ความฝันใครๆก็มีได้ ฝันตอนหลับตาอาจจะเป็นเพราะจินตนาการ แต่ถ้าฝันตอนลืมตาที่เรามีสติอยู่กับตัว นั่นเป็นเพราะหัวใจเรียกร้องปรารถนา การไปนอนวิลล่ากลางมหาสมุทรอินเดียที่มัลดีฟส์เป็นความฝันของผมและภรรยามานานแล้ว และเราสองคนกำลังจะไปฮันนีมูนรอบที่แปดสิบกันที่ Club Med Kani จุดเด่นของที่นี่คือ แพกเกจแบบ All Inclusive รวมทั้งที่พัก อาหาร เครื่องดื่ม อยากกินอะไรกิน อยากดื่มอะไรสั่ง ทุกอย่างไม่อั้น กินดื่มไม่จำกัด พร้อมการแสดงโชว์ทุกคืน น้ำทะเลและหาดทรายจะสวยแค่ไหน ชีวิตที่นี่จะดีงามอย่างไร ตามไปรับชมรีวิวกันครับ
เชิญรับชมคลิปบรรยากาศเที่ยวก่อนเลยครับ
ทริปนี้เริ่มต้นด้วยการเดินทางด้วย Premier Class ของสายการบิน Bangkok Airways ครับ
ชอบสุดๆเวลาบินกับ Bangkok Airways คือมีห้องรับรองที่เสิร์ฟอาหารร้อนด้วย
เกี้ยวกุ้ง ขนมจีบ ต้มยำกุ้ง จัดมาเต็มโต๊ะ อร่อยๆทั้งนั้น เรียกว่ากินเป็นมื้อจริงจังได้เลย
ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมงก็ถึงสนามบินที่มาเล เมืองหลวงของประเทศมัลดีฟส์
พอออกมาจากอาคารผู้โดยสาร ก็มีเช็คอินที่เคาน์เตอร์ของ Club Med Kani เลย
เค้าจะให้เราติดแท็กกระเป๋า แต่ต้องไปดร็อปกระเป๋าไว้ที่เรือนะ แล้วกระเป๋าจะไปส่งที่ห้องพักเราเลย
ส่วนที่สำคัญจริงๆ คือ จะมีสายข้อมือมาให้ครับ สายข้อมือนี้ ผมเรียกว่ามันเป็นสายเบ่ง เนื่องจากการเข้าพักที่ Club Med Kani จะสามารถสั่งเครื่องดื่มและอาหารได้ฟรี เค้าจึงต้องมีสายเบ่งอันนี้เพื่อแสดงว่าเป็นแขกที่เข้ามาพักครับ
ใช้เวลานั่งเรือต่อไปยังรีสอร์ทอีกประมาณ 20 นาทีครับ
Club Med Kani คำว่า Kani คือชื่อเกาะนั่นเอง โดยเกาะ Kani เป็นเกาะเล็กๆที่อยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย มีเส้นผ่าศูนย์กลางด้านยาวประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้นเอง แต่เกาะเล็กๆแห่งนี้ก็ได้รวมทุกสรรพสิ่งที่ต้องการในวันพักผ่อนแสนสุขไว้หมดแล้ว
วันแรกที่เดินทางมาถึงฟ้าเต็มไปด้วยเมฆดำครับ ทำเอาใจแป่วไปเลย กลัวมามัลดีฟส์แล้วไม่เจอแดดกลับไปต้องโดนล้อแน่เลย 555 แต่ขนาดฟ้าไม่สวย น้ำทะเลยังสีฟ้าใสขนาดนี้ สุดยอดเลย
แวะถ่ายรูปกับ I <3 Kani หน่อย
หาดทรายและน้ำทะเลที่นี่สวยสุดใจไปเลย
คุณนายแอนชิลด์มาก
มีชิงช้าในทะเลด้วยนะ
แวะมาที่ล็อบบี้หลักของที่นี่กันก่อน สีสันหวานแหววมากมาย
สำหรับแขกที่พัก Overwater Suite จะมีอีกล็อบบี้ไว้เช็คอินโดยเฉพาะเลย
บริเวณนี้เรียกว่า Manta Lounge เป็นเลาจน์พิเศษที่เปิดบริการเฉพาะแขกที่มาพัก Overwater Suite เท่านั้น โดยเราสามารถสั่งเครื่องดื่มได้ฟรีตลอดวันเลย
ตรงนี้จะมีที่นั่งทั้งในห้องแอร์ แต่นั่งเล่นนอนเล่นตรงเบาะริมทะเลฟินกว่าเยอะ
Overwater Suite คือห้องพักที่อยู่กลางมหาสมุทร โดยจะมีสะพานไม้ทอดยาวไปแล้วแตกกิ่งไปเป็นห้องพักแต่ละหลัง โดยเค้าจะจำกัดแขกที่เข้าพักในโซนนี้จะต้องอายุไม่ต่ำกว่า 14 ปี (เด็กๆอดนะจ๊ะ)
คุณภรรยาที่รักเซลฟี่ไปประมาณห้าพันรูปได้ละมั๊ง
แดดออกแล้ว น้ำใสชะมัดเลย
มาชมภาพในห้องพักบ้างนะ เข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน
แขกที่มาพักห้องนี้จะมีแชมเปญให้ฟรี 1 ขวด
ถัดเข้ามาจะเป็นห้องนอน
เตียงมีมุ้งสวยๆด้วย เรียกว่าเป็นวิมานน้อยๆของคู่ฮันนีมูนเลยหละ
ข้างๆเตียงจะมีห้องแต่งตัว มีเตารีดและตู้เซฟให้ครบครัน
มินิบาร์ในห้องทานได้ฟรีทุกอย่าง รวมทั้งน้ำอัดลมในตู้เย็นด้วยนะ
ห้องน้ำกว้างมาก มีอ่างล้างมือ 2 อ่างไม่ต้องแย่งกัน
อ่างแช่ตัวในห้องน้ำนี่วิวสุดยอดไปเลย
ในชีวิตของเราสองคน เคยแช่อ่างน้ำจากโรงแรมหรูหรามาแล้วเป็นร้อยเป็นพันทั่วโลก แต่การแช่อ่างน้ำครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งหนึ่งที่มีความสุขที่สุด
มองวิวมหาสมุทรจากตรงนี้ น้ำทะเลสีฟ้าใส มองลงไปเห็นถึงปะการังอ่อนๆแทรกตัวออกมาจากแสงที่กำลังตกกระทบพื้นน้ำ ช่างเป็นภาพที่งดงามจริงๆ
แต่บรรยากาศที่สวยงามเหล่านี้ คงจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย หากไม่มีภรรยาที่รักมาซบอยู่ข้างๆกาย
เธอหลับตาอยู่ที่ไหล่ของผมเนิ่นนาน ถึงเราจะไม่ได้พูดอะไรกันมากนัก แต่หัวใจเราก็รับรู้ได้ถึงความรักที่มีให้แก่กันได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณวันเวลาและโชคชะตาที่พาเราสองคนมาพบกันและรักกัน เธอคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของผม
อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้เหลือเกิน…
ห้องพัก Overwater Suite จะมีระเบียงให้ออกไปนั่งเล่นชมวิวด้วย
นั่งเล่นตรงนี้เป็นอะไรที่ฟินมาก
สำหรับอาหารเช้านั้นเราสามารถสั่งมานั่งทานชิลล์ๆริมระเบียงห้องของเราได้ โดยเค้าจะมีใบให้เราเลือกว่าอยากทานอะไร จะเป็นเซ็ต American Breakfast, Continental หรือจะทานอาหารเช้าสไตล์ Asian ก็มีเสิร์ฟทั้ง อาหารจีน เกาหลี ญี่ปุ่น เราก็เลือกใบนี้แล้วเหน็บไว้หน้าห้องก่อนเวลาตีสอง (2.00 น.) ของเช้าวันรุ่งขึ้น แถมยังระบุได้ด้วยว่าจะให้มาเสิร์ฟเวลากี่โมง เค้ามีบริการตั้งแต่เวลา 7.00-11.30 น. เชียวนะ
และแน่นอน เราสองคนเลือกทานอาหารที่ริมระเบียงห้องพักแบบนี้ทุกวันที่เข้าพักเลย ทานไปชมวิวไป เป็นอะไรที่ฟินสุดๆ
ถาดด้านซ้ายมือเป็นเซ็ตจีน มีโจ๊กกับผัดหมี่ ขอบอกว่าโจ๊กอร่อยมากๆ พอชิมแล้วถึงกับสั่งโจ๊กมาทานกันทุกเช้าเลย ส่วนถาดด้านขวาเป็น American Breakfast จ้า
จากระเบียงจะมีบันไดเดินลงไปที่ท่าน้ำของห้องพักด้วย
ถ่ายภาพกันมันส์เลย
น้ำทะเลใสแจ๋วเห็นปะการังเลย
เราสามารถลงเล่นน้ำจากท่าน้ำในห้องพักได้เลยนะ
มาชมคลิปปลาทะเลที่นี่กัน
ปลาที่มัลดีฟส์รับแขกมากครับ พอมีคนลงไปในน้ำ มันจะเวียนว่ายโชว์ออฟใกล้ตัวเราเลย
จะมีปะการังเล็กๆ ซึ่งเป็นบ้านของปลาทะเลให้ชมด้วย
ปลาทะเลที่นี่ก็มีความหลากหลายมาก แต่ที่สุดยอดคือ มีปลาสิงโตเป็นฝูงเลย
ปลาเทวดาก็มานะ
แม้กระทั่งลูกปลาฉลามก็มีนะ (ภาพนี้ไม่ได้เจอตรงห้องพักนะ เจอที่ห้องอาหาร)
บางครั้งก็จะเห็นปลากระเบนว่ายน้ำมาทักทายบ้าง
ถ้าใครพักโซน Lagoon Suite ตกบ่ายประมาณบ่ายสี่ เค้าจะมีบริการเครปให้ทานเป็นของว่างยามบ่ายด้วยนะ
เดี๋ยวขออนุญาตรวบรวมอาหารจากห้องอาหารหลักที่เราทานกันนะ มีทั้งมื้อกลางวันและเย็นผสมๆกัน ในส่วนอาหารของที่คลับเมดจะทานได้ไม่จำกัด เพราะ All inclusive ในแพ็คเกจแล้ว อาหารที่เสิร์ฟในห้องอาหารหลักนั้นส่วนใหญ่จะเป็น Buffet แบบ Ala carte คือแต่ละซุ้มจะเป็นอาหารแบบจัดจานสวยให้ทาน จะมีแบบให้ตักทานเองบ้างอย่างมุมอาหารจีน สลัด ผลไม้ และของหวาน ที่เป็นบุฟเฟ่ต์ในแบบที่เราคุ้นเคย
นี่ๆเค้ามีปลาทูน่าสดๆตัวยักษ์มาแล่ใส่จานสวยๆกันสดๆเลย
อาหารมีให้เลือกหลากหลายมาก อย่างจานนี้เป็น ปลาย่างกับหอยเชลล์ตัวยักษ์ราดด้วยซอส ทานกับข้าวเม็ดยาวๆสไตล์อินเดีย
สเต็กเนื้อราดซอสเห็ด
จัดจานได้ดูดีมากกก อย่างกับทานร้านอาหารหรูๆเลย
มุมอาหารจีนก็มีนะ ฮะเก๋าอร่อยมาก รสชาติถูกปากคนไทยจ้า
ไลน์ของหวานก็เพียบ จัดเต็มจริงๆ
ถึงห้องอาหารหลักจะเสิร์ฟอาหารไม่จำกัด แต่เค้าก็มีเวลาเปิดปิดตามเวลานะ ส่วนใครที่กำลังสนุกเพลิดเพลินกับกิจกรมอื่นๆภายใน Club Med Kani อยู่ก็ไม่จำเป็นต้องรีบเร่งมาให้ทันทานที่ห้องอาหารหลักก็ได้ เพราะถ้าพลาดเวลาปกติของห้องอาหารหลักไป เค้าก็มีบริการเสิร์ฟอาหารที่ห้องอาหารอื่นแทนในช่วง Late Breakfast, Late Lunch และ Late Dinner ด้วยจ้า
โดยอาหารที่เสิร์ฟก็จะมีเมนูให้สั่งได้พอประมาณ อย่างจานนี้เป็นข้าวกับปลาย่างและผักย่าง อร่อยดีทีเดียว
ใครอยากทานแซนวิชเค้าก็มีให้สั่งนะ โดยอาหารที่ห้องนี้เค้าก็จะทำตามที่สั่ง้ลยเพราะฉะนั้นต้องรอนิดนึง เพราะทำใหม่ๆจ้า
ที่บาร์เครื่องดื่มริมทะเล เราสามารถดื่มเครื่องดื่มได้ฟรีตลอดวัน
แต่แขกที่พักห้อง Overwater Suite ก็สามารถเข้ามานั่งดื่มที่ Manta Lounge ได้
เครื่องดื่มแอลกอฮอลก็ดื่มได้ไม่อั้นนะ
ตอนค่ำๆก็มานั่งดื่มแชมเปญได้ด้วย
หลังทานข้าวมื้อเย็น ก็จะเป็นเวลาปาร์ตี้ดื่มกินกัน
อิ่มแล้วก็มารอดูโชว์กัน แต่ยอมรับว่าโชว์ที่นี่จะสู้ที่คลับเมดบาหลีไม่ได้นะ ที่บาหลีอลังการกว่ามากเลย
กินกันตลอดวัน ตอนกลางคืนก็มาแดนซ์เบิร์นแคลเลอรี่ออกหน่อย สนุกสนานมากมาย
ส่วนกิจกรรม และ Excursions ก็มีมากมาย จะมีตารางกิจกรรมประจำวันอยู่ สามารถเข้าร่วมได้ ส่วนใหญ่จะฟรีนะ แต่บางอย่างก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
เราได้มีโอกาสเล่น Parasailing มาครับ (อันนี้ต้องจ่ายเพิ่มนะ)
Parasailing คือ การนั่งชมวิวจากร่มชูชีพ โดยจะมีเรือลากร่มชูชีพของเราไปรอบๆเกาะ
เห็นแบบนี้ ขึ้นไปด้านบนสูงเอาเรื่องอยู่นะ เสียวไส้ประมาณหนึ่งเลยหละ
ส่วนวิวจากด้านบนเนี่ยสวยงามสุดยอดครับ มองเห็นน้ำทะเลสีฟ้าของท้องทะเลมัลดีฟส์เลย
ไปชมบรรยกาศ Parasailing แบบคลิปวิดีโอกันดีกว่า
สำหรับราคาแพกเกจ All Inclusive ของ Club Med Kani จะมีตั้งแต่ 3 วัน 2 คืน หรือ 4 วัน 3 คืน มีให้เลือกแบบทั้งรวมและไม่รวมตั๋วเครื่องบิน สายการบินมีให้เลือกทั้ง Bangkok Airways และ Srilankan Airlines
สำหรับใครที่สนใจจะมาพักก็สามารถเช็คราคาโปรโมชั่นได้ที่
www.clubmed.co.th
Line : @clubmedthailand
Call Center : 02268 8448
และก็จบรีวิวคลับเมดคานิ Club Med Kani ไปอย่างสมบูรณ์ วันนี้ลากันไปก่อนนะ ติดตามรีวิวที่กินที่เที่ยวจากเราได้ใหม่ได้โอกาสต่อไปจ้า
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป