วันหยุดสุดสัปดาห์สบายๆ พาครอบครัวไปพักผ่อนโรงแรมใหม่เอี่ยมที่เขาใหญ่อย่างโรงแรมลาบาริส เขาใหญ่ HOTEL LABARIS KHAO YAI โรงแรมตกแต่งเหมือนเรากำลังท่องไปในดินแดนแห่งเทพนิยาย จะสวยแค่ไหน มีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปรับชมรีวิวกันครับ
มารับชมคลิปกันก่อนเนอะ
การเดินทางมายังโรงแรมลาบาริส เขาใหญ่ HOTEL LABARIS KHAO YAI
ตามพิกัดนี้เลย : https://goo.gl/maps/BVUrmK6xgFYzu9hC9
จองที่พักหรือข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/hotellabaris/ //
www.hotellabaris.com
เบอร์โทร : 063-190-1900
เย็นวันศุกร์ ไปรับน้องกายจากโรงเรียนแล้วขับรถออกมาเที่ยวเขาใหญ่กัน รถติดเล็กน้อย มาถึงเขาใหญ่ก็บ่ายๆเย็นๆพอดี นั่งพักตรงล็อบบี้ของโรงแรมเพื่อเช็คอิน ดื่มน้ำ Welcome Drink เป็นน้ำเกสรดอกไม้กับมะนาวโซดาเย็นๆ ชื่นใจดีเหมือนกัน
คำว่า Labaris เป็นภาษาลาติน ซึ่งเป็นรากศัพท์ของคำว่า Labyrinth ที่แปลว่า เขาวงกต หลายๆส่วนของโรงแรมจึงสร้างมาให้ล้อกับความหมาย อย่างเช่น ประตูทางเข้าของแต่ละห้องจะต้องเดินเข้าประตูที่ด้านหลังเป็นทางเล็กๆ ลัดเลาะไปตามทางคล้ายกับกำลังเดินอยู่ในเขาวงกต
พอเดินมาตามทางจนสุดก็จะเจอกับห้องพักของเรา
ห้องพักของครอบครัว 2Madames ในค่ำคืนนี้ เป็นแบบ Grand Deluxe Room แล้วเสริมเตียงสำหรับน้องเกรซน้องกาย
ห้องกว้างขวางดี สะอาดและใหม่มาก
ระเบียงห้องพักของเราจะมีเก้าอี้ไว้ให้นั่งพักผ่อน มองออกไปจะเห็นวิวสวนด้วย
ที่ชอบเป็นพิเศษ คือ ห้องน้ำในห้องพักตกแต่งสวยมาก
หลังอ่างล้างมือสามารถมองทะลุไปห้องนอนได้นะ แต่ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็ปิดม่านลงมาได้เช่นกัน
ห้องอาบน้ำมีแยกส่วนแห้งแล้วส่วนเปียกไว้ด้วยห้องกระจก เช่นเดียวกับห้องขับถ่ายก็ถูกแยกเป็นสัดส่วนเช่นกัน
มินิบาร์และของในตู้เย็น ทานฟรีได้หมดทุกอย่าง เพราะรวมในค่าห้องแล้ว และเติมใหม่ให้ทุกวัน
ในห้องจะมีชุดคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะให้
Welcome Fruit
บนเตียงจะมีถุงผ้าและดอกกุหลาบวางต้อนรับ
ออกไปเดินชมโรงแรมยามค่ำๆกันต่อนะครับ
ตัวตึกอาคารของ HOTEL LABARIS KHAO YAI สวยงามและแปลกตา คล้ายกับเรากำลังเดินเล่นอยู่ในดินแดนเทพนิยาย
กลับมาชมล็อบบี้กันอีกครั้งนะครับ
ล็อบบี้ที่นี่เป็นแบบ Open Air ถ้าเป็นฤดูหนาว ท่าทางจะชิลด์มาก
เดินเล่นรอบๆกันต่อนะครับ
เดินมาถึงสระว่ายน้ำซึ่งอยู่ด้านในสุดของโรงแรม
ข้างๆสระว่ายน้ำจะเป็นห้องอาหารของโรงแรม
ร้าน Labaris Restaurant by Hotel Labaris เปิดบริการตลอดวัน All Day Dining อาหารเช้าถึงอาหารค่ำ ก็ทานได้ที่นี่ครับ
แวะทักทายเจ้ากวาง Cattle Queen ก่อนนะ เขามีดอกกุหลาบด้วย สวยเชียว
บรรยากาศด้านในห้องอาหาร Labaris Restaurant by Hotel Labaris ใครมาพักที่นี่แนะนำว่าอย่าลืมลองทานอาหารมื้ออื่นๆกัน เพราะอร่อยทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่งเลย
เครื่องดื่มก็น่าลองหลายอย่าง แก้วแรกเป็นนูเทียร่าไวท์มอลต์ 180++ บาท ส่วนแก้วขวาเป็นมัทฉะมิลค์เชค 160++ บาท ทั้งสองแก้วรสชาติดีทีเดียว ไม่หวานจนเกินไป
น้องเกรซน้องกายชอบมาก
มื้อค่ำนี้ขอมาในโทนอาหารฝรั่งก่อน เริ่มเบาๆด้วยเมนูสลัดเนื้อปู อโวคาโด และเสาวรส 320++ บาท ตอนสั่งตอนแรกแอบหวั่นๆ แต่แม่แอนชอบทานสลัดปูและเลิฟอโวคาโดมากเลยลองสั่งมา ปรากฎว่าดีเกินคาด เนื้อปูเยอะมากทานกับเสาวรสเข้ากันสุดๆ ทานแล้วสดชื่นหายเพลียจากการขับรถไกลเลย
โฮมเมดสโมคแซลมอนเสิร์ฟกับสลัดสไตล์เมดิเตอเรเนียน 280++ เสิร์ฟมาพอขั่นใหญ่เกินราคามาก เล่นเอาทานกันไม่หมดทีเดียว
มักกะโรนีอบชีส ชีสแน่นมากเด็กๆชอบมากเลย เสิร์ฟคู่กับขนมปังกระเทียมอบกรอบ
มาอาหารจานหลักบ้าง สเต็กปลาแซลมอนซอสเทอริยากิ 440++ บาท แซลมอนขนาดใหญ่เกินราคาไปมาก กริลล์มาเกรียมหน่อยๆแต่เนื้อในยังฉ่ำไม่แห้ง ชิมขณะไม่ราดซอสยังอร่อยเลย
สเต็กเนื้อแกะเสิร์ฟพร้อมพิตาชิโอ้บัตเตอร์ ฟักทองบดและคูสคูส 990++ บาท เนื้อแกะนิ่มไม่เหม็นสาบ แต่ย่างมาแดงไปนิด ความอร่อยถูกใจเลยล่ะ
พาสต้าก็ดีงามทั้งสองเมนูทั้ง สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า 240++ บาท และเฟตตูชินี่ผักโขมกุ้งเพสโต้ 260++ บาท ใช้กุ้งตัวใหญ่ เส้นรสชาติดี เอาเป็นว่าถูกใจทั้งสองจาน
ในส่วนไลน์อาหารเช้าก็ทานที่เดียวกันนี่ละ ไลน์อาหารไม่ได้อลังการมาก ไม่ได้ประทับใจ แต่ไม่ตกหล่น มีทั้งเมนูซิกเนเจอร์อย่างไข่กระทะ และอาหารง่ายๆที่คนส่วนใหญ่ทานกัน
มีทั้งอาหารไทย อย่างวันที่พวกเราไปมีหมูผัดน้ำมันหอย กับผัดผัก ซึ่งเมนูพวกนี้จะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ
สเตชั่นไข่มีทั้งไข่ดาว ไข่คน ออมเล็ต ไข่ดาวน้ำ ไข่ต้ม ไข่ลวก egg benedict แถมยังมีไข่กระทะที่หมูสับบนไข่ราดเป็นผัดกะเพราแห้งๆอีกด้วย
แพนเค้ก วอฟเฟิล เล็งจังหวะดีๆที่เชฟทำเสร็จใหม่ๆได้เลย เพราะเชฟทำสดๆตรงนี้เลยจ้า
ซุปมิโสะ, ต้มเลือดหมู, ข้าวต้มไก่ ถูกใจมาก
มุมสลัด โยเกิร์ต ผลไม้ และของหวาน
รังผึ้งมาแบบนี้เลย น้องเกรซชอบมากๆ
คอร์นเฟลก นม และน้ำผลไม้ต่างๆ
มื้อนี้ทานเท่านนี้ก็อิ่มละ บอกแล้วว่าไม่เยอะแต่มีครบ
เติมพลังก่อนนะ วันนี้มีกิจกรรมกันทั้งวันเลย
อิ่มอาหารเช้าแล้วก็มาเดินเล่นกันต่อนะ
บริเวณสวนจะมีสัตว์ในเทพนิยายประดับไว้ ตัวอย่างเช่น กระต่ายหูยาวแต่มีเขา ตัวนี้ชื่อ LAPIN HORN
และตัวนี้คือ FIRE EATER ซึ่งสัตว์เหล่านี้มาจากเทพนิยายทั้งสิ้นครับ
ดอกไม้ที่นี่เยอะมาก
มาชม Rabbit Cafe ที่อยู่ด้านหน้าของ Hotel Labaris กัน
บรรยากาศภายใน Rabbit Café ถูกออกแบบให้เหมือนกับโพรงกระต่าย
ร้านไม่ใหญ่ แต่สายๆลูกค้านอกก็แวะเวียนมาใช้บริการกันเยอะเลย ทานขนมเครื่องดื่ม แล้วเดินชมสวนสวยด้านหน้าต่อสบายๆ เป็นอีกคาเฟ่ใหม่ที่น่าแวะมาชิม แชะ ชิลล์
สำหรับเมนูเครื่องดื่ม ขนมต่างๆ ก็จะเหมือนกับห้องอาหารหลักของโรงแรมครับ
ลาบาริสวาฟเฟิล เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม 200++ บาท
ซากุระมัทฉะโฟลต 180++ บาท
อีกแก้วเป็นน้ำแครรอทโซดา ขออภัยจำชื่อไม่ได้ แต่เป็นอีกหนึ่งเมนูขายดีของทางร้านจ้า
กินขนมเสร็จ พาเด็กๆมาเตะบอลกัน
บริเวณด้านหน้าโซน Pool Villa จะมีการติดกระจกรอบๆด้วย เก๋ไปอีกแบบ
มาชมสระว่ายน้ำตอนกลางวันบ้าง
สระว่ายน้ำของ Hotel Labaris จะเป็นทางเหมือนลำธารวนรอบเลย
เก็บภาพภรรยาและลูกๆไว้หน่อย
กดไปยิ้มไป อืม ผมรักพวกเค้ามากจริงๆ
ที่สนุกมากๆ คือมีโซนสระเด็ก ที่มีสไลด์เดอร์และอุโมงค์พ่นน้ำด้วย
เดินจนสุดทางจะมีลำธารที่มีหินทำเป็นสะพานข้ามไว้ด้วย เด็กบ้านนี้ว่ายน้ำสระเสร็จ ขอลงไปเล่นน้ำในลำธารกันต่อ
มื้อเที่ยงวันนี้พวกเรายังคงทานอาหารกันภายในโรงแรม เพราะรอบนี้มาพักผ่อนแค่ช่วงสั้นๆ ไม่อยากเสียเวลาออกไปไหน สั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบไปพลางๆ
Green Summer 350++ บาท เป็นสปาร์คลิ่งค็อกเทลสไตล์ญี่ปุ่น ที่ให้กลิ่นหอมอ่อนๆของกุหลาบ แตงกวา และส้มยูซุจากญี่ปุ่น จิบแล้วสดชื่นดีจริงๆ
Falling Star 350++ บาท ค็อกเทลตัวนี้ได้แรงบันดาลใจจากดาวที่ตกลงมาในคืนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง รสชาติความกลมกล่อมของ Muscato และกลิ่นลิ้นจี่ เป็นอะไรที่จับคู่ได้อย่างลงตัวเสมือนท้องฟ้าและดวงดาวที่อยู่คู่กัน
มื้อนี้ของลองอาหารไทยดูบ้าง บอกเลยว่าจัดจ้านทุกจานที่ได้ลองชิม
หมูสามชั้นทอดน้ำปลา 180++ บาท บอกเลยว่าอร่อยสุดที่เคยทานมา ด้วยหมูสามชั้นหั่นหนากำลังดีไม่บางจนไม่รู้รสชาติ หมักน้ำปลาดี ชุบแป้งทอดกรอบผสมงาขาวเพิ่มความหอมอีกนิด บอกเลยว่ายังงัยก็ต้องลอง รบรองติดใจทั้งบ้านแน่นอน
เมนูเด็ดมีอีกหลายอย่าง ที่สำคัญรสชาติจัดจ้าน จานใหญ่ และจัดจานมาสวยทุกจาน
- ยำปลาแซลมอนแซ่บวาซาบิ 280++ บาท น้ำยำครบรส เนื้อปลาให้มาชิ้นหนาๆเลย
-
ต้มยำทะเล ใครทานเผ็ดไม่เก่ง บอกเชฟได้นะ เพราะรสชาติเข้มข้นมาก แถมใส่เครื่องมาล้นเลย
-
แกงมัสมั่นน่องแกะ 390++ บาท บอกเลยว่าไม่แพง เพราะเสิร์ฟมาน่องใหญ่เครื่องแน่นมากๆ แถมน้ำแกงเข้มข้นสุดๆคลุกข้าวเพลินๆไปหลายจานเลย
-
กุ้งผัดพริกเกลือ 360++ บาท ใช้กุ้งสดตัวโต ผ่าหลังให้แกะเปลือกทานง่ายๆ รสชาติดีจริงๆ
เย็นๆ แดดเริ่มร่ม ก็ได้เวลาเล่นน้ำกันแล้ว
น้องเกรซน้องกายสนุกสนานกันใหญ่
ก็นับเป็นช่วงเวลาดีๆสำหรับครอบครัวที่จะประทับใจไปตราบนานเท่านาน
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป