เช้าวันเดินทางนี้ พวกเราตื่นกันตั้งแต่เช้าตรู่ ออกเดินทางจาก กทม. ประมาณ 6 โมงเช้า ใช้เวลา 5 ชั่วโมงเศษๆ ก็ถึง จ.เพชรบูรณ์
จุดมุ่งหมายแรกในการท่องเที่ยวภาคเหนือของพวกเราก็คือ “แก่งบางระจัน”
แก่งบางระจัน ตั้งอยู่ที่ บ้านหนองแม่นา ในอำเภอเขาค้อ เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ อยู่บริเวณลำน้ำเข็กติดกับอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มีธรรมชาติสวยงาม เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ นอกจากทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ยังมีพืชพรรณ สัตว์ป่านานาชนิด หอยก้นตัด ปลาท้องถิ่น ผีเสื้อมากมายหลายชนิด และยังเป็นแหล่งที่อยู่ของแมงกระพรุนน้ำจืดเพียงแห่งเดียวของประเทศไทยอีกด้วย
แก่งบางระจัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดใหม่ที่เพิ่งได้ไม่นานมานี้ ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ทำให้พื้นที่ป่าและแหล่งน้ำยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากๆครับ
ไม่น่าเชื่อว่าที่นี่สมัยก่อนจะเป็นฐานที่มั่นของ พ.ก.ค. (คอมมิวนิสต์) มาก่อน ทำให้บริเวณนี้เป็นสนามรบระหว่างทหารและ พ.ก.ค. มาก่อน
ดูแก่งบางระจันจะมีเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่อีกมากมายให้ค้นหา พายเรือเที่ยวป่า ตามหาแมงกะพรุนน้ำจืด แวะเล่นกับผีเสื้อ นี่คือจุดมุ่งหมายของพวกเราที่นี่ครับ
มารู้จักกับแมงกะพรุนน้ำจืดกันก่อนนะครับ
แมงกะพรุนน้ำจืด เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกหายากและเปราะบาง จะมีให้พบเห็นเฉพาะช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. ของทุกปี ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น (อันนี้ผมพลาดมากๆครับ ไม่ศึกษาก่อนว่าจะมีช่วงไหน ดันมาช่วงที่ไม่มี หยอกเย้า) ในโลกนี้จะพบเพียง 6 ประเทศ คือ อเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น อังกฤษ รัสเซีย และประเทศไทย
เหตุที่แมงกะพรุนที่นี่แตกต่างจากแมงกะพรุนในทะเล เนื่องจากแมงกะพรุนชนิดนี้จะมีอวัยวะพิเศษที่เรียกว่า mamubrium ซึ่งอยู่ที่ปลายของปากแล้วยืดลงไปตามโพรงภายใน Velum
นิสัยมักอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ชอบอาศัยตามรากพืช ก้อนหิน หรือตอไม้ใต้ผิวน้ำ เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดประมาณ 25 ซม. รูปร่างคล้ายร่ม มีหนวดยาวๆ รอบๆวงแหวน มีเข็มพิษจำนวนมากเพื่อใช้ในการจับเหยื่อ อาหารของมันก็คือแพลนตอนครับ
เนื่องจากวันนี้ลูกทัวร์ของผมถูกแซะมาจากที่นอนตั้งแต่ตีห้าครับ ลูกทัวร์ในคณะเลยยังไม่ตื่นเลย งั้นให้คุณนายเล็กนอนต่ออีกเดี๋ยวนะครับ ไม่รีบๆ
เส้นทางล่องเรือของแก่งบางระจันมีทั้งคอร์สเล็กคอร์สใหญ่ครับ มีตั้งแต่ 1 ชั่วโมง ยัน ครึ่งวัน สามารถเลือกได้ว่าจะแค่ชมธรรมชาติแบบชิลด์ๆ หรือว่าสามารถล่องเรือออกไปกว่า 7 กิโลเมตร รวมทั้งเดินสำรวจป่าด้านในได้อีกด้วย
แต่ของพวกเราขอแค่คอร์สเล็กนะครับ
ค่าใช้จ่ายในการล่องเรือ : ล่องเรือ 5 คนขึ้นไป คิดคนละ 150 บาท หากต่ำกว่า 5 คน คิดเหมา 600 บาท
สำหรับไกด์พาเที่ยวของเราวันนี้คือคุณลุงแสนใจดีคนนี้นะครับ คุณลุงเป็นประธานกลุ่มชุมชนคนรักป่าตำบลหนองแม่นา เคยเป็นทหารในการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ที่นี่ด้วย นอกจากนี้คุณลุงยังเป็นผู้บุกเบิกสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้อีกด้วย
การที่มีผู้บุกเบิกสถานที่รับหน้าที่ พายเรือท่องป่ากับเราวันนี้ ทำให้ได้รับข้อมูลเรื่องราวเชิงลึกของที่นี่อย่างลึกซึ้ง ต้องขอขอบคุณคุณลุง มา ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ (ขออนุญาตไม่เอ่ยนามท่านนะครับ)
อากาศของที่นี่ ถึงแดดจะแรง แต่ด้วยใกล้กับน้ำและพื้นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้พวกเราไม่รู้สึกร้อนเท่าไหร่
วันนี้สองคุณนายแต่งตัวสวยมาก รักนะ…จุ๊บๆ
เก็บภาพภรรยาสุดรักสักหน่อย
ตาผมเป็นนายแบบบ้าง คริ คริ
ต้นไม้ที่นี่ต้นสูงใหญ่ทุกต้นเลยครับ อุดมสมบูรณ์มากๆจริงๆ
นอกจากนี้ยังมีพรรณไม้ และผลไม้หายากแปลกๆอีกด้วย
พื้นน้ำสะท้อนภาพป่าและท้องฟ้าดังกระจกเลยทีเดียว
สวยงามสุดๆ เรียกว่า “อะเมซอน” เมืองไทยเลยทีเดียว
เห็นสีน้ำค่อนข้างเข้ม จริงๆแล้วที่เข้มเพราะน้ำจะลึกมากๆครับ (หลายสิบเมตร)
แต่พอนำมือลงไปสัมผัสถึงได้รู้ว่าน้ำใสสะอาดและเย็นมากๆเลยครับ คุณลุงเล่าว่าสามารถกินได้เลย รสชาติอร่อยเสียด้วย
ล่องเรือฟังเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของแก่งบางระจันเพลินๆประมาณ 20 นาที ก็ถึงกับจุดที่เรียกว่า แก่งสอง เป็นจุดชมแมงกะพรุนและผีเสื้อ น่าเสียดายที่ช่วงที่มาไม่มีแมงกะพรุนน้ำจืดให้ชมกัน ไม่เป็นไรลงไปชมผีเสื้อกันสักหน่อย
ผีเสื้อที่แก่งสองนี้เยอะจริงๆครับ มีหลากหลายสี นานาพันธุ์ สีสันสวยงาม
เหตุที่แก่งสองนี้มีผีเสื้ออาศัยอยู่เยอะ ก็เป็นเพราะว่าบริเวณนี้มีแร่ธาตุที่เป็นอาหารของผีเสื้ออยู่เยอะครับ
ตัวนี้สีเขียวสดสวยเชียวครับ
งานนี้คุณนายเล็กเลยวิ่งเล่นกับผีเสื้อสนุกสนานเพลิดเพลินมากๆครับ
คุณนายเล็กยื่นมือขอให้คุณผีเสื้อทั้งหลายช่วยมาเกาะบนผ่ามือเธอหน่อย น่ารักมากๆครับ
ท่านใดมีลูกมีหลาน แนะนำให้พามาที่นี่ เพราะเด็กๆจะได้เรียนรู้กับธรรมชาติ และเล่นกับผีเสื้อและสัตว์ต่างๆ นอกจากจะสนุกสนานแล้ว ยังช่วยทำให้จิตใจอ่อนโยนรักสัตว์ด้วยครับ
ได้เล่นกับผีเสื้อเยอะๆแบบนี้ สองคุณนายก็เพลินกันเลยหละครับ
… บางครั้งคนเราก็มัวแต่แสวงหาแต่เงินทองทรัพย์สมบัติ หลงคิดไปว่าจะนำพาความสุขให้กับตัวเราได้ …
… เงินทองอาจจะซื้อหลายอย่างได้ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถซื้อความสุขที่แท้จริงได้ …
… หลงลืมกันไปว่าความรักนำพามาซึ่งความสุข …
… ความจริงแล้ว ความสุขมักอยู่ใกล้กับความรักเสมอ …
… แล้วคุณเจอความรักแล้วหรือยัง? …
… หากคุณค้นพบความรักแล้ว ผมเชื่อว่า …
… ไม่นานคุณก็จะเจอกับความสุขที่อยู่ใกล้ๆกันนั่นเอง …
มองต่อไปในภาพคือทางล่องน้ำไปต่อยังแก่งสาม สามารถไปชมแหล่งกุหลาบพันปี และร่องรอยการสู้รบของพื้นที่แห่งนี้ได้ แต่สำหรับพวกเราขอแค่แก่งสองนี้หละกันครับ
ถึงเวลาล่องเรือลาจากผีเสื้อแล้ว คุณนายเล็กโบกมืออำลาผีเสื้ออย่างเศร้าๆ น่าสงสารจัง
ระหว่างทางมีต้นไม้แปลกตาให้ชมอยู่ตลอด อย่างเช่นต้นนี้คือต้นตะไคร้ครับ แต่คนละตะไคร้ที่เราๆรู้จักกันครับ กินไม่ได้
หลังจากจ้องเล็งอยู่นาน คุณนายเล็กก็ขอเอามือลงเล่นไปในน้ำ เล่นน้ำเย็นๆทำให้หายคิดถึงผีเสื้อลงไปบ้าง
คุณลุงยังบอกว่าระหว่างทางมีจุดแวะชมและให้อาหารปลาด้วยครับ
พอเรือล่องผ่านจุดนี้เท่านั้นแหละครับ ฝูงปลาฝูงใหญ่ก็ออกมาต้อนรับพวกเราทันที เยอะมากๆๆๆครับ
สองคุณนายมองด้วยความตกตลึงว่าทำไมปลามันเยอะและตัวใหญ่ขนาดนี้เนี่ย
พอโยนอาหารปลาลงไปเท่านั้น ปลาตะเพียนทองก็รุมแย่งอาหารกัน แต่ละตัวช่างตัวใหญ่และแข็งแรงมากๆ
สองคุณนายเลยสนุกสนานกับการให้อาหารปลามากมาย ก่อนจะกลับมาถึงที่จอดเรือ
ลาแล้วจ้า แก่งบางระจัน หากให้ได้มีโอกาสมาเที่ยวเขาค้อ หาเวลามาเที่ยวที่นี่นะครับ นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แสนประทับใจจริงๆครับ
ชอบรีวิวการเดินทาง ก็อย่าลืมให้กำลังใจด้วยการกด Like หรือ Share และ Comment กัันหน่อยนะครับ
กรอกอีมเล์รับข่าวสาร ไม่พลาดทุกรีวิวจาก 2 Madames.com จ้า
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป