2Madames.com

Leave a Comment

ผมกับภรรยาทำธุรกิจส่วนตัว วันๆหนึ่งมีภารกิจเยอะมากครับ ทั้งออกไปพบลูกค้า ประสานงานกับลูกค้า นอกจากธุรกิจที่ต้องดูแลหลายอย่างแล้ว ยังต้องมีลูกๆ 2 คนให้ต้องดูแลอีก แล้วเราก็ชอบเดินทาง ไหนจะต้องวางแผนเดินทาง พอสิ่งที่ต้องทำมันเยอะ กว่าจะได้พักผ่อนก็มีเวลาน้อยมาก บางทีก็เกิดอาการเครียดขึ้นมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เจ้าความเครียดหน้าตาเป็นยังไงเราไม่เคยเห็นหรอก แต่อาการของมันเรียกว่าจู่โจมเราทุกวันแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ช่วงที่เครียดสุขภาพทั้งกายและใจก็จะแย่ลงจากความเครียดด้วย วันนี้จะมาแนะนำวิธีคลายเครียดในรูปแบบของผมกันนะครับ มีอะไรบ้าง ตามไปอ่านกันจ้า

อาการเครียดเป็นยังไง บางครั้งเราก็ไม่รู้ตัวว่าเครียดนะ

เชื่อมั้ยครับว่าแต่ก่อนตอนที่ผมเครียดมากๆ มันเครียดโดยที่ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองเครียด เครียดจนเกิดอาการปวดหัวมากๆถึงกับต้องหาหมอ ถึงได้รู้ตัวเป็นอาการของโรคเครียดแต่ไม่รู้ตัว เนื่องจากงานของผมเป็นเจ้าของธุรกิจ ข้อแตกต่างกับพนักงานทั่วไป คือ เวลาเราไม่ใช่เป็นลูกจ้างใครเนี่ย มันทำให้เราไม่มีเวลาเลิกงานอย่างจริงจัง พอมันไม่มีเวลางานกำหนดแบบเข้างานกี่โมงเลิกงานกี่โมง ก็กลายเป็นว่าผมเบรกตัวเองไม่อยู่ ทำงานไปเรื่อยๆ ไม่เลิกทำงานสักที จำได้ว่าบางวันก็นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานมาก อาการแรกเลยที่รู้สึก คือ ปวดไหล่ ปวดคอ ปวดหลัง ปวดไปทั้งตัว พอมีเรื่องให้คิดหนักๆเข้า ก็นอนไม่ค่อยจะหลับ ที่จริงเรารู้สึกเหนื่อยนะ แต่เวลาลงไปนอนแล้ว ดิ้นกลิ้งไปกลิ้งมายังไงก็ยังไม่หลับ ทรมานมากเวลาหลับก็รู้สึกเหมือนไม่สนิท สมองคิดโน้นคิดนั่นตลอดเวลา ตื่นตอนเช้าขึ้นมาก็จะรู้สึกมึนๆ ตึงๆ คิดอะไรไม่ค่อยออก งานก็มาเยอะก็ยิ่งต้องใช้สมองเยอะ เป็นอย่างนี้นับเดือนนับปีเรื่อยมา จนรู้สึกว่าตัวเองหงุดหงิดง่าย จนกระทั่งมีอาการปวดหัวและไมเกรนด้วย ภรรยาบอกว่าเธอเครียดไปนะ แบบนี้ระยะยาวไม่ดีต่อสุขภาพแน่ๆ จากนั้นผมก็เลยเริ่มค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม และเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง

10 วิธีคลายเครียดในรูปแบบของ 2 Madames

หลังจากมีปัญหาเรื่องปวดหัว ปวดตัว และนอนไม่หลับมาช่วงเวลาหนึ่ง ผมก็ตัดสินใจว่าต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองหน่อยแล้ว ไม่งั้นสุขภาพร่างกายและจิตใจของเราจะแย่แน่ๆ ผมเริ่มใช้ 10 วิธีในการคลายเครียด มีอะไรบ้างมาดูกัน

1.) แบ่งเวลาทำงาน-พักผ่อน ให้ชัดเจน เลิกงานให้เป็น

อย่างที่เล่าให้ฟังตอนแรก บางครั้งถ้าเราไม่แบ่งเวลาให้ชัดเจนว่า เวลาไหนเป็นเวลาทำงาน เวลาไหนเป็นการพักผ่อน โดยเฉพาะคนที่เป็นเจ้าของกิจการ หรือคนที่ทำงาน Freelance ไม่มีเวลาเลิกงานแน่นอน ถ้าเราไม่รู้จักเลิกงาน เราจะอยู่กับงานตลอดเวลา นี่เป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดอันดับต้นๆเลย ควรกำหนดตัวเองให้ชัดว่าวันนี้จะทำงานถึงกี่โมง ช่วงที่พักต้องพักผ่อนแบบจริงๆนะ อย่าไปกังวลเรื่องงานต่อ วิธีนี้ผมค้นพบว่าเมื่อเราพักผ่อนให้มากพอ เอาเรื่องออกจากสมองไปบ้าง เวลากลับมาทำงานจะทำให้งานแล่นดีกว่าเดิมด้วยนะ

2.) ใช้เวลากับครอบครัว อยู่กับลูก เล่นกับลูก

ครอบครัวเนี่ยเป็นยาคลายเครียดอย่างดีเลย โดยเฉพาะเวลาอยู่กับเด็กๆ ได้เล่นกันแบบเด็กๆบ้าง ความไร้เดียงสาของเด็กๆ บวกกับความรักที่มีให้แก่กันและกัน ช่วงเวลาแบบนี้เหมือนกับว่าเราไปปล่อยวางโลกแห่งความเครียดไปช่วงขณะ กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ในวันว่างๆ เราอาจจะทานข้าวด้วยกันที่บ้าน หรือออกไปทานตามร้านอาหารอร่อยบ้าง เวลาทานอาหารแล้วได้พูดคุยกับคนในครอบครัว ผมถือว่าได้ทั้งอิ่มท้อง เติมพลัง และเป็นการคลายเครียดได้ดีเลยหละ

3.) ลองทำอะไรช้าๆ Slow life ในวันหยุด

จัดวันว่างๆที่ไม่มีตารางนัดอะไรให้รบกวนใจ ผ่อนคลายทำอะไรช้าๆที่ไม่ต้องขึ้นกับตารางเวลามากนัก อยากตื่นสายหน่อยในวันสบายๆ จิบชายามบ่าย ไม่เร่งรีบกับชีวิต ช่วยให้ลืมเรื่องงานและลดความเครียดได้มากเลยหละ

4.) ระบายความเครียดออก

แต่ก่อนเครียดหรือไปโกรธอะไรมา ผมจะเก็บอยู่คนเดียวครับ บางทีเก็บไว้เยอะๆไม่ได้ระบายมันออกมานี่เป็นปัญหาเหมือนกัน พอหลังๆมาเนี่ย เวลามีเรื่องอะไรจะไม่เก็บไว้คนเดียวแล้วครับ ผมเลือกที่จะเล่าเรื่องราวหรือปัญหาต่างๆให้คนรอบตัวรู้ด้วย บางทีก็ได้รับคำปรึกษาดีๆ หรือบางครั้งอาจจะไม่ได้คำตอบอะไรหรอก แต่อย่างน้อยก็ได้ระบายอะไรๆที่คั่งค้างออกไปบ้างก็รู้สึกดีขึ้นครับ

5.) ทานอาหารที่มีวิตามินที่ร่างกายต้องการ และทานอาหารเสริม

เชื่อมั้ยว่าสารอาหารหลายอย่างในร่างกายบางครั้งก็มีส่วนช่วยกับคนที่ต้องคิดและใช้สมองครับ เคยอ่านบทความต่างๆ เค้าบอกว่าควรทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบีที่พบมากในปลาและรำข้าว วิตามินซี ในผลไม้รสเปรี้ยว เกลือแร่ต่างๆก็ช่วยในเรื่องความเครียดเช่นกัน เราควรทานอาหารที่มีเกลือแร่อย่างโพแทสเซี่ยมในถั่วขาว ผักโขม มันฝรั่ง แมกนิเซี่ยมและซิงค์ที่มีมากในหอยและไข่ หรือธาตุเหล็กที่ช่วยให้เซลล์สมองเจริญเติบโตได้ดี แต่บางทีอาหารพวกนี้ก็หาทานไม่ได้ง่าย เราเองแม้จะพยายามทานแล้วก็ยังทานได้ไม่ครบ แต่เดี๋ยวนี้ดีครับ มีคนทำแบบแคปซูลวิตามินและแร่ธาตุรวมสำหรับคนที่ใช้สมองเยอะๆออกมาเลย อย่าง Blackmores Exec B’s เนี่ย ผมทานอยู่เป็นประจำเลย ช่วยได้มากจริงๆ นอกจากอ่านส่วนประกอบของอาหารเสริมแล้ว ผมจะเลือกจากยี่ห้อด้วยครับ จะเอาอะไรเข้าปากสักอย่าง เราต้องมั่นใจเรื่อง Brand ของผลิตภัณฑ์ด้วยว่าน่าเชื่อถือและมีคุณภาพ เจ้า Blackmores Exec B’s ทานวันละหนึ่งเม็ด ผมรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ไม่อ่อนเพลีย นอนหลับได้สนิทและยาวขึ้น ตื่นมาสดใสพร้อมที่จะทำงานได้เลย

6.) ออกกำลังกาย

สืบเนื่องจากหลังๆมานี่กินเยอะไป น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเยอะทั้งผมและภรรยาเลย เราเลยเริ่มหาวิดีโอพวก T25, เต้นแอโรบิกกันช่วงเย็นๆ เต้นกันที่บ้านนี่แหละ เต้นไปเหนื่อยไป บางทีเด็กๆก็มาเต้นด้วยกัน น่ารักกันไปอีกแบบ ไม่น่าเชื่อว่าเวลาคนเราได้ออกกำลังกายให้เหนื่อยๆทุกวัน กลับทำให้เราแข็งแรงขึ้นนะ ระหว่างวันก็จะไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเพลียตอนบ่ายๆ แถมยังทำให้ตอนกลางคืนหลับสนิทดีขึ้นด้วย ได้ผลพลอยได้เรื่องการลดน้ำหนักไปในตัวด้วยอีกต่างหาก

ปล. ในคลิปสอนเต้นใช้ดัมเบล แต่ที่บ้านเราไม่มี ก็เลยใช้ขวดน้ำถือแทน ส่วนเด็กๆถือกล่องนมแทน น่ารักสุดๆ ^_^

7.) Shopping บำบัด

ผมเรียกการช็อปปิ้งว่าเป็นความสุขแบบฉุกเฉินครับ เพราะเวลาเราอยากได้อะไรแล้วได้มันมาครอบครองเนี่ย มันเป็นวิธีคลายความเครียดที่ดีจริงๆ อาจจะเปลืองเงินไปบ้าง แต่ก็โอเคนะ ช่วยคลายเครียดได้ดีทีเดียวเลยหละ โดยเฉพาะภรรยาที่ชอบมาก

8.) เข้าวัด หรือทำบุญบ้าง

ครอบครัวผมศาสนาคริสต์ ในวันอาทิตย์เราจะไปโบสถ์กัน บางทีก็ไปทำบุญบ้าง ไม่รู้สินะ เวลาเข้าไปเข้าไปทางศาสนาบ้าง ไม่ว่าจะศาสนาไหนก็ดี เรามักจะมีจิตใจสงบขึ้นเสมอๆเลย

9.) ใช้เวลากับงานอดิเรกที่ชอบ

การได้ทำกิจกรรมโปรดก็ช่วยลดความเครียดได้มากเลย อย่างผมชอบเล่นเกมส์ อ่านหนังสือและถ่ายภาพ เวลาได้ออกไปทำอะไรที่เราชอบช่วยทำให้เรามีความสุขมากเลยครับ แต่กิจกรรมที่ทำกับภรรยาเป็นประจำเลย คือ ดูซีรี่ย์ครับ เสพละครนิยายให้เรื่องราวมาอยู่ในหัวบ้าง ดันเรื่องงานเครียดๆออกไปได้เยอะเหมือนกันครับ

10.) เดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัว

สุดท้ายวิธีคลายเครียดที่ผมชอบมากที่สุด คือ การออกเดินทางท่องเที่ยวไปกับครอบครัว เวลาผมได้ไปสถานที่สวยๆพร้อมกับครอบครัว มันเหมือนได้พาตัวเองหนีไปจากงานหรือเรื่องที่มักจะทำให้เครียด ที่จริงไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ ไปใกล้ไกลไม่สำคัญนะ สำคัญว่าไปกับคนที่รักต่างหาก ได้เห็นรอยยิ้มของคนที่เรารักและรักเรา นั่นแหละวิธีคลายเครียดที่ดีที่สุดของผม

อย่างไรก็ตาม การคลายเครียดถือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุนะครับ หากจะแก้ไขเรื่องความเครียดได้อย่างยั่งยืน ต้องป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดความเครียดน่าจะดีที่สุด แต่หากห้ามไม่ได้จริงๆ ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังมองหาวิธีคลายความเครียดนะครับ

ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share

หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้ 

หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า

อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ