อีกความสุขที่หลายครอบครัวใฝ่ฝัน ก็คือ การได้อยู่ร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตา ให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้ใกล้ชิดกัน วันนี้เรามีเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกัน รวมตัวครอบครัวใหญ่สามเจเนอร์เรชั่นว่ามีข้อดีอย่างไรมาเล่าให้ฟังกันนะ เชิญตามไปอ่านกันครับ
ในวัยเด็กถึงช่วงที่แต่งงานใหม่ๆ หลายคนอาจจะคิดว่าอยากจะแยกไปอยู่กันเอง เพื่อความเป็นส่วนตัวดีกว่า เพราะในวัยนี้ฉันอยู่ที่ไหนในโลกก็ได้ ฉันยังต้องการการผจญภัย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ครอบครัวเริ่มขยับขยาย มีสมาชิกตัวน้อยๆเพิ่มเข้ามา พ่อแม่ปู่ย่าตายายเริ่มสูงวัยขึ้น เจ็บป่วยบ่อยครั้ง เราเชื่อว่าหลายคนเริ่มมีความคิดที่อยากจะย้ายกลับมาอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่แน่นอน
ถึงจะมีความแตกต่างกันในช่วงของวัย แต่ก็น่าแปลกที่เคมีของคนทั้งสองวัยมันช่างเข้าได้ดีเสียจริง เด็กๆมักจะเข้ากับคนสูงวัยได้ดี อาจจะเป็นเพราะความรักที่มีต่อหลานๆ ความเอ็นดูที่พร้อมจะให้ และอยากจะเอาใจเด็กๆมากกว่า จึงทำให้คนสองรุ่นนี้เข้ากันได้ดีแบบเกินความคาดหมายใดๆ แถมคุณปู่คุณย่ามักจะมีอะไรดีๆ มีเคล็ดลับเด็ดๆ ในการเลี้ยงดูและแก้ปัญหาให้หลานๆอยู่เสมอๆเลย
อย่างครอบครัวผมเอง สมัยผมยังเด็ก ผมเคยคิดว่าทำไมคุณพ่อ(อากง)ถึงดุมากขนาดนี้ แต่เชื่อมั้ยว่าจากคนที่ดุๆจนใครๆต้องกลัว กลับกลายเป็นคนที่ใจดีสุดๆในสายตาหลานๆ เออ… มันก็น่าแปลกใจจริงๆ
ในช่วงวันหยุดพักผ่อน เด็กๆบ้านนี้จะขอไปค้างคืนอยู่กับอาม่าเสมอๆ อาจจะเป็นเพราะความสนุกหรือการตามใจของอาม่า แต่ผมเชื่อลึกๆว่า ความรักและความอบอุ่นของครอบครัวต่างหาก ที่ดึงดูดให้พวกเรามารวมตัวกัน
ข้อดีที่มีมากมายก็ไม่น่าแปลกใจที่ผลวิจัยมากมายบ่งบอกว่า คนเอเชียโดยเฉพาะคนไทยและคนจีนเนี่ย ชอบอยู่กันเป็นแบบครอบครัวใหญ่รวมหลายรุ่นไว้ด้วยกัน เพราะสังคมแบบไทยเราชอบเพิ่งพาอาศัยกัน ทั้งเวลาเจ็บป่วย หรือช่วยกันแก้ปัญหาต่างๆ มีอะไรก็แบ่งปันกัน แถมเวลาครอบครัวใหญ่อยู่กันพร้อมหน้า สมาชิกในบ้านก็จะอบอุ่น พ่อแม่ได้ดูแลผู้สูงวัย ปู่ยายตายายได้ใกล้ชิดหลาน และหากพูดถึงการดูแลเด็กๆ การจะมีใครสักคนที่รักและไว้ใจได้ ห่วงใยลูกเราจริงๆ เท่ากับปู่ย่าตายาย อากงอาม่านั้นคงจะไม่มีอีกแล้ว เราก็เคยชินแบบนี้กันมานานแล้วจริงมั้ย…
<ผู้สนับสนุนบทความ>
ซึ่ง Mulberry Grove เป็นโครงการแรกที่ออกแบบและพัฒนาจริงจากความต้องการอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ ดังที่กล่าวมา ซึ่งรูปแบบเป็นที่อยู่อาศัยแบบ มัลติ-แพลตฟอร์มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Cluster Villa และ Condominium ที่มีทั้งคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์และโลว์ไรส์ โดยจะเปิดทั้งหมด 3 โครงการ ซึ่งโครงการแรกจะเป็นโครงการ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท” (Mulberry Grove Sukhumvit) เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่มีอินไซด์น่าสนใจ ทำให้มองเห็นภาพการกลับมาอยู่อาศัยร่วมกันอีกครั้งของครอบครัวใหญ่ ที่มีทั้งปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ลูกๆ เด็กเล็กๆ ในโลเคชั่นสะดวก กลางเมือง เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความสุขที่จะเกิดขึ้นได้ทุกวัน
อีก 2 โครงการที่ เดอะ ฟอเรสเทียส์ บางนา (The Forestias) ที่ถือเป็นโครงการพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่ เนื้อที่ 300 ไร่ ริมถนนบางนา-ตราด โดย “Mulberry Grove The Forestias” จะเป็นส่วนหนึ่งที่ตั้งอยู่ภายในโครงการดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว 1 โครงการ จำนวน 37 ยูนิต เป็นโครงการบ้านซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ที่ยึดหลักแนวคิดการออกแบบ แบบ Cluster Design ที่แรกและที่เดียวที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของทุกช่วงวัย และนำครอบครัวในหลาย ๆ ช่วงวัย มาใช้ชีวิตและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกัน และอีก 1 โครงการจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวช่วงต้นปี 2563
โดยทั้ง 3 โครงการนี้ออกแบบและพัฒนาจากความต้องการจริงของสมาชิกครอบครัวทุกรุ่น จึงเกิดเป็นที่อยู่อาศัยระดับ Super Luxury resident ภายใต้แนวคิด “Nurturing intergeneration happiness สานความสุข ให้ทุกเจเนอเรชั่น” ให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย เป็นพื้นที่เติมเต็มช่องว่างของทุกวัยในครอบครัว โดยมีหลักคิดในการนำเสนอแบรนด์ 4 ประเด็นหลักคือ
1) Designed for intergeneration Harmony ที่อยู่อาศัยที่ออกแบบภายใต้แนวคิดอันเกิดจากการสนับสนุน ให้เกิดการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว เพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุข เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการที่จะตอบสนองความต้องการของสมาชิกในครอบครัวทุกช่วงวัย เช่น ห้องสมุดส่วนกลาง ที่สมาชิกครอบครัวสามารถมาใช้เวลาร่วมกันได้
2) Caring Community ออกแบบพื้นที่ให้ทุกคนในครอบครัวและชุมชนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน รวมถึงสามารถจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ เพื่อให้คนในครอบครัวที่ต่างช่วงอายุได้พัฒนาความคิดและจิตใจ เช่น สวนกินได้หรือ Edible garden ที่ทั้งผู้สูงอายุและเด็กๆสามารถมาทำกิจกรรมร่วมกันได้
3) Value Creation Neighborhood เชื่อมโยงคุณค่าแห่งวัฒนธรรมการอยู่อาศัยของไทยในอดีตที่อยู่กันแบบครอบครัวใหญ่และมีความกตัญญูเกื้อกูลต่อกัน เข้ากับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งสังคมที่มีอายุยืน (Aging Society) และการขยายของสังคมเมือง (Urbanization)
4) 5 Dimensional Well-Being ส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของครอบครัวให้ดีขึ้นในทุกมิติ นำไปสู่ความสุขอย่างยั่งยืน ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยที่ Mulberry Grove เลือกใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัย เลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทั้งต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม และมีการออกแบบให้เหมาะสมกับทุกคนและทุกช่วงวัย (Universal Design) ให้ทุกเจเนอเรชั่น สามารถใช้พื้นที่แห่งความสุขร่วมกันได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ นำมาสู่การรับประกันของโครงการที่นานถึง 30 ปี
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://mulberrygrove.com/
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป