2Madames.com

Leave a Comment

ประเทศไทยมีผู้เสียชิวิต บาดเจ็บและพิการจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับสองของโลก โดยส่วนใหญ่เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถจักรยานยนต์ และเป็นเด็กๆที่ต้องเสียชีวิตสูงถึง 2,600 คน บาดเจ็บและพิการอีกว่า 72,000 คนในแต่ละปี ผลสำรวจพบว่าสาเหตุหลักของการไม่สวมหมวกนิรภัยคือ การคิดว่าหมวกนิรภัยไม่ใช่สิ่งจำเป็นเพราะเดินทางใกล้ๆ ไม่ได้ออกถนนใหญ่ เป็นเรื่องเสียเวลา และหลายครั้งถูกมองว่าไม่เท่ ในฐานะของคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ก็รู้สึกอดห่วงปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะมันอยู่ใกล้ตัวเรามากจริงๆ ก็น่าจะดีนะหากมีองค์กรใดองค์กรหนึ่งมาช่วยกันรณรงค์เรื่องการสวมใส่หมวกกันน็อคบ้าง

ล่าสุดมีแคมเปญที่น่าสนใจชื่อ Helmet Hero หรือ ฮีโร่กันน็อค ซึ่งนำโดย องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) เขาได้ทำงานร่วมกับโรงเรียนต่างๆทั่วกรุงเทพมหานครเพื่อฝึกอบรมณ์นักเรียนผ่านคุณครูประจำชั้นเพื่อให้เด็กๆเป็นผู้นำในการชักชวนเพื่อนๆ รวมไปถึงผู้ปกครอบ และคนอื่นๆในชุมชน ให้หันมาใส่ใจเรื่องความปลอดภัย พร้อมทั้งเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด Everyday Heroes “ใครๆก็กันน็อค” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคนดังจากหลากหลายวงการเพื่อมาเล่าประสบการณ์ “กันน็อค” ของตัวเอง

เรื่องที่ประทับใจที่สุดสำหรับพ่อแม่อย่างเราคือเรื่องของคุณครูสมศรี ธรรมสารโสภณ ติวเตอร์ภาษาอังกฤษชื่อดังที่เคยสอนผมตอนเด็กๆ คุณครูบอกว่า “หมวกกันน็อค คือหมวกที่คลุมความห่วงใยของพ่อแม่”

ชม clip เต็มๆ

 

คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภณ ติวเตอร์ภาษาอังกฤษชื่อดัง

นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์โฆษณาอีกหนึ่งตัวที่กำเรียกเสียงฮือฮาให้กับผู้พบเห็นบนโลกโซเชียลอย่าง “พระกันน็อค” ที่มีหลวงพี่เดินพรมน้ำมนต์กลางสี่แยกดังในกรุงเทพมหานครให้กับผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์โดยเฉพาะกับเด็กๆที่ไม่ได้สวมหมวกนิรภัย

 

สำหรับส่วนตัวของผมเอง ในฐานะที่เป็นพ่อคนหนึ่ง ก็อยากจะเป็นหนึ่งเสียงเล็กๆที่จะช่วยกันรณรงค์ให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการสวมใส่หมวกกันน็อคกันทุกครั้งที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์ สำหรับใครที่สนใจเรื่องนี้ สามารถไปที่ www.helmethero.org ยังมีวีดีโออีกหลายคลิปให้ชม นอกจากนี้ยังสามารถร่วมโหวตและแสดงความคิดเห็นให้กับเรื่องที่ชื่นชอบที่สุดกันได้ด้วยนะครับ

---

ภาพรวมโครงการ The 7% Project

มีเด็กในวัยเรียน ทุกๆวันราว 1.3 ล้านคนที่เดินทางโดยการซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ แต่กลับมีเพียง 7% เท่านั้นที่สวมหมวกนิรภัย แม้ว่าจะมีกฎหมายบังคับใช้ก็ตาม
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยในแต่ละปี มีเด็กกว่า 2,600 คนเสียชีวิต หรือมากกว่า 7 คนต่อวัน และอีกเกือบ 200 คนต่อวันได้รับบาดเจ็บหรือพิการ หรือกว่า 72,000 คนต่อปี
ความสูญเสียเหล่านี้สามารถป้องกันได้ ด้วยการให้เด็กๆที่เดินทางด้วยการซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง
เครือข่ายองค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านคุ้มครองเด็กและป้องกันอุบัติภัยบนท้องถนน นำโดย มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย (AIP Foundation) และ องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) จึงได้ร่วมมือกันริเริ่มโครงการ The 7% Project – เด็กไทยซ้อนท้ายใส่หมวก โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและพิการทางสมองในเด็ก ด้วยการเพิ่มอัตราการสวมหมวกนิรภัยของเด็กจาก 7% ให้เป็น 60% ทั่วประเทศภายในปี 2560