ในที่สุดร้าน Hello Kitty House ก็ได้มีสาขาแรกที่เมืองไทย โดยตั้งอยู่ใจกลางสยามสแควร์ กับห้างเปิดใหม่อย่าง Siam Square One นั่นเอง ด้วยความสงสัยว่าทำไมร้านนี้จึงมีคิวยาวรอเข้าร้านตลอดเลย ด้านในจะเป็นอย่างไร จะน่ารักแค่ไหน อาหารอร่อยมั้ย วันนี้ผมจะพาครอบครัวไปรีวิวให้ชมกันนะครับ
มาถึงคนก็เยอะมากแล้ว จนทางร้านต้องจัดเก้าอี้ให้นั่งรอคิวกันเลย คิวผมรอตั้ง 40 นาทีครับ
วันนี้ตั้งใจพาน้องเกรซลูกสาวสุดที่รักมาคลายเครียด เนื่องจากช่วงนี้น้องเกรซอยู่ในช่วงเตรียมตัวสอบเข้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ครับ เรียกได้ว่าช่วงนี้เหนื่อยกันทั้งครอบครัวเลย ไม่ว่าจะเป็นตัวน้องเกรซเองที่เตรียมตัวสอบโดยต้องเรียนพิเศษถึง 7 วันเต็ม ส่วนพ่อแม่ก็งานยุ่งไม่แพ้กันเลยละ เลยวางแผนพามาพักสมองหลังเลิกเรียนกันที่ Hello Kitty House รับจากโรงเรียนรีบจัดแจงให้น้องเกรซเปลี่ยนชุดให้เข้ากับธีมร้านเสียหน่อย
พอดีพวกเราเปิดร้านขายเสื้อผ้าในห้าง SQ1 ระหว่างรอคิวนั้น เพื่อไม่ให้เสียเวลา หนูน้อยก็พกการบ้านมาทำที่ร้านให้เสร็จเรียบร้อยเลย
ระหว่างรอคิวก็ถ่ายรูปส่องนู่นนี่ไปเรื่อยเปื่อยเลย ร้านตกแต่ง Display น่ารักๆแบบนี้ มองได้ไม่มีเบื่อเลยครับ
เมื่อได้คิวแล้วน้องพนักงานจะพาเดินมาส่งยังโต๊ะตามคิว เดินเข้ามาจะเห็นเคาน์เตอร์บาร์จำหน่ายอาหารอยู่ทางซ้ายมือ สภาพจริงคิวไม่ได้โล่งขนาดนี้นะครับ คิวยาวใช้ได้เลย ขายดีมากจริงๆ เมื่อทราบเบอร์โต๊ะเรียบร้อย ก็เดินมาสั่งอาหารบริเวณนี้กันได้เลย ร้านนี้เป็นแบบบริการตนเองนะ เหมือนเราสั่งกาแฟเลยจ้า เข้าแถว สั่งอาหาร รอรับอาหาร หยิบช้อนส้อม และยกไปที่โต๊ะเอง แต่ทางร้านก็ไม่ใจร้ายนะ น้องๆก็ยินดีช่วยเหลือครับ ภรรยาซื้ออาหารทั้งหมด 2 ถาด น้องพนักงานก็ช่วยถืออีกถาดมาส่งที่โต๊ะด้วยครับ เต็มใจให้บริการสุดๆเลย
มาเริ่มสำรวจที่ตู้ขนมเค้กก่อนดีกว่า
ขนมหน้าตาน่าทานมาก แทบทุกเมนูจะตกแต่งด้วยสัญลักษณ์น่ารักๆแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าแมวเหมียวคิตตี้
น่ารักมากๆเลย ผมเชื่อว่าจะต้องมีใครไม่กล้าทานเพราะมันสวยบ้างแน่ๆ
Hello Kitty House ภายในจะครอบคลุมบริเวณ 3 ชั้น เริ่มกันที่ทางเข้าหลักซึ่งเป็นส่วนของร้านอาหารก่อนนะ บริเวณนี้จะมีที่นั่ง และบาร์ขายอาหาร ถ้าเราเดินขึ้นไปอีกชั้น ด้านบนจะเป็นโซนนั่งทานอาหารเต็มบริเวณเลย โต๊ะเยอะมากมาย
ส่วนถ้าเราเดินลงด้านล่าง จะเป็นส่วนร้านค้า และสปาครับ
จะขึ้นจะลงเป็นบันไดเดินแบบนี้นะ กว้างขวางดีเลยครับ
เมื่อมาถึง Hello Kitty House สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่าทุกคนจะไม่พลาดเลย ก็คือการถ่ายรูปกับเจ้าโลโก้ร้านแน่นอนครับ ขอบอกว่าสีสันสดใสมากๆเลยล่ะ
ถ่ายรูปให้หนำใจกันไปเลยจ้า
วันนี้ครอบครัวเรานั่งกันที่ชั้นบนนะครับ พื้นที่กว้างขวาง โต๊ะไม่แน่นเลยครับ การจัด lay out ของร้านทำได้อย่างดีเลย มีการสลับรูปแบบการจัดวางโต๊ะเก้าอี้ที่สลับกันหลายๆแบบ น่ารักทั้งนั้น
แม้แต่บนเพดาน ก็ไม่หลุด concept
โซฟาสีหวานเจี๊ยบแบบนี้ คงดูแลรักษายากน่าดูเลยครับ
ข้างๆโต๊ะที่เรานั่ง มีเจ้าแมวเหมียวคิตตี้สองตัวนี้อยู่ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันประจำร้านเลยก็ว่าได้ครับ ใครผ่านไปมา ต้องมีแวะถ่ายรูปกันแทบทุกคนเลย
นิทานยังเป็นคิตตี้เลย
ของตกแต่งร้านต่างๆ
ชอบเก้าอี้ตัวนี้มากเลย
มาแล้วจ้า อาหารที่เราสั่งมาชิมกัน อาหารที่ Hello Kitty House ส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปที่ขนมหวาน และเครื่องดื่มครับ แต่ก็มีอาหารคาวที่เป็นอาหารทานเล่นง่ายๆพอแก้ขัดรองท้องให้หายหิวอยู่บ้างนิดหน่อยครับ
เริ่มกันที่ Light meal เบาๆอย่างผัดไทยก่อนนะครับ อาหาร Light meal ที่ Hello Kitty House จะจัดจานมาให้ลูกค้าสามารถตักทานง่ายๆ ผัดไทยจานนี้ราคา 150 บาท รสชาติก็กลางๆครับ ส่วนราคาถือว่าแรงใช้ได้เลย
ต่อมาเป็นแซนวิชแฮมชีส เก๋ตรงตัวขนมปังแซนวิช ที่ถูกมาตัดขอบและปั๊มให้เป็นรูปน้องคิตตี้ก่อน แล้วนำไปปิ้งให้กรอบนิดๆครับ เสิร์ฟกับแฮมสองแผ่นใหญ่ และชีส ราคา 190 บาท
ปิดท้ายด้วยของหวาน ลองสั่ง Signature Dish มาลองทานดูจ้า จานนี้ราคาอยู่ที่ 280 บาท เป็น Lemon Tart รสชาติอร่อยใช้ได้เลยครับ ไม่เปรี้ยวจนเกินไป แต่งจานมาสวยๆ ทานคู่ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างสตรเบอร์รี่ และราสเบอร์รี่ แถมตัดความเปรี้ยวด้วยมาชเมโล และวิปปิ้งครีม สำหรับผมแล้วชอบเมนูนี้มากๆเลยครับ
เด็กๆชอบที่นี่กันมากเลยทีเดียว
สนนราคามื้อนี้จ่ายไปทั้งหมด 780 บาท สำหรับผมแอบแพงเหมือนกันครับ แต่ถ้าคิดว่านานๆมาเปลี่ยนบรรยากาศ หาร้านขนมทานก็โอเคครับ เหมาะกับมาทานขนมหลังทานข้าวอิ่มแล้วครับ เพราะถ้ามาทานร้านนี้ให้อิ่มเลย มีหน้าซีดกันตอนจ่ายเงินแน่นอนจ้า
ทานอิ่มแล้วแวะลงมาชั้นล่างยังถ่ายรูปได้อีก เห็นหลายๆคนใส่แว่นตาคิตตี้ แต่งตัวเข้าธีมกันมาเยอะแยะเลยนะครับ ใครอยากได้รูปสวยๆน่ารักๆกลับไป แนะนำให้แต่งตัวสีชมพูหวานๆจัดเต็มกันมาเลยครับ
ยิ้มกันร่าเลย
เอาล่ะ เดี๋ยวเราเดินลงไปสำรวจด้านล่างกันต่อดีกว่าครับ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าไม่ได้มีเพยงแค่ร้านอาหารนะครับ ที่นี่ยังมีสินค้าสำหรับสาวกคิตตี้ให้เลือกช้อปปิ้งกันอย่างจุใจเลย
มุมถ่ายรูปเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด
เห็นแล้วก็อดถ่ายไม่ได้ครับ
รถเต่าสีนมแดง ดูท่าจะถูกใจเด็กๆบ้านนี้มากเลย พอขึ้นรถได้ก็สำรวจกันใหญ่
พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายของที่ระลึกนะครับ
อีกโซนที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี ก็จะเป็นโซนสปา นวดตัว นวดหน้า มีหมดเลยครับ แต่ตอนที่ผมไปยังไม่พร้อมเปิดให้บริการจ้า
มีทำเล็บด้วยนะครับ เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้วจ้า
เป็นยังไงบ้าง ร้านเค้าน่ารักเนอะ ใครว่างๆก็ลองไปทานอาหารเปลี่ยนบรรยากาศกันที่ Hello Kitty House Bangkok กันได้เนอะ โดยเฉพาะสาวกคนรักคิตตี้ งานนี้พลาดไม่ได้แล้วหละ แล้วอย่าลืมพกกล้องถ่ายภาพไปด้วยนะ กดชัตเตอร์กันมันส์เลยครับ
ปล.หากคุณอ่านรีวิวมาถึงตรงนี้ ผมได้ใช้เวลาและพลังงานมากมายในการเขียนรีวิวเพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์แก่ทุกคน หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป