานข้าวมา ที่รักเลยถามเหมียวๆขึ้นมาว่า ระหว่างทางไปเราจะแวะทานอะไรกันดี มีให้เลือกระหว่างแมคโดนัลด์ในปั๊ม กับ ข้าวหมูแดงขึ้นชื่อของนครปฐม “เหมียวก็คิดว่า ชิส์ๆๆถามมาได้ กินแมคอะไรกันล่ะ เดินทางทั้งทีขอกินอะไรแบบที่ไม่ได้หม่ำบ่อยๆไม่ได้หรือไง?” (จริงแล้วเพราะที่รักรู้ว่าเหมียวๆโปรดปรานแมคมากๆค่ะ) แต่ก็ตอบทำเสียงน่ารักๆแบ๊วๆไปว่า ข้าวหมูแดงน่าจะดีกว่านะคะ น่าลองมากกว่า ส่วนสาขาที่เหมียวๆไปทาน จะอยู่เส้นเพชรเกษมขาไปเลยค่ะ เห็นที่รักบอกว่าเป็นสาขาที่ 2 ค่ะ เพราะสาขาแรกอยู่แถวๆพระปฐมเจดีย์ สาขานี้จะตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม เลยแยกบิ๊กซีนครปฐมมาค่ะ ร้านจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ จะเห็นป้ายร้านสูงๆชื่อร้านปฐมโภชนา ก็ชิดซ้ายได้เลยค่ะ โดยด้านหน้าของร้านจะมีที่จอดรถ
วันเสาร์เช้าแบบนี้เหมียวๆนึกว่าคงจะไม่ค่อยมีคน เพราะเห็นว่ามีรถจอดอยู่บ้าง แต่พอสั่งอาหารไปสักพัก คนก็ทยอยมากันจนเกือบเต็มร้านค่ะ อากาศภายในร้านถ่ายเทดี เพดานสูง ไม่แออัดค่ะ
เหมียวสั่งน้ำมะพร้าวมาดื่มให้สดชื่นค่ะ ระหว่างรอก็ถ่ายรูปเล่นที่โต๊ะไปก่อน
ที่ร้านจะมีเมนูให้เลือกสั่งหลายอย่างค่ะ นอกจากข้าวหมูแดง หมูกรอบ ก็มีก๋วยเตี๋ยว เผือกทอดเต้าหู้ทอด หรือหมูสะเต๊ะ ส่วนเมนูของเราก็ตามของขึ้นชื่อของเค้าแหละค่ะ
ที่รักสั่งข้าวหมูแดงหมูกรอบ
ส่วนของเหมียวๆจัดเต็มคะ ข้าว 3 หน้า โดยเพิ่มเป็ด และราดน้ำเป็ดมาด้วย จริงๆแล้วถ้าสั่ง 4 หน้าก็จะมีไก่เพิ่มมาค่ะ
หม่ำๆแล้วขอติชมคะ หมูแดง หมูกรอบของที่นี่อร่อยใช้ได้เลยค่ะ น้ำราดมีกลิ่นหอมเครื่องเทศนิดๆ หนังเป็ดย่างกรอบหอมดี แต่น้ำเป็ดไม่ค่อยเข้มข้นค่ะ ราดน้ำจิ้มกับพริกหน่อยก็อร่อยขึ้นค่ะ รวมๆเหมียวว่าก็อร่อยใช้ได้เลยคะ
ส่วนของหวานของที่นี่ก็คือ ขนมถ้วยค่ะ มีวางไว้ให้ทานบนโต๊ะ ทุกโต๊ะเลยค่ะ
ทานเสร็จก็เดินทางกันต่อค่ะ ระหว่างทางที่รักก็พูดขึ้นมาว่า เอ๊ะพี่จำไม่ได้ว่าต้องเลี้ยวตรงไหน เหมียวๆก็ถามว่าแล้วที่รักจะไปไหนละคะ ที่รักบอกว่ามหาวิทยาลัยเกษตร เหมียวๆก็มองหน้าเค้าแบบงงๆ แล้วถามไปว่า ที่รักจะพาเหมียวๆไปทำไมที่นั่นคะ? มหาลัยเกษตรมีอะไรหรอคะ? หรือมีงานแฟร์สัตว์เลี้ยงที่เหมียวๆชอบรึเปล่า? ที่รักก็เงียบค่ะ บอกแค่ว่าลองดูทางให้หน่อย ก็เลยใช้ google map ตามทางไปโลดเลย
ที่รักบอกว่าต้องเข้าทางประตู 3 นะ แล้วประตู 3 อยู่ที่ไหนละเนี่ย เหมียวๆก็ไม่เคยมาที่นี่ด้วย ก็เลยขับตามข้างรั้วไปเรื่อยๆ ก็ขอให้ได้เข้าไปใน ม . ก่อนเรื่องหาประตูค่อยว่ากัน พอเข้าไป ก็มีป้ายบอกทางเรื่อยๆค่ะ แต่เรา 2 คนก็งงมาก ขับไปขับมาก็ไปเจอสระค่ะ สระนี้ชื่อสระพระพิรุณค่ะ รอบๆจะมีเจ้าต้นไม้ที่ออกดอกสีชมพูอยู่ ที่รักบอกว่าเจ้าต้นนี้แหละที่จะพามาดู
เราก็จอดรถลงไปดูกันค่ะ วันเสาร์นี้แดดแรงมากๆ ระหว่างที่เหมียวๆยืนดู นั่งดูต้นไม้ที่มีดอกสวยๆ ที่รักก็เดินไปเก็บภาพค่ะ
เหมียวๆเองเกิดมาก็เพิ่งรู้จักชื่อเจ้าดอกของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ค่ะ แต่ถ้าถามว่าเคยเห็นบ้างไหมก็ตอบเลยค่ะว่าเคยเห็น ก็ยังคิดอยู่ว่าต้นนี้สวยดีมี ดอกสีชมพู แต่ส่วนใหญ่จะเห็นปลูกแค่ต้นสองต้น ไม่เคยเห็นแบบเยอะๆค่ะ ที่เห็นผ่านตาบ้างที่คนนิยมไปถ่ายรูปก็ ต้นพญาเสือโคร่งที่ภาคเหนือและอีสานค่ะ
เหมียวๆขอนำความรู้เกี่ยวกับต้นไม้ที่ออกดอกสวยงามแบบนี้มาแชร์ให้เพื่อนๆทุกคนทราบกันนะคะ ชมพูพันธุ์ทิพย์มีชื่ออื่นๆว่า ชมพูอินเดีย ตาเบบูยา หรือ ธรรมบูชา และมีชื่อวิทยาศาสตร์ Tabebuia rosea (Bertol.) DC. ส่วนฤดูที่ดอกบาน ก็ช่วงกุมภาพันธ์ ถึงเมษายนค่ะ ส่วนที่มาของเจ้าต้นนี้มาจาก ต้นกำเนิดของชมพูพันธุ์ทิพย์ อยู่ในเขตร้อนของทวีปอเมริกาใต้ ต่อมาได้ถูกนำไปปลูกในเขตร้อนทวีปต่างๆอย่างแพร่หลายรวมทั้งประเทศไทย สำหรับประเทศไทยมีบันทึกเป็นหลักฐานว่า กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิต และ ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร เป็นผู้นำเข้ามาในประเทศครั้งแรก จึงตั้งชื่อตามสีดอก และเป็นเกียรติแก่ผู้นำเข้าว่า ชมพูพันธุ์ทิพย์ ซึ่งชื่อเดิมคือ ตาเบบูยา หรือมีชื่ออื่นๆ คือ แตรชมพู ดังนั้นชื่อในภาษาอังกฤษคือ Pink Trumpet Tree ตามลักษณ์ของดอกนั่นเอง
โดยเหมียวๆนำข้อมูลคร่าวมาจากเวป http://www.thaigoodview.com/node/110596 ค่ะ
นอกจากจะมีที่ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนแล้ว ก็ยังมีปลูกที่สวนรถไฟ หรือที่เกษตรศาตร์ บางเขน และอีกหลายๆที่ค่ะ
ถึงแดดจะร้อนแต่เหมียวๆก็มีความสุขกับเจ้าดอกสีชมพูมากๆ ทั้งบนต้น และที่ร่วงโรยแล้วบนพื้น
หลังจากที่เราอิ่มเอมกับชมพูพันธุ์ทิพย์รอบๆสระที่เริ่มโรยรา เนื่องจากบานมานสักพักแล้ว ที่รักก็พาเหมียวๆมุ่งหน้าต่อไปที่สาธิตเกษตรศาสตร์ ที่รักบอกว่าบริเวณนั้นน่าจะสดและสวยกว่า และมีเจ้าต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ปลูกเรียงกันตลอดแนวถนน ยาวกว่ากิโลเลยค่ะ
พอขับมาถึงก็ร้องออกมาได้คำเดียวว่า ว๊าว เพราะว่าดอกมันสดกว่า และสวยกว่ารอบๆสระซะอีก ค่ะ ถึงจะไม่ได้ขึ้นเรียงกันทุกต้น แต่ก็จะมีบานทั้งต้นเป็นจุดๆ จุดละ 4-5ต้นเรียงกัน
จุดแรกที่เราแวะดู มีพี่ๆที่มาถ่ายรูปอยู่ก่อนแล้ว เค้าขึ้นไปยืนบนรถของเค้าเพื่อซูมๆ เจ้าดอกหวานๆทีละช่อเลยค่ะ
เจ้าช่อพวกนี้ที่พี่เค้าลงทุนปีนขึ้นไปเพื่อถ่าย สดและสวยกว่าตรงรอบๆสระพระพิรุณค่ะ
ถ่ายย้อนขึ้นไปจากใต้ต้น เพื่อเก็บบรรยากาศสวยๆของต้นที่ยังมีใบให้ร่มเงาอยู่
ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็สวยจริงๆค่ะ
ต้นนี้ออกดอกสวย เหมียวๆเลยขอถ่ายรูปเก็บเอาไว้บ้างค่ะ
หลังจากเก็บภาพสวยๆบริเวณนี้แล้วเราก็ขับกันต่อไปเพื่่อไปถ่ายเพิ่มค่ะ มาแวะชมเจ้าต้นนี้ ดอกสดมากๆค่ะ
ดอกของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ทั้งสวยหวานและหอมจนผึ้งยังต้องมาเชยชมจิบน้ำหวาน
บริเวณนี้ออกดอกเยอะมากๆจนแทบจะไม่เหลือใบไว้เลยค่ะ
กิ่งสีน้ำตาล และลำต้นที่ดูแข็งแรง แถมยังมีดอกสวยๆแบบนี้ ถึงร้อนแค่ไหน เหมียวๆก็ยอมลงมาจากรถเพื่อดูต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ค่ะ
มองจากมุมนี้ขึ้นไป ทำให้เหมียวๆรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ท่ามกลางดอกไม้ที่ร่วงหล่น เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ยังไม่เคยสัมผัสค่ะ
เหมียวๆก็มีแอบเก็บภาพไว้บ้างด้วยเลนส์ sony qx 100 ของที่รักตัวนี้ค่ะ
แอบหยิบดอกที่ปลิวหล่นอยู่มาทัดหูค่ะ หลังจากถ่ายเสร็จก็โดนดุเลย ว่ารู้ไหมบางที่เค้าห้ามเก็บ ห้ามหยิบไปนะ
งั้นก็เอามาเป็น Prop ถ่ายรูปเก๋ๆแทนก็ได้
ภาพของต้นหญ้ากับดอกชมพูพันธุ์ทิพย์สวยๆที่พื้นค่ะ
เหมียวยืนจนเมื่อยเลยขอนั่งบ้าง
กำลังมองที่คนอื่นๆเค้าถ่ายรูปกันค่ะ เลยโดนแอบถ่าย
พอที่รักถือกล้องมาใกล้ๆ เหมียวๆเลยขอร้องให้ที่รักช่วยถ่ายภาพให้
ลุคตามมาเลยค่ะ เดินไปชมกันต่อค่ะ
ดอกที่ร่วงโรยก็สวยจนไม่อยากจะเหยียบเลยค่ะ
ระหว่างทางที่เดินไป ก็จะมีพี่ๆเพื่อนๆ เอากล้องมาถ่ายภาพสวยๆเก็บเอาไว้ค่ะ
พี่ผู้หญิงคนนี้กำลังเล็งถ่ายพวงดอกของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ค่ะ
พวงนี้เองที่เค้ากำลังสนใจเก็บภาพ เราก็เลยแอบเก็บภาพตามเค้าค่ะ
เดินไปจนเกือบสุดทางเข้า เหมียวๆก็เจอกับพี่ช่างภาพคนนึง กำลังนอนถ่ายภาพท่านี้อยู่ค่ะ
มองไปตามกล้องของพี่เค้าก็ร้องอ๋อ ขึ้นมาเลยค่ะ พี่เค้ามาถ่ายพรีเวดดิ้งให้คู่บ่าวสาวค่ะ
เค้าคงได้ภาพสวยๆกลับไปเหมือนเหมียวๆ เพราะว่าบรรยากาศเหมือนอยู่ต่างประเทศ โดยไม่ต้องซื้อตั๋ว แพคกระเป๋าไปถ่ายเลยค่ะ
หลังจากดูเค้าถ่ายสักพัก เหมียวๆเลยขอให้ที่รักถ่ายให้บ้าง
ถึงแดดจะแรงแสบตาแต่ก็สู้ตายค่ะ
ที่รักไม่เค๊ย ไม่เคยเลยจะถ่ายให้เหมียวๆดูผอมๆบ้าง แต่ก็เอาเถอะถือซะว่าเก็บวิวและบรรยากาศ
ระหว่างถ่ายรูปเล่นก็มีเจ้าน้องหมาวิ่งมาเล่นด้วยค่ะ เลยตั้งชื่อให้เองว่าคอนเนตโต้ เพราะว่าลายของเค้าค่ะ สีแปลกดีไม่เคยเห็น
น้องเค้าน่ารักมากๆเลยยอมให้จับเล่นเหมือนรูปแรก เหมียวๆแกล้งเอาดอกของต้นชมพูพันธุ์ทิืพย์ไปวางน้องเค้าก็ยืนยอมให้วาง
ถึงเวลากลับบ้านแล้วค่ะ ลากันไปด้วยภาพนี้เลยละกันนะคะ ขอขอบคุณที่ติดตามเหมียวๆดื้อและที่รักจนจบ
พอขึ้นรถแล้วที่รักถามเหมียวๆว่า เป็นยังไงบ้าง ชอบไหม? เหมียวๆก็ยิ้มค่ะ แล้วบอกไปว่าก็ต้องชอบสิค่ะ เหมือนอยู่ท่ามกลางดอกไม้ เหมือนอยู่ในฝันเลย ปกติเคยเป็นแต่นางเอกมิวสิคแนวใบไม้ร่วง เวลาลมพัดต้นไม้ที่มีใบแห้งๆ ต่างจากครั้งนี้เลยค่ะ ก็เหมียวก็ไม่เคยมีประสบการณ์แบบเดินไปตามทางท่ามกลางดอกไม้ร่วงแบบนี้นี่คะ…ถ้าคิดว่านี่คือของขวัญวาเลนไทน์ เหมียวๆก็คิดว่า ของขวัญของเหมียวๆชิ้นนี้ต่างออกไป เพราะที่รักพาเหมียวๆมาดูดอกไม้สวยๆจากต้นเลย ไม่ใช่ดอกไม้ที่ถูกตัดมาจากต้นเพื่อมาตบแต่ง จนบางทีความสวยงามที่โดดเด่นของดอกไม้เหล่านั้นหายไปแล้วค่อยนำมาให้ เหมียวเข้าใจแล้วว่าดอกไม้ที่อยู่กับต้นของมันเองสวยที่สุดแล้วจริงๆค่ะ อยากให้ทุกๆคนที่ไปช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยนะคะ ไม่ทำลายหรือหักกิ่งของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เพื่อเก็บกลับบ้านค่ะ
ต้องขอขอบคุณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนที่ปลูกต้นชมพูพันธุ์ทิพย์สวยๆ ไว้ให้คนที่ผ่านไปมา หรือเหล่าผู้รักการถ่ายภาพมาเก็บภาพ ขอบคุณที่รักสำหรับของขวัญสุดพิเศษชิ้นนี้
สุดท้ายนี้..ความรักและการเดินทางของเหมียวๆอาจจะไม่ได้สวยหรูเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาย แต่โรยด้วยความสุขสดใสกับดอกไม้สวยๆสีหวานๆจากต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ ก็ทำให้เหมียวๆปลื้มที่สุดแล้วค่ะ
ปล.หากคุณอ่านรีวิวมาถึงตรงนี้ เหมียวๆได้ใช้เวลาและพลังงานมากมายในการเขียนรีวิวเพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์และประโยชน์แก่ผู้เดินทาง หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่คนทำรีวิวหน่อยนะคะ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า…
ฝากกด Like ติดตามกันใน Facebook https://www.facebook.com/kitkatkittenfans
Kit Kat Kitten
ถึงแม้จะมีคนบอกว่า "แตงโม" เป็นสาวออฟฟิตใช้ชีวิตวุ่นๆเกือบทั้งหมดไปกับการทำงาน จนไม่มีเวลาไปไหนต่อไหน แต่ความเป็นจริงนั้น Lifestyle ของสาวลั่นล๊าแบบแตงโมไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ก็แตงโมทั้งชอบกิน ชอบเดินทางไปเที่ยว เป็นสาวสังคม และเป็นรักสัตว์ แบบนี้ จะพลาดชีวิต Chic Chic ไปได้ยังไง ความสุขเล็กๆของแตงโม คือการได้เดินทางไปในที่ต่างๆ และชื่อเหมียวๆนี้แตงโมจะนำมาใช้เป็นนามปากกาเวลาเขียนรีวิว ในทุกๆที่ที่แตงโมไปสัมผัส แตงโมรักที่จะเขียนเรื่องราว แบ่งปันความทรงจำ แชร์ความประทับใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆทุกคนค่ะ Kit Kat Kitten Fanpage https://www.facebook.com/kitkatkittenfans