2Madames.com

Leave a Comment

ต้นตำรับของไก่ทอดสไตล์เกาหลี ได้มาเปิดที่เมืองไทยแล้ว จะมีรสชาติเป็นอย่างไร อร่อยขนาดไหน ทำไมถึงโด่งดังไปทั่วโลก มาติดตามรีวิวฉบับนี้ของ กับ B&L Family และ หนูเบลล่าไปด้วยกันนะครับ 

เมื่อพูดถึงอาหารเกาหลี เมนูอาหารที่หลายๆคนจะนึกถึงก่อนก็คือ คาลบิ กิมจิ บิบิมบับ และ ซุปกิมจิสไตล์เกาหลี นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งเมนูอาหารจากเกาหลีที่เข้ามาบุกตลาดไทยอีกเหมือนกัน นั่นคือ ไก่ทอดเกาหลี นั่นเอง     Bonchon อาจจะเป็นร้านที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยและเคยเห็นมาระยะหนึ่ง ซึ่งมีเปิดให้บริการกันอยู่หลายสาขา แต่ในวันนี้ ผมจะมาแนะนำร้านไก่ทอดเกาหลี อีก ร้านนึง ซึ่งก็คือ Kyochon หรือ “เคียวโชน” นั่นเอง

“เคียวโชน” เรียกได้ว่าเป็นต้นตำรับของไก่ทอดสไตล์เกาหลี ได้เลยทีเดียว ร้านนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1991 โดยมีสาขามากกว่า 1,000 สาขาในประเทศเกาหลีใต้ และอีกกว่า 6 ประเทศทั่วโลก โดยการใช้เทคนิคการทอดไก่แบบ Double-frying ซึ่งทำให้ไก่ทุกชิ้นมีความกรอบ เป็นพิเศษทั่วทั้งชิ้น มาผสมผสานรสชาติ คลุกเคล้ากับซอสสูตรลับเฉพาะสำหรับไก่ทอดของเคียวโชน เพื่อให้ได้รสชาติ อร่อยถูกปากลูกค้า โดยในประเทศไทยตอนนี้มีทั้งสิ้น 3 สาขา คือ

สาขาสุขุมวิท พลาซ่า (Sukhumvit Plaza Branch) หรือจะรู้จักกันในนาม Korean Town
Tel. 02 255 5503-4

สาขาแฟชั่น ไอส์แลนด์ (Fashion Island Branch)
Tel. 02 947 5902

สาขาเดอะ พาซิโอ ทาวน์ (The Paseo Town Branch)
Tel. 02 111 3144

โดยในวันนี้เราจะมารีวิวร้าน เคียวโชน กัน ที่สาขา สุขุมวิท พลาซ่าหรือ Korean Town ครับ อยู่บริเวณสุขุมวิทซอย 12 ครับ ร้านอยู่บริเวณ ชั้น 1 ด้านหน้าโครงการเลยครับ หันหน้าเข้าสุขุมวิท พลาซ่า ร้านจะอยู่ทางขวามือครับ

เมนูอาหารหลักของทางร้านเคียวโชนนี้ ก็จะเป็น ไก่ทอดคลุกซอสต่าง ๆ ของทางร้าน ข้าวสูตรเกาหลีต่างๆ เช่น ข้าวบูลโกกิ ข้าวยำ และของกินเล่นอื่น ๆ อีกเล็ก ๆ น้อย ๆ มาดูบรรยากาศร้านกันก่อนครับ สโลแกนของร้านครับ “Open The World To A New Flavor”

และนี่ครับ สาเหตุหลักที่ทำให้ผมรู้จักร้านนี้ครับ ช่วงนี้หม่าม้าเล้งกำลังอินกับซีรีย์เกาหลี The Heirs (상속자들)- หยุดหัวใจ…นายไฮโซ  และ Brand Ambassador ของ Kyochon คนปัจจุบันก็คือ Lee Min Ho คนนี้ครับผม

คำสั่งเบื้องบนสั่งมาครับ ไปด่วนที่สุดดดดด

ร้านเคียวโชนสาขานี้ถือเป็นร้านขนาดเล็ก ๆ มีโซนโต๊ะอาหาร หรือโซนนั่งกินสำหรับลูกค้าอยู่แค่ชั้น 2 ชั้นเดียว และก็เป็นโซนเล็ก ๆ มีที่นั่งประมาณ 10 โต๊ะ

ส่วนชั้นล่างก็จะเป็นครัว และเคาน์เตอร์ รับรายการอาหารและชำระเงิน

บรรยากาศตกแต่งด้วยภาพศิลปินเกาหลี มีทีวีเปิด คอนเสิร์ตศิลปินเกาหลีทั้ง 2 ชั้น แฟนคลับศิลปินเกาหลีมากันอย่างต่อเนื่องกันเลยครับ ก่อนหน้า ลีมินโฮ ก็มี ซูเปอร์ จูเนียร์ เป็น Ambassador ของ Kyochon ครับ

อาหารของทางร้านนี้ก็ตามที่บอกไปครับ โดยจะเน้นไก่ทอดเป็นหลัก ปีกไก่น่องไก่ไก่ไม่มีกระดูกคลุกเคล้ากับซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน และ ก็พวกอาหารกินเล่นอีกนิด ๆ หน่อย ๆ จากรีวิวที่เคยอ่านๆมา จะบอกว่าที่เกาหลีจะมีเมนูเยอะกว่านี้นะครับ

เมนูหลักๆ 4 เมนู ของเคียโชน นะครับ

• ปีกไก่ทอดเคียวโชน Original Series – Soy Garlic Sauce
• ปีกไก่ทอดเคียวโชน Red Series – Hot Sauce
• ปีกไก่ทอดเคียวโชน Honey Series – Honey Sauce
• ไก่ไม่มีกระดูก Sal Sal Series

สั่งอาหารเรียบร้อย อาวุธพร้อมครับ เพื่ออรรถรสในการลิ้มรสอย่างเต็มที่ ทางร้านมีผ้าเย็นไว้เช็ดมือกับถุงมือพลาสติกไว้ใส่กันเลอะเทอะได้เป็นอย่างดีครับ

ทางร้านมีป้ายวางไว้บนโต๊ะแจ้งว่าในการทอดไก่นั้นจะใช้ Canola Oil ในการทอด ซึ่งบอกว่ามีสรรพคุณช่วยลดคลอเรสเตอรอลได้ จากข้อมูลเชิงลึกที่หามาได้สรุปไว้ตามนี้ครับ “การที่น้ำมันคาโนลามีส่วนผสมของกรดโอลิอิก (Oleic acid) ซึ่งมีส่วนช่วยลดไขมันในเลือดชนิด LDL ที่เป็นคลอเรสเตอรอลที่ไม่ดีให้ลดลง และยังมีส่วนประกอบของ Omega-3 และ Omega-6 ซึ่ง Omega-3 มีส่วนช่วยลดไขมันไตรกรีเซอไรด์ และลดการเกาะตัวของเกร็ดเลือด ที่เป็นต้นเหตุให้เส้นเลือดหัวใจอุดตัน จึงมีส่วนสำคัญ ในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็งต่าง ๆ ได้  ” ข้อมูลจาก http://health.kapook.com/view22118.html 

หลังจากสั่งอาหารไปแล้วก็จะรอประมาณ 22 นาที ถึงจะพร้อมเสริฟ นะครับ โดยสาเหตุที่ช้าก็คือ จะต้องทอด 2 รอบ รอบแรก 15 นาที รอบสอง 2 นาที แล้วนำมาคลุกเคล้าเครื่องปรุงรสอีก 5 นาที ครับ

มาแล้วครับ จานแรก Red Series – Hot Sauce  เผ็ดจัดจ้าน โดนใจมากๆครับ

ความผิดแบบจัดจ้านเล็กๆสำหรับคนชอบทานเผ็ด กับ ความกรอบของไก่ทอดด้านนอก พอกัดแล้วสัมผัสกับความนุ่มของเนื้อไก่ด้านใน จานนี้ผมชอบมากครับ

จานต่อมา Honey Series – Honey Sauce ซอสหวานสูตรน้ำผึ้ง กับ ความกรอบนอกนุ่มใน ลงตัวมากๆสำหรับคนไม่ชอบทานรสจัดมากครับ ทางร้านบอกว่าเป็นเมนูโปรดของสาวๆเลยครับ

จานต่อมา ไก่ไม่มีกระดูก Sal Sal Series ผมเรียกผิดเป็น ซัลซ่า ตลอดเลย ^^

เมนู ซัล ซัล นี้ จะมีน้ำจิ้มแยกมาให้ต่างหาก กับ เนื้อไก่ไม่มีกระดูกทอดจนกรอบคลุกด้วยข้าวพอง กรอบ กรุบ อร่อยครับ 

เมนูนี้ เบลล่า ให้ผ่านนนนนนน

 

 

อืมมมม หนูว่า หร่อยจังฮู้

เมนูต่อมา ข้าวบูลโกกิ ครับ จะมีสองรสชาติ ครับ แบบ ธรรมดา กับ แบบ สไปซี่ แต่เนื่องจากจะให้เบลล่ากินด้วยจึงสั่งแบบธรรมดามาครับ รสชาติโอเค เลยครับ

จริงๆเราไปร้านนี้สองครั้งในรอบระยะเวลาใกล้ๆกัน ครั้งแรกสั่งได้จานสุดท้ายพอดี ครั้งที่สอง หมด ครับ ส่วนไก่ทอดแบบออริจินัล ก็สั่งมาในครั้งที่สองครับ แต่ ถ่ายรูปไม่ทัน จะออกเค็มนิดๆ ผมเฉยๆครับ ชอบ Hot Sauce กับ Honey มากกว่าครับ

เบลล่าสนุกสนานมากครับ ได้ใส่ถุงมือ กินเอง ป้อนหม่าม้า แกล้งปะป๊า

อ้อ สำหรับ ช่วงนี้พิเศษสุดๆกันอีก สำหรับ แฟนคลับ Lee Min Ho สำหรับโอกาสจะได้สัมผัสกับดาราขวัญใจกันอย่างใกล้ชิด เพียงทานอาหารครบ 500 บาท แล้วเขียนชื่อชิงโชค รอลุ้นเป็นผู้โชคดีกันได้เลยครับ  ซารางเฮโย ^^ ขอให้หนูได้เป็นผู้โชคดีนะคะ

โดยสรุปนะครับ สำหรับร้าน เคียวโชน Kyochon

• รสชาติ ถือว่าดี อร่อยเลยครับไก่ทอดกรอบนอกนุ่มใน เครื่องปรุงรสเข้มข้น ถ้าเทียบกับ Bonchon ผมว่า Kyochon เข้มข้นกว่า

• รายการอาหาร ถือว่าน้อยไปหน่อย ในรีวิวร้านที่เกาหลี รู้สึกจะมีเยอะกว่านี้ครับ เมนูของเด็กไม่มีจัดเป็นชุดเด็กนะครับ

• การจัดการสต๊อคของ ผมว่าทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ที่ผมไปมาสองครั้ง ข้าวผัดเนยหมดตั้งแต่ประมาณทุ่มนึง ข้าวบูลโกกิครั้งแรกเหลือจานสุดท้าย ครั้งที่สองหมด ข้าวเหนียวไม่มีทั้งสองครั้ง

• ราคา ก็ ถือว่าค่อนข้างสูงนิดนึง แต่ก็อยู่ในระดับพอ ๆ กับ ร้าน Bonchon

• การบริการ ก็โอเคครับ ตามมาตรฐาน แต่ ผมรู้สึกแปลกใจนิดนึง พอดีเห็นลูกค้าชาวเกาหลีมาทานแต่สื่อสารกับพนักงานไม่ได้ทั้งๆที่เป็นร้านสไตล์เกาหลี

• ที่ตั้ง ก็ถือเป็นย่านชุมชนคนเกาหลี แต่ถ้าขับรถไปก็อาจต้องฝ่ารถติดไปสักหน่อย ที่จอดรถมีเพียงพอ แต่ ระบบการระบายอากาศ ระบบการจัดการต่างๆในที่จอดรถชั้นใต้ดินผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่

• ขนาดร้าน เล็กไปนิดนึง ทำให้อาจต้องรอคิวนานหน่อย แต่ก็พอเข้าใจได้ครับ

ไว้มีโอกาสได้ไปเกาหลี ผมจะไปชิมร้าน Kyochon สาขาเกาหลี แล้วจะมารีวิวให้อีกครั้งนะครับ ^^ สำหรับร้าน Kyochon นี้ ผมชอบในรสชาติครับ เบลล่าก็ปลาบปลื้มทั้งสองครั้งที่ไป ส่วนหม่าม้าเล้งไม่ต้องพูดถึงครับ ฺตราบใดที่ยังไม่เปลี่ยน Brand Ambassador ได้ไปอีกหลาย ๆ รอบแน่ ๆ ครับ

สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณทุกๆท่านเป็นอย่างมากที่ได้เข้ามาติดตามรีวิวของผม โดยหวังว่ารีวิวฉบับนี้จะเป็นข้อมูลและมีประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจนะครับ สุดท้ายนี้ หากท่านชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ หรือ กด Like ที่ Fanpage ของผม https://www.facebook.com/BLJourney เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆน้อยแก่ผมและทีมงาน 2Madames.com ทุกคนครับ