เที่ยวเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนิเซีย เดิมทีเป็นดินแดนที่ไม่รู้จักที่เที่ยวเลย รู้แค่ว่ามันอยู่ใกล้ๆกับมาเลเซีย จนวันหนึ่งเราได้รับคำเชิญจากการท่องเที่ยวอินโดนิเซีย ให้ร่วมเดินทางไปในฐานะสื่อมวลชน พร้อมติดตามคณะกองถ่ายของรายการทัวร์ดีดี เดอะซีรี่ย์ ไปรู้จักและถ่ายทำรีวิวที่เที่ยวมาฝากกัน
เกาะสุมาตราตั้งอยู่ในเขตเส้นศูนย์สูตร แต่ภูมิประเทศเป็นภูเขาและที่ราบสูง สลับกับปล่องภูเขาไฟธรรมชาติที่สงบแล้ว จนเกิดเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่อย่าง Lake Toba สภาพอากาศต้องใช้คำว่าหนาวเย็น 18-25 องศาตลอดปี มาพร้อมกับวิวสวยๆ และธรรมชาติอันงดงาม เหมาะสำหรับนักเดินทางชาวไทยที่ชื่นชอบอากาศเย็นๆ ให้ใส่เสื้อกันหนาวกัน แถมก็ไม่ไกลจากไทยอีกด้วย มันมีอะไรเที่ยวบ้าง สนุกแค่ไหน ตามไปรับชมรีวิวกันครับ
ใครชอบรับชมแบบวิดีโอ ตามไปรับชมกันก่อนได้เลยครับ
การเดินทางสู่เกาะสุมาตราเหนือ ปัจจุบันที่ง่ายที่สุดคือ สายการบินแอร์เอเชียครับ มีบินตรงสู่เมืองเมดาน Medan ซึ่งเป็นเมืองเอกของเกาะสุมาตราเหนือได้แบบสบายๆ ใช้เวลาบินประมาณเพียง 2 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแล้วครับ
เส้นทางเที่ยวของคณะเดินทางเราจะมีไฮไลท์ดังนี้นะครับ
ลงเครื่องบินที่ Medan แล้วนั่งรถต่อไปเที่ยวเมือง Parapat ล่องเรือชมความงามของทะเลสาบโทบะ (Lake Toba) เที่ยวหมู่บ้านมนุษย์กินคนดั้งเดิม เค้ามีวัฒนธรรมและสถาปัตถกรรมเด่นสุดๆ เที่ยวน้ำตก Sipisopiso พักโรงแรมสุดหรู Simalem Resort และชมพูเขาไฟ Mount Sinabung
แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าหากคิดจะวางแผนมาเดินทางเอง จะยากลำบากหน่อยนะครับ เพราะรถสาธารณะของที่นี่ไม่ค่อยจะมี ไม่สะดวกต่อการเดินทางเลย หากใครชมรีวิวนี้แล้วอยากเดินทาง แนะนำให้มากับทัวร์จะดีกว่าครับ สะดวกเรื่องการเดินทางมากๆ รายละเอียดเพิ่มเติม ตามลิงก์นี้ไปเลย https://www.facebook.com/pearlwholesale/
อ่ะ ออกเดินทางกันเลยดีกว่า เริ่มทริปด้วยการแวะเข้าห้องน้ำระหว่างทาง เค้าจะมีตู้ให้หยอดค่าใช้บริการเอง เสียทีเป็นหลักพันหลักหมื่นนะครับ ส่วนใหญ่จะเก็บประมาณ 2,000 รูปี (INR) แต่ไม่ต้องตกใจนะครับ เพราะเงินเค้าถูกมาก อัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ 1,000 บาท แลกได้ประมาณ 330,000 รูปีแน่ะ ซึ่ง 2,000 รูปีก็แค่ประมาณ 6 บาทเองครับ
เค้าแวะร้านขนมท้องถิ่นชื่อดังระหว่างทาง คือ ขนมจะคล้ายๆที่เราทานกันที่โรงเจ เป็นกาละแม,ถั่วตัด แต่ชื่อนี่เรียกสนุกมากครับ ทั้ง ปิงปิง, ติงติง, ปิงแปง ฯลฯ
จุดแวะแรก เรามาเที่ยวที่เจ้าแม่กวนอิมครับ องค์สูงพอสมควรเลย เค้าบอกว่าสามารถขอเรื่องการค้าได้ด้วยนะ
คุณนายแอนวันนี้มากับชุดแดงแสบตากันเลยทีเดียว
นั่งรถยาวๆมาถึงเมือง Parapat คณะทัวร์ก็เข้าเยี่ยมชม Geopark Museum กัน
เค้าก็จะมีข้อมูลต่างๆ อธิบายเกี่ยวกับปล่องภูเขาไฟที่สงบลงแล้วหลักแสนปี และเมื่อฝนตกลงมาก็เกิดเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่อย่าง Lake Toba ที่มีเกาะตรงกลางที่ชื่อว่า Samosir Island ซึ่งเกาะตรงกลางนี้ขนาดใหญ่กว่าเกาะสิงคโปร์อีกนะ โอ้โห ลองคิดดูว่าป่องภูเขาไฟที่เป็นทะเลสาบโทบะจะมีขนาดใหญ่โตแค่ไหน
คืนนี้เราพักกันที่โรงแรม Inna Parapat ซึ่งเป็นโรงแรมเก่าแก่มากๆของเมืองนี้ ห้องพักก็เลยจะเก่าไปหน่อย
แต่ชดเชยด้วยวิวจากห้องพักที่มองเห็นทะเลสาบ Lake Toba สวยๆแบบนี้
มีมุมถ่ายภาพเพียบเลย
น้ำในทะเลสาบใสพอสมควร แต่ที่ชอบคืออากาศเย็นเลย อุณหภูมิอยู่ 18-25 องศา ตลอดปีนะ
วันนี้เราจะไปล่องเรือในทะเลสาบโทบะ Lake Toba กัน
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนะ ลมเย็นๆโกรกเพลินมากๆ แอบหลับไปเลยครับ
จุดหมายของเราคือหมู่บ้านของชนเผ่าดั้งเดิม Simanindo แวะมาร้านกาแฟก่อน เจ้าของบ้านให้เดินเล่นภายในบ้านได้เลยนะ
เค้าจะจัดพิพิธภัณฑ์พวกอาวุธและเครื่องมือเครื่องใช้ของชาวบ้านไว้ให้พวกเราชม
มีซุ้มประตูสวยๆ ผ่านประตูไปดูการแสดงกัน
สถาปัตยกรรมบ้านที่นี่แปลกตามาก หลังคาของบ้านจะคล้ายๆเรือเลย
การแสดงเริ่มแล้ว เป็นการเต้นรำแบบดั้งเดิมของชนเผ่าที่นี่ สื่อถึงวัฒนธรรม ความเชื่อ และวิถีชีวิตของพวกเค้า
ที่เห็นในภาพ ไม่ใช่บ้านที่คนอยู่นะ แต่คนที่นี่นิยมสร้างสุสานกันบนพื้นดินแบบนี้ครับ เรียกว่าเหมือนสร้างบ้านให้ผู้ล่วงลับเลย
คนบนเกาะสุมาตราเหนือส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกนะครับ ที่นี่จะมีโบถส์แบบนี้เยอะมากๆ เหมือนวัดไทยในไทยเลยทีเดียว
นั่งเรือมาเที่ยวต่อกันที่อีกหมู่บ้านที่ชื่อว่า Ambarita
หมู่บ้านนี้มีความพิเศษตรงที่จะมีศาลก้อนหินอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งอยู่ด้านหน้าบ้านของหัวหน้าเผ่าอีกที โดยศาลก้อนหินนี้ จะเป็นโต๊ะเก้าอี้ที่ทำมาจากหิน เมื่อมีคดีความเกิดขึ้นในหมู่บ้าน ก็จะใช้สถานที่นี้ในการพิจารณาคดีนั่นเอง
เขาควายบริเวณเหนือประตู นี่เป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านครับ
ส่วนนักโทษที่ถูกพิจารณาคดี หากมีความผิดจริง คนที่นี่จะถือว่าเค้าไม่ใช่มนุษย์ทันที จะถูกนำตัวมากักขังไว้ใต้ถุนบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน คนที่เดินผ่านไปมาจะถ่มน้ำลายรด
และเมื่อฤกษ์ยามเหมาะสมแล้ว จะถูกนำไปประหารชีวิตตามพิธีกรรมอีกที
คุณนายแอนได้ลองใส่ชุดท้องถิ่นด้วย
เค้าก็มาชวนคณะเดินทางของพวกเราร่วมเต้นรำแบบดั้งเดิมด้วย
บ่ายๆ มาชมวิวกันที่ Menara Pandang Tele ซึ่งอยู่บนเขาสูง ที่มีหอชมวิวให้ชมกัน
และต้องขอยกนิ้วให้ภูเขาแถบนี้จริงๆ เพราะมันมีความสวยงามไม่เหมือนใครเลย ถือว่าเป็นประเทศที่มีวิวเหนือชั้นเลยทีเดียว
ขอเก็บภาพคู่กับภรรยาหน่อยนะครับ
มาชมคลิปเที่ยวตอนที่ 2 กัน
เช้าวันใหม่ เรามานั่งชมวิวจิบชากันที่ริมทะเลสาบโทบะ Lake Toba กัน วิวสวย ฟินชะมัด
จากตรงนี้ ไกด์บอกเราว่าให้หันไปดูโขดหินบริเวณนั้น และจิตนาการว่ามี Hanging Lady Stone หรือหินหญิงสาวห้อยหัวอยู่
เรื่องราวมีอยู่ว่า มีพระราชาองค์หนึ่งต้องการให้ลูกสาวไปแต่งงานกับชายหนุ่มที่ตนต้องการ แต่ลูกสาวไม่ยินยอม หนีมาจะกระโดดน้ำตาย แต่ขาดันไปติดกับหิน ห้อยหัวลงมา พระราชาตามมาเห็นแทนที่จะช่วยเหลือลูกสาวของตัวเอง กลับโกรธที่ลูกสาวขัดคำสั่ง จึงสาบให้กลายเป็นหินห้อยหัวอยู่บริเวณโขดหินนี้นั่นเอง
นั่งรถต่อมา ถึงกับจุดจอดพักรถแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Simarjarunjung จุดนี้จะมีคนทำจุดให้คนเข้ามาถ่ายภาพ เสียค่าถ่ายภาพเล็กน้อยประมาณ 5,000-10,000 รูปีต่อจุด (อย่าคิดวาแพงนะ ประมาณ 15-30 บาท)
สะพานแขวนกับวิวด้านหลังนี่มันสวยสุดยอดเลย
มีรังนกให้ขึ้นไปห้อยด้วยนะ
สีฟ้าของน้ำทะเลที่ขับภาพให้ดูมีสีสันจริงๆ
ถ่ายภาพกันสนุกเลยครับ
วิวตลอดสองข้างทางของเกาะสุมาตราเนี่ย จะเป็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าเขียวๆ ภูมิประเทศแบบนี้สวยงามมากจริงๆ
มื้อเที่ยงแวะทานอาหารซีฟู้ดส์ท้องถิ่นสักหน่อย จานแรกเป็นกุ้งล็อปสเตอร์ที่จับได้จาก Lake Toba ขนาดของล็อปสเตอร์จะประมาณกุ้งลายเสือไซส์ใหญ่ๆหน่อยของบ้านเรา แต่หัวจะเล็กหน่อย เนื้อสดมากเอามาผัดเปรี้ยวหวาน รสชาติดี
ปลาน้ำจืดท้องถิ่นจาก Lake Toba ชื่อสายพันธุ์อะไรจำไม่ได้ครับ แต่เป็นตระกูลญาติกับปลานิล
ตอนเสิร์ฟมานี่ถึงกับส่ายหัวในความเกรียมจนเกินไป แต่พอชิมเท่านั้นแหละ คือหอมมาก คือเค้าไม่ได้พลาดย่างจนไหม้นะ แต่ทุกโต๊ะย่างมาดำๆแบบนี้เลย 555 เลยได้เนื้อปลาหวานๆที่ย่างมาหอมๆ
ผัดผักบุ้ง ผัดรสชาติคล้ายๆบ้านเรา แต่จะใส่มะเขือเทศด้วย ผักสดกรอบ ทานอร่อยเลย
และอีกแลนด์มาร์คสำคัญที่พลาดไม่ได้เลย คือ น้ำตกสิปิโซปิโซครับ ภาพที่มองเห็นทำให้ผมคิดถึงภาพน้ำตกสวงสวรรค์ในหนังการ์ตูนเรื่อง Up ของ Walt Disney เลย
มาถ่ายภาพสนุกๆกันบ้างเนอะ เหมือนเทน้ำออกจากขวดเลย
วิวอีกด้านก็สวยจริงๆ
กระโดดกันหน่อยนะ โย่วๆ
คืนนี้เราพักกันที่โรงแรมที่หรูที่สุดของเกาะสุมาตราเหนืออย่าง Simalem Resort
หองพักใหม่ กว้างและสะอาดมาก
ห้องน้ำจะแปลกๆหน่อย เอาอ่างไปไว้ด้านใน สลับกับที่อาบน้ำไว้ด้านนอก อาบน้ำทีเปียกหมดทั้งห้องครับ 5555
ทีเด็ด คือ ถ้าเราตื่นเช้ามา อาจจะมีโอกาสเจอกับทะเลหมอกได้เลย แต่วันที่ไปไม่เจอนะ แต่วิวขั้นเทพจริงๆ บอกเลย
อากาศเย็นถึงขั้นหนาวเลย ทานอาหารเช้ากัน อาหารน่ะหลักร้อย แต่วิวระดับร้อยล้านนะ บอกเลย
ตัวรีสอร์ทใหญ่มาก มีสวนสัตว์เป็นของตัวเองด้วย น่าเสียดายที่เรามีเวลาตรงนี้น้อยเกินไป
คณะเดินทางพาพวกเราเดินทางมาต่อยังจุดชมวิวภูเขาไฟสินาบุง Mount Sinabung
ภูเขาไฟลูกนี้ยังไม่สงบดีนะ ปะทุครั้งล่าสุดเมื่อ ก.พ. 2018 ปัจจุบันเลยมีการกำหนด Red Zone ไว้ที่รัศมี 5 กม. รอบภูเขาไฟเลยครับ
มาเดินเล่นตลาดผลไม้ของเค้ากันต่อ ที่นี่ส้ม กับอโวคาโด้ เยอะมาก ผลไม้ที่แนะนำ คือ สละ มันจะกรอบมาก แต่ของไทยจะหอมกว่านะ
ชิมข้าวโพดปิ้งสุมาตรากันหน่อย เค้าจะนิยมทาเนยไว้บนข้าวโพดด้วยนะ ทานแล้วจะเค็มๆหวานๆ อร่อยใช้ได้ครับ
อีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือ หมี่โกเร็ง เส้นเหนียวนุ่มมากๆ
เจ้ากระต่ายน้อยตามตลาดพวกนี้ นอนกองรวมกันเป็นกระจุกๆ น่ารักมากเลยครับ
ที่สุมาตรามีเจดีย์ที่จำลอง เจดีย์ชเวดากองจากพม่ามาด้วยนะ ถือเป็นที่แรกทีจำลองเจดีย์ชเวดากองขึ้นมาเลย
สถานที่นี้ชื่อว่า Lumpini Park ตัวขนาดจะเล็กกว่าที่พม่ามาก แต่ก็สวยงามน่าเที่ยวมากๆครับ
วันสุดท้ายมีเวลาเดินเล่นในตัวเมืองเมดานเล็กน้อย ที่ใจกลางเมืองยังสามารถพบเห็นสถาปัตยกรรมของชาวฮอลแลนด์ที่เคยปกครองที่นี่ตั้งแต่สมัยล่าอาณานิคมได้อยู่เลย
บินกลับไทยแล้ว เกาะสุมาตราถือว่าเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงาม วัฒนธรรมของชาวเผ่าต่างๆก็โดดเด่น ข้อเสียคือ นั่งรถนานหน่อยนะ และควรเดินทางกับทัวร์เท่านั้น
สำหรับทริปนี้ก็ต้องขอขอบคุณการท่องเที่ยวอินโดนิเซีย, รายการทัวร์ดีดี เดอะซีรี่ย์, บริษัททัวร์ Pearl Vacation และสายการบินแอร์เอเชีย ที่ชวนพวกเราไปเที่ยวเกาะสุมาตราเหนือกัน วันนี้ลากันไปก่อนนะ บะบายยยย
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป