
ที่แหลมพันวา จังหวัดภูเก็ต มีโรงแรมสวยแห่งหนึ่งที่ครอบครัวเราได้ไปพักมา กับโรงแรมที่ชื่อว่า เคป พันวา (Cape Panwa) รีสอร์ทแห่งนี้มีการตกแต่งแบบผสมผสานความทันสมัยกับสไตส์หมู่บ้านชาวประมงได้อย่างลงตัว รีสอร์ทจะสวยแค่ไหน ตามไปรับชมรีวิวกันครับ
ใครอยากรับชมในรูปแบบคลิปเต็มอิ่มกับแสงสีเสียง เชิญชมจ้า
เข้ามาถึงก็จะเจอกับล็อบบี้ของที่นี่
ล็อบบี้ของ Cape Panwa เป็นแบบ Open Air ตกแต่งบรรยากาศแบบคล้ายๆหมู่บ้านชาวประมง
เมื่อเช็คอินเสร็จ เราจะได้รับคีย์การ์ด แผนที่ และเว้าเชอร์เครื่องดื่มมาให้ใช้ฟรีด้วย
ห้องที่ครอบครัวเราพักเป็นแบบ Cape Suite จ้า เข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์เครื่องดื่มก่อน
ห้องค่อนข้างกว้างครับ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 78 ตร.ม.
ห้องพักแบ่งเป็นสองด้าน คือ ฝั่งนั่งเล่น กับเตียงนอนนะ ส่วนทีวีที่อยู่ตรงกลางสามารถยืดแล้วหันมาทางโซฟาหรือเตียงก็ได้นะ
มีห้องแต่งตัวด้วยนะ
มาชมห้องน้ำกันบ้าง ด้านหนึ่งเป็นอ่างแช่ตัว
อีกด้านก็เป็นส่วนขับถ่ายและห้องอาบน้ำ มีสองอ่างล้างหน้า ไม่ต้องแย่งกัน
Amenities หอมดีครับ
ระเบียงห้องกว้างมาก มีที่นั่งให้นั่งเล่นสบายๆด้วย
แต่ทีเด็ดคือ อ่างจากุสซี่ที่มองเห็นวิวสวยๆ
อ่างจากุสซี่สวยขนาดนี้ ลงไปเล่นน้ำกันดีกว่า
วิวจากระเบียงห้องมองลงไปเห็นเป็นสระว่ายน้ำครับ
สระว่ายน้ำของโรงแรมเคป พันวา ถือว่าใหญ่พอสมควรเลย มีแบ่งส่วนสระผู้ใหญ่และสระเด็กเล็กไว้ด้วย
น้องเกรซแปลงร่างเป็นนางเงือกเล่นน้ำกัน
มาชมคลิปบรรยากาศกัน
มาดูห้องของเล่นของที่นี่กันบ้างครับ
มีของเล่นและตุ๊กตาอยู่พอสมควรเลย
น้องเกรซน้องกายสนุกกันใหญ่เลย
ในห้องยังมีกิจกรรมให้ทำอีกหลายอย่าง เช่น หมากรุก โต๊ะโกล์บอล โต๊ะปิงปอง เกมส์ Playstation ครับ
จากล็อบบี้เราสามารถนั่งรถของโรงแรมลงมายังจุดชมวิวแหลมพันวา
บ่ายๆอากาศดีแบบนี้ ขอหาอะไรทานแก้เหงาปากก่อน ก่อนทางเข้าโรงแรมมีคาเฟ่เล็กๆ ชื่อว่า Café Kantary (คาเฟ่ แคนทารี) ตั้งอยู่หน้าโรงแรม Kantary Bay Phuket ที่นี่ขายทั้งอาหารคาวหวาน เบเกอร์รี่ และเครื่องดื่มอร่อยๆ
ลูกค้าแน่นร้านเชียว
บรรยากาศดีมาก นั่งทานขนม ชมวิวกันเพลินเลยล่ะ
ไอศกรีมที่นี่เป็นโฮมเมดนะ ทำเองทั้งหมด รสชาติเข้มข้นจริงๆ
เค้กก็หลากหลาย นี่พร่องไปเยอะมากแล้วนะ
แซนวิช หรือสลัดก็มีให้เลือกทานจ้า
วันนี้ตั้งใจมาหาขนมกินเล่น เด็กๆเลยสั่งไอศกรีมมาแย่งกันทาน และชามะนาวอีกแก้ว ขอบอกว่าชามะนาวเด็ดมาก ใครมาทานขอให้ลองสั่ง เพราะชามะนาวที่นี่เน้นเปรี้ยวหน่อย ทานกับขนมแล้วตัดเลี่ยนแก้ฝืดคอได้ดีเลย
และถ้าคิดไม่ออกจะทานอะไร ก็ลองเมนูที่ขายดีที่สุดของร้าน อย่าง Honey Toast จานนี้เลยจ้า ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน ชุ่มเนยมากๆ ยอมอ้วนเลยจ้า
กลับมาเดินเล่นชมบรรยากาศของรีสอร์ทช่วงเย็นๆบ้าง
ฟ้าสีอมชมพูสวยมากครับ
ที่นั่งเล่นแถวๆล็อบบี้ก็สวยงามมาก
ห้องอาหารริมสระว่ายน้ำก็โรแมนติกสุดๆ
จากุสซี่ที่ระเบียงห้องก็สวยสุดยอดเลย
เย็นนี้ขอมาดินเนอร์หรูๆที่ห้องอาหารสไตล์ฝรั่งเศส Top of the Reef ห้องอาหารนี้อยู่ภายในบริเวณ Cape Panwa นี่ล่ะบรรยากาศดูสะอาด โปร่ง โล่งสบาย ถ้าจะมาทานห้องอาหารนี้ต้องแต่งตัวเรียบร้อยหน่อยนะ ห้ามรองเท้าแตะ ห้าใส่ขาสั้น เอาเป็นว่าแต่งตัวให้ดูสุภาพหน่อยละกันจ้า ไม่ถึงกับต้องใส่สูทผูกไทด์ หรือใส่ราตรียาวนะ
สั่งอาหารไปเรียบร้อย สักพักก็มีเสิร์ฟจานนี้มาให้รองท้องกันก่อน เป็น Complimentary จาก Chef รู้สึกจะเป็นตับบดทานกับแคร็กเกอร์และครีมชีช รสชาติบอกตามตรงว่าไม่ถนัดเรื่องตับ แต่สำหรับผมว่าไม่มันแย่นะ
แหม่ มาภูเก็ตทั้งที ขอลิ้มลอง Phuket Lobster Grilled กันสักหน่อยนะ จานนี้ราคา 2,100++
คือต้องบอกว่าตัวใหญ่พอดูแถมเนื้อสดเด้งมาก คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปเลยล่ะ side dish ก็เสิร์ฟมาเป็นผักกรอบๆกับมันบดที่อร่อยมาก
จานนี้ของเด็กๆจะบอกว่าของโปรดเค้าล่ะ คิดอะไรไม่ออกส่งแซลมอนได้เลยจ้า
Grikked Norwegian Salmon จานนี้ราคา 570++ เทียบกับขนาดต้องบอกว่าไม่แพงเลยนะ
จบจานสุดท้ายที่จานเนื้อจานนี้ Grilled Sirloin Steak with Herb Butter ราคา 760++ ขอบอกว่ามันคือสวรรค์เลยครับ เนื้อนุ่มมากทานกับเนยสมุนไพรเข้ากันสุดๆ
เรามาดูไลน์อาหารเช้ากันดีกว่า ต้องบอกเลยว่านานมาแล้วที่ไม่เจอไลน์อาหารที่ทำให้เราประทับใจ โดยส่วนตัวต้องขอยกนิ้วให้อาหารเช้าที่นี่เลย ที่เสิร์ฟแต่ของวัตถุดิบดีๆทั้งนั้น ติดอย่างเดียวถ้ามีน้ำผลไม้คั้นสด หรือแยกกากจะให้คะแนนเต็มร้อยเลย
ชอบโรงแรมที่อุ่นครัวซองต์แบบนี้ มันอร่อยกว่าแบบวางแห้งๆมากเลย
อีกมุมโปรดที่ชอบมากต้องนี่เลย หั่นผลไม้กันสดๆ มีมะม่วงสุกพร้อมทานด้วยนะ
เช้าๆทานกันไม่เยอะหรอก แค่นี้พอจ้า 555
ที่ Cape Panwa เค้ามีห้องรับรองไว้บริการแขกที่มาเช็คอินก่อนเวลา และแขกที่ต้องไปสนามบินช้ากว่าเวลาเช็คเอาท์มากๆด้วยนะ ในส่วนนี้ต้องได้รับคูปองจากทานฟร้อนท์ นำมายื่นที่นี่ถึงจะใช้บริการได้จ้า
ขนมน่าทานมาก มีทั้งขนมปัง คุกกี้ เค้ก ชา กาแฟ ผลไม้
ติดกับเลาจน์ก็จะมีฟิตเนสให้แขกที่มาพักใช้บริการกันฟรีด้วย
เย็นๆพากันไปเดินเล่นริมทะเลจ้า เนื่องจาก Cape Panwa เป็นโรงแรมที่ตั้งบนหน้าผา แถมมีชายหาดติดโรงแรมด้วยนะ เราลองชวนเด็กๆไปสำรวจกัน
ที่ Cape Panwa พิเศษอยู่อย่างคือไม่ต้องตะกายขึ้นลง เค้ามีรถรางให้บริการฟรีๆด้วย
นั่งกันสวยๆลงไปได้เลยจ้า ถ้าต้องเดินขึ้นลงเองมีเหงื่อท่วมแน่ๆ
ลงมาด้านล่างจะมีหาดทราย สวยมากเลย
เดินเล่นกันจนเพลิน เริ่มมืดแล้วเลยขอชิมอาหารที่ Panwa House เลยละกัน
บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าที่สวยมากครับ
ด้านบนจะทำเป็นคล้ายๆพิพิธภัณฑ์ ให้เดินชมของเก่าสวยๆได้
วิวทะเลสวยมากๆ
ได้เวลาอาหารแล้วหละ
Panwa House ขายแต่อาหารไทย รสชาติจัดจ้านดี วัตถุดิบก็ดีงาม ปลื้มมากจ้า
วันนี้เราสั่งอาหารไทยที่เน้นซีฟู้ดส์ ทั้งปลากะพงต้มยำแห้ง ราคา 340++ เป็นปลากะพงทอดกรอบทั้งตัว ราดด้วยผัดเครื่องสมุนไพรรสต้มยำ ผัดมาแห้งๆพอมีน้ำขลิกขลิก
อีกจานเป็นกั้งน้ำปลาหวาน ราคา 450++ เป็น Rock Lobster ทอดกรอบราดด้วยซอสอมเปรี้ยวอมหวาน ผมว่าคล้ายๆซอสมะขามเลยแค่รสไม่เด่นเปรี้ยวสักเท่าไหร่
ฉู่ฉี่กุ้ง 260++ เป็นเมนูที่ถูกใจมาก เพราะใช้วัตถุดิบดี สดมาก แถมรสชาติจัดจ้าน หลงรักจานนี้เลย
กรรเชียงปูทอด 200++ เด็กๆชอบมาก
ปิดท้ายด้วยข้าวเหนียวมะม่วง 180++ จานนี้ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่จ้า เพราะเคยทานที่อร่อยกว่านี้จ้า
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป