ปลายเดือน พ.ค. 2557 ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames ได้รับมอบหมายจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้เดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเน้นไปสำรวจวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนบุรีรัมย์
เราจึงเลือกที่จะแวะชมวิถีชีวิตของคนที่นี่ ที่หมู่บ้านท่องเที่ยวการผลิตไหมหนองตาไก้ อำเภอนางรอง ไปดูกันว่ากว่าจะได้ผ้าไหมออกมาสักผืนเค้าต้องทำอย่างไรกันบ้าง
บ้านหนองตาไก้ได้รับการสนับสนุนจากจังหวัดบุรีรัมย์ให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวผ้าไหม โดยสามารถเข้าชมการผลิตไหมของชาวบ้านได้แบบใกล้ชิด
การผลิตไหม ต้องเริ่มจากการปลูกต้นหม่อน ซึ่งเป็นอาหารสำคัญของตัวไหม ซึ่งจะปลูกได้ดีตามดินนา ดินสวน ที่เป็นที่สูง ที่สำคัญน้ำต้องไม่ท่วม
ต้นหม่อนเป็นต้นที่โตเร็วมากครับ จากต้นกล้าจนสามารถเก็บใบใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
เรามาเริ่มเรียนรู้วงจรของไหมกันต่อเลย กว่าจะเปนตัวไหมได้ ก็ต้องเริ่มจากผีเสื้อไหม ผสมพันธ์กันเสร็จ 1วัน ก็จะเริ่มวางไข่ เมื่อวางไข่ผ่านไป 7 วัน ไข่ก็จะเริ่มฟักออกมาเป็นตัวอ่อนไหม รูปนี้ที่เห็นยิบๆ นี่คือตัวอ่อนไหมที่มีอายุเพียง 3-4วัน
ชาวบ้านก็จะเลี้ยงไหมเป็นระยะเวลา 42วัน โดยต้องดูแลเป็นพิเศษ ให้กินใบหม่อนเป็นอาหาร และยังต้องกางมุ้งให้ เพื่อป้องกันยุงและแมลวงวันมากัดกินและวางไข่อีกด้วย ฟังขั้นตอนแล้วยุ่งยากเสียจริงเลย เลี้ยงกันเหมือนลูกเลยเชียวล่ะ
เมื่อเลี้ยงตัวไหมจนครบ 42วัน พี่ๆชาวบ้าน ก็จะนำตัวไหมใส่ที่ทำรัง ที่เป็นกระด้งมีขอบเป็นชั้นๆแบบนี้ แล้วเลี้ยงต่อไป อีก 3วัน ไหมจะค่อยๆพ่นเส้นใยมาพันรอบตัว นั่นคือการทำรังไหม เป็นดักแด้ และจะลอกคราบเป็นผีเสื้ออีกครั้ง
เมื่อชาวบ้านได้รังไหมมาเรียบร้อยแล้ว
ก็จะเอารังไหมไปสาวเป็นเส้น
เสร็จแล้วนำไปฟอกสีให้ขาวขึ้น ขากนั้นจะนำมาขึ้นวงล้อกวัก ตีเกลียวเป็นเส้น
เด็กๆสนใจดูกรรมวิธีกันใหญ่เลย
ถามนู่นถามนี่จนคุณยายอดขำไม่ได้
เมื่อได้เส้นไหมที่ต้องการ คุณยายก็จะม้วนใส่แกนแบบนี้เตรียมทอเป็นผ้าไหมผืนสวย
หรือถ้าต้องการสีสัน ก็จะนำมาย้อมตามสีเหล่านี้ได้เลย
นี่กำลังย้อมสีบานเย็นกันอยู่เลย
หรือถ้าต้องการให้สวย และสร้างความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ชาวบ้านก็จะนำมาทำลวดลายมัดหมี่ มัดย้อม ก็จะได้ลวดลายบนผืนผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นนั้นๆ
คราวนี้เรามาดูขั้นตอนสุดท้ายกัน ซึ่งก็คือการทอผ้านั่นเอง
ได้มาแล้วยุ่งยากมากทีเดียว กว่าจะมาเป็นผ้าไหมผืนสวยให้เราได้ใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มกัน
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของหมู่บ้านหนองตาไก้นี้ จะเป็นไหมเปลือกนอก ที่นิยมทอเป็นผ้าห่ม ผ้าปูโต๊ะ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ และส่งออกไปขายหลากหลายประเทศมากๆ เช่น อเมริกา, เยอรมัน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, สวีเดน ละฝรั่งเศส ใครผ่านไปผ่านมา ก็แวะมาเที่ยวชมได้นะครับ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากมายทีเดียว
เข้าอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ไปเที่ยวศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้จังหวัดบุรีรัมย์กัน
ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์เป็นพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้ในเรื่องนิทรรศการ โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุ
ชั้นล่างของตัวอาคาร จัดแสดงเรื่องแหล่งที่ตั้งชุมชนโบราณของจังหวัด บุรีรัมย์ มีโบราณวัตถุในสมัยต่างๆ อย่างเช่น สมัยทราวดี สมัยลพบุรี และ สมัยก่อนประวัติศาสตร์
นอกจากนี้จะมีนิทรรศการในเรื่องของภูมิศาสตร์ การเกิดของภูเขาไฟ และแร่ธาตุต่างๆในภาคอีสาน
ชั้นบนของตัวอาคาร เป็นนิทรรศการของช้างกับส่วย มีเครื่องมือจับช้าง มีอุปกรณ์ต่างๆ เครื่องประกอบพิธีของหมดช้าง ฯลฯ
บริเวณนี้คือนิทรรศการผ้าและวิถีชีวิต เป็นผ้าเป็นผลงานของชาวอีสานใต้ มีการแสดงลายผ้าประเภทต่างๆ
มีการแสดงในเรื่องของเตาเผาจำลอง มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ต่างๆ บริเวณใกล้เคียง
จัดแสดงวิถีชีวิตของชาวบุรีรัมย์ มีทั้ง ไทยเขมร ไทยลาว ไทยโคราช และ ไทยส่วย เป็นต้น
นอกจากหุ่นขี้ผึ้งจำลองแล้ว ยังมีป้ายแสดงข้อมูลให้อ่านประกอบ ซึ่งเนื้อหาน่าสนใจมากเลยครับ
ที่บุรีรัมย์มีร้านส้มตำร้านเด็ดครับ ร้านอังคณา ใจสั่งมา พิกัดอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมเทพนคร
ส้มตำร้านนี้รสชาติใช้ได้เลย แถมให้ปริมาณเยอะด้วย
น้ำตกหมูรสชาติดีครับ
ปลาส้มทอด รสชาติดี เนื้อนุ่ม แต่ก้างเยอะไปหน่อย
ทริปของพวกเราที่บุรีรัมย์ยังไม่จบเท่านี้นะครับ
ตอนต่อไปจะพาไป เยี่ยมชมสนาม i mobile Stadium นอนเล่น Amari Buriram United กัน
ปล.หากคุณอ่านรีวิวมาถึงตรงนี้ ผมได้ใช้เวลาและพลังงานมากมายในการเขียนรีวิวเพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์แก่ทุกคน หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป