สุดสัปดาห์สบายๆ พาครอบครัวพักผ่อนโรงแรมใหม่ล่าสุดย่านทองหล่ออย่าง Hotel Nikko Bangkok รีวิวพาทาน Afternoon Tea Set จัดหนักบุฟเฟ่ต์เทมปุระขั้นเทพของห้องอาหาร Hishou และบุฟเฟ่ต์ซันเดย์บรั๊นซ์เอาใจเด็กๆที่มาพร้อมกับสิทธิ์ใช้สระว่ายน้ำ พาชมห้องพักใหม่ จะสนุกสนานแค่ไหน ตามไปรับชมรีวิวกันครับ
มารับชมคลิปกันก่อนเนอะ
วันนี้พาครอบครัวมาที่โรงแรมใหม่ล่าสุดย่านทองหล่ออย่างโรงแรม นิกโก้ กรุงเทพฯ Hotel Nikko Bangkok กัน
คำว่า Nikko หลายคนอาจจะคิดว่าน่าจะมาจากชื่อเมืองท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นหรือเปล่า แต่ที่จริงแล้วไม่เกี่ยวกันครับ Nikko ย่อมาจาก Nihon ซึ่งหมายถึงประเทศญี่ปุ่น และ Koku ซึ่งหมายถึงสายการบิน ดังนั้นจึงหมายถึงสายการบินประจำชาติญี่ปุ่นนั่นเอง Hotel Nikko Bangkok ที่จริงเป็นหนึ่งในธุรกิจของกลุ่ม JAL หรือเจแปน แอร์ไลน์ และกลุ่มโรงแรม Okura ด้วย
พิกัด : https://goo.gl/maps/m5vZQQ9jgnM2
ล็อบบี้ของ Hotel Nikko Bangkok หรูหราโอ่โถงมากๆ
เด็กๆก็ตื่นเต้นที่วันนี้จะได้เที่ยวกันเช่นเคย
ขึ้นไปชมห้องพักของครอบครัวเรากันก่อนนะ วันนี้เราเปิดห้องแบบ Superior Plus ซึ่งเป็น Connecting Room เชื่อมกัน 2 ห้องครับ ราคาเริ่มต้นของห้องนี้คือ 4,300++ บาทรวมอาหารเช้านะครับ (ราคาจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน ต้องลองสอบถามราคากับโรงแรมอีกครั้ง)
ห้องใหม่สะอาด และกว้างขวางดีครับ
ผนังห้องน้ำเป็นแบบกระจก เตียงและอ่างแช่ตัวจะสามารถมองเห็นกันได้เลยครับ
หัวเตียงมีไฟเรืองแสงเป็นลวดลายด้วยนะ สวยทีเดียว
ห้องขับถ่ายจะแยกออกมาจากห้องอาบน้ำนะครับ
มีติดตั้งระบบชำระล้างอัตโนมัติแบบญี่ปุ่นด้วยนะครับ
ห้องอาบน้ำจะอยู่อีกด้านหนึ่ง เข้ามาก็เจอกับอ่างล้างหน้า
มีแยกส่วนเปียกไว้เป็นโซนยืนอาบน้ำ มี Rain Shower ติดไว้ด้วย
ส่วนอ่างแช่ตัวก็ชิดกับด้านกระจก สามารถมองไปยังห้องนอนได้ ไม่อึดอัดเลย
Amenities ใช้ของ PANPURI หอมมาก ชอบมากจ้า
ตู้เสื้อผ้าใหญ่มาก สามารถเดินเข้าไปยืนได้เลย เครื่องใช้ก็ครบครัน ทั้งตู้เซฟ เตารีด ชุดคลุมอาบน้ำ รองเท้าสลิปเปอร์
มี Pantry เล็กๆ พร้อมเครื่องดื่มชากาแฟและกาต้มน้ำ
อีกห้องที่เชื่อมกันเป็นแบบเตียงแฝดนะ
ห้องนี้ให้น้องเกรซน้องกายนอน มาถึงก็กระโดดเล่นเลย
ส่วนคุณนายแอนก็ถูกใจกับโซฟาริมหน้าต่างมาก
ก็วิวเมืองกรุงเทพจากริมหน้าต่างมันสวยมากเลย
ถ้าใครชอบออกกำลังกายก็สามารถมาใช้บริการฟิตเนส เซ็นเตอร์ที่บริเวณชั้น 6 ได้ และชั้น 6 ก็เป็นที่ตั้งของห้องอาหาร Oasis และสระว่ายน้ำด้วย
ช่วงบ่ายๆเวลา 14.00-17.00 น. ที่ CURVE55 บริเวณล็อบบี้ Hotel Nikko Bangkok เค้ามีบริการ Afternoon Tea Set ที่ช่วงนี้เป็นเทศกาล Spring Season ที่จัดเซ็ตมาได้น่ารักมุ๊งมิ้งสีหวานเหมือนดอกซากุระที่กำลังบานอยู่ในช่วงนี้ที่ญี่ปุ่น สนนราคา 990++ บาท สำหรับ 2 ท่าน คอนเซปต์การจัดก็จะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลของทางญี่ปุ่นเลย ใจนี่อยากจะตามเก็บและลองชิมให้ครบทุกเทศกาลเลยจ้า
สำหรับเครื่องดื่มในเซ็ต ก็จะสามารถเลือกชาได้ 2 กลิ่น มีทั้งชาฝรั่ง 6 รสชาติ ที่ใช้ชาชั้นดีอย่าง Mariage Freres และชาดอกไม้อีก 4 รสชาติ เสิร์ฟมา 2 กา และยังสามารถรีฟีลน้ำร้อนได้อีกกาละหนึ่งครั้ง
ครอบครัวเราเลือกชาดอกเก๊กฮวยและชา Marco Polo รสชาติดีทีเดียว หอมแต่ไม่ขม ไม่เติมน้ำตาลก็จิบได้สบายๆ
ขนมที่เสิร์ฟมาก็เยอะตามรูปจ้า พิถีพิถันในการเสิร์ฟมากๆ มีทั้ง
อาหารคาว : เบอร์เกอร์เนื้อ / ซูชิโรล / พาร์ม่าแฮมพันกับเมลอน
อาหารหวาน : มาการอง / มูสสตรอเบอร์รี่ในโคน / สโคน / โมจิ / ทาร์ต / ขนมไส้ถั่วแดง
ให้มาเยอะจน 4 คนยังทานไม่หมดเลย โดยรวมขนมรสชาติดีมาก สถานที่ก็โล่งๆโปร่งๆ ที่นั่งเยอะมาก
ใครมานอกเช่วง Afternoon Tea อยากมานั่งจิบชา ดื่มกาแฟ หรือทานขนมอื่น ถ่ายรูปเก๋ๆก็มาได้ที่ CURVE55 เปิดให้บริการตั้งแต่ 7.00-23.30 น.เลยจ้ะ
อ่อ ถ้าอยากได้ส่วนลดในทุกๆการใช้บริการของทางโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการจองห้องพัก หารทานอาหาร หรือแม้กระทั่งจิบชาทานขนมสวยๆแบบพวกเรา แนะนำให้สมัครสมาชิก One Harmony ไว้เลย สมัครฟรีจ้า
มาชมคลิปไปสำรวจดองกี้ ไทยแลนด์กัน
มื้อเย็นวันนี้พวกเราทานที่ห้องอาหารของโรงแรมนี่ล่ะ แม้ว่าย่านทองหล่อจะเป็นย่านที่มีของกินคึกคักสุดๆ แต่มานี่ทั้งทีก็ขอลองอาหรที่มีความญี่ปุ่นด้วยบ้าง ที่ห้องอาหาร Hishou (ฮิโฉะ)
ที่ห้องอาหาร Hishou นี้ จะให้บริการเทปุระแบบบุฟเฟ่ต์ โดยให้สั่งตามออเดอร์และทอดกันสดๆใหม่ๆ ราคาเทมปุระบุฟเฟ่ต์จะมี 2 ราคา คือ AYA Tempura 1,100++ และ HISHOU Tempura 1,900++ บาท ราคารวมเครื่องดื่มชาร้อน/ชาเย็นแบบรีฟีลให้แล้ว รายละเอียดว่าแต่ละราคาเลือกทานอะไรได้บ้างดุในรูปด้านล่างเลยจ้า
เข้าไปในห้องอาหารก็จะเห็นไลน์บุเฟ่ต์ตรงกลาง คือถ้าเราเลือกทานบุฟเฟ่ต์เทมปุระแล้ว ก็จะสามารถมาตักอาหารในไลน์นี้ทานได้ไม่จำกัดอีกด้วย แต่ไม่ต้องกังวลนะ
สำหรับคนที่ไม่ชอบของทอดอย่างเทมปุระ ทางห้องอาหารเค้าก็มีราคาสำหรับทานไม่อั้นในไลน์บุฟเฟ่ต์อย่างเดียวด้วยนะ Osouzai Buffet ราคาจะอยู่ที่ 580++ บาท รวมเครื่องดื่มชาแบบร้อน/เย็นไว้แล้ว
แต่ๆๆ สำหรับใครอยากมาดื่มสบายๆหลังเลิกงาน ก็มีราคาสำหรับนักดื่มให้ได้เพลิดเพลินก่อนกลับบ้านด้วย Banshaku Set จ่ายราคา 480++ บาท จะได้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 ดริ๊งค์ ไม่ว่าจะเป็น สาเก, โชจู, หรือเบียร์ และจะสามารถตักอาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์ได้เพียงหนึ่งครั้ง เลือกอาหารได้ 4 อย่าง ไว้ให้ทานเป็นกับแกล้มประมาณนั้น
ไลน์อาหารมีอาหารไม่มากมายอะไรนัก หลักๆก็จะมีซีฟู้ดส์ออนไอซ์ อย่างปูม้า หอยหลอด มีปลาย่าง และกับข้าวผัดอื่นๆสไตล์ที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบ ที่เรามักจะคุ้นหน้าตาในไลน์บุฟเฟ่ต์เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น
มีแซลมอนโรล และข้าวห่อสาหร่ายโรลพอประมาณ
โซบะเย็น
โอเด้งก็มีนะ
อีกฟากของห้องอาหารจะเป็นครัวเปิดที่เชฟนำวัตถุดิบที่เราเลือกมาคลุกแป้งแล้วทอดเทมปุระให้ชมกันสดๆ แถมยังมีโซนที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์บาร์สำหรับคนที่อยากให้เชฟทอดแล้วเสิร์ฟทานทีละชิ้นได้ด้วยนะ ได้อารมณ์เหมือนที่เคยไปทานร้านดังที่ญี่ปุ่นเลย
ทอดกันสดๆใหม่ๆ แล้วเสิร์ฟกันร้อนๆเลย
จานแรกนี้เป็นเทมปุระที่รวมๆพวกเนื้อสัตว์ต่างๆมาก่อน มีทั้งกุ้ง, ขาปู, ปลาทรายขาว, ปลาทูญี่ปุ่น, ไข่นกกระทา, ปลาหมึก, ทาโกะหนวดปลาหมึกยักษ์
เวลาทานตามแบบฉบับญี่ปุ่นจะจิ้มทานกับเกลือรสชาติต่างๆ วันที่พวกเราไปทานเสิร์ฟเกลือมา 6 รสชาติด้วยกัน ทั้งเกลือธรรมชาติ, เกลือวาซาบิ, เกลือผงกะหรี่, เกลือส้มยูซุ, เกลือพริกไทยดำ และเกลือมัทฉะ ขอบอกว่าอร่อยและถูกปากทุกรสชาติ แต่ที่ชอบมากที่สุดคือเกลือมัทฉะ อยากให้ทุกคนได้ลองจริงๆ
จานถัดมาจะเน้นผักต่างๆ มีทั้งถั่วญี่ปุ่น, แครอท, ฟักทอง, มันม่วง, พริกหวาน, ชีส, มะเขือม่วง, รากบัวและเห็ดหอม
จานนี้เด็ดมากเป็นกุ้งลายเสือ Tiger Prawn ที่ตัวใหญ่ สด เนื้อแน่นมาก สั่งทีสิบตัวเลย
มารับชมคลิปกันครับ
มื้อเย็นจบไปอย่างแน่นท้อง เรามาดูบุฟเฟ่ต์ในไลน์อาหารเช้ากันดีกว่า ว่ามีอะไรน่าทานกันบ้าง
โดยรวมแล้วอาหารครบถ้วนดี อาหารค่อนข้างหลากหลาย เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังในส่วนที่น่าสนใจและห้ามพลาดละกัน อย่างแรกที่ประทับใจคือมุมน้ำผลไม้แยกกาก ที่สามารถเลือกผักผลไม้ในสัดส่วนที่ชื่นชอบให้พนักงานทำให้เลย ผักผลไม้ก็หลากหลายดี ถ้าแช่เย็นมาด้วยจะยอดเยี่ยมมาก
ในส่วน Egg Station สามารถสั่งได้ทั้งเมนูไข่ Egg of the Day ที่เป็นออมเล็ตเลือกเครื่องได้ตามชอบ ที่พิเศษคือมีราดซอสเหมือนเวลาเราทานทาโกะยากิด้วย เข้ากันได้ดีมาก แพนเค้ก วอฟเฟิล ก็สั่งทำสดใหม่เสิร์ฟกันร้อนๆที่โต๊ะเลย แค่เอาตัวหนีบเบอร์โต๊ะมาสั่ง สะดวกมากๆ
มื้อเช้ามี Honey Glazed Ham ให้ทานด้วยนะ
ขนมจีบกุ้งและซาลาเปา เป็นของโปรดเด็กๆบ้านนี้เชียวล่ะ
อาหารไทยแบบหนักท้องอย่างแกงเขียวหวาน แกงจืดก็มีนะ เผื่อใครอยากจัดหนักอิ่มยาวรวมมื้อเที่ยงไปด้วยก็โอเคอยู่ อาหารร้อนในไลน์นี้ก็จะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน
มาถึงไฮไลท์เด็ดในไลน์อาหารเช้าจะจัดเหมือนเวลาเราไปเที่ยวญี่ปุ่นเลย มีปลาแซลมอนที่ให้ย่างเองร้อนๆ มีไข่หวานและพวกเครื่องเคียงผักดองต่างๆด้วย
ซุปมิโสะก็มี
เอร็ดอร่อยกันมื้อเช้า มีสาหร่ายแผ่นๆให้ทานกับข้าวญี่ปุ่น อันนี้ยิ่งปลื้มหนักเลย
เรื่องกินยังไม่จบนะจ๊ะ เพราะทุกๆวันอาทิตย์มื้อเที่ยงทาง Hotel Nikko Bangkok ที่ห้องอาหาร The Oasis มีจัด Sunday Brunch with Pool Access ที่กินเสร็จสามารถกระโดดลงสระน้ำข้างๆห้องอาหารได้เลย ลูกค้าที่ไม่ได้เข้าพักก็สามารถลงเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำของโรงแรมได้
อาหารสามารถทานได้ตั้งแต่ 12.00-15.30 น. หลังทานอิ่มสามารถลงเล่นน้ำได้ถึง 17.00 น.เลย
สำหรับราคาอยู่ที่ 1,590++ บาท เด็กอายุ 6-12 ปี จ่ายครึ่งราคา
เข้ามาในห้องอาหารก็สะดุดตากับไลน์ Seafood on Ice ตรงหน้าเลย มีทั้งกุ้ง ขาปู หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และออยสเตอร์ ข้างๆกันเป็นไลน์ของหวานน่าทานมากกกก
ด้านนอกมีเชฟปิ้งย่างบาร์บีคิวให้ด้วย ส่วนนี้ต้องเอาตัวหนีบเบอร์โต๊ะมาหนีบที่จาน แล้วเลือกเนื้อสัตว์ที่เราต้องการเลย มีทั้งกุ้ง ปลา เนื้อ หมู ไก่ ถ่ายไลน์มาโหรงเหรงมาก เพราะพวกเราเพิ่งจะรู้ว่ามีโซนด้านนี้ตอนจะหมดเวลามื้ออาหารแล้วจ้า
ความพิเศษอีกอย่างของมื้อ Sunday Brunch คือลูกค้าทุกท่านจะได้รับล็อปสเตอร์แบบในรูปนี้คนละครึ่งตัว
น้องเกรซชอบมากๆ
ติ่มซำก็จะมีมากกว่ามื้อเช้า มีฮะเก๋าเพิ่มเข้ามา ข้างๆกันมี Pasta Station ที่สั่งผัดใหม่ๆเลย
โรงแรมญี่ปุ่นก็จะมีซูชิที่น่าทานกว่าที่อื่นมากอยู่นะ
Kaisen Don เป็นสิ่งที่ห้ามพลาดในไลน์บุฟเฟ่ต์นี้ เมนูนี้เป็นข้าวหน้าปลาดิบรวมที่มีทั้งแซลมอน ปลาโอ ไข่แซลมอน ไข่กุ้ง ปลาหมึกยักษ์ ไข่หวาน แตงกวา ปูอัด คลุกเคล้าปิดข้าวจนมิดเลย
ฟินแค่ไหนถามมาดามดูจ้า
แถม Signature Dish อีกเมนูที่เอาออยสเตอร์มาอบชีส
ของหวานนี่ชิมไปไม่กี่อย่าง รสชาติโอเคเลย
ด้านหลังไลน์ขนมหวานมีไอศกรีมให้อร่อยถึง 6 รสชาติ พร้อมท็อปปิ้งอีกหลายอย่าง
ทีเด็ดไฮไลท์อีกอย่างของ Sunday Brunch with Pool Access คือมี Kids Corner จะเป็นมุมกิจกรรมของเด็กๆ ทั้งระบายสี มุมลูกโป่งจากเหล่าโบโซ่ แต่ที่สนุกมากคือ โชว์มายากล ชอบกันทุกคนเลย
สนุกสนานกันไป
มีเพ้นท์หน้าฟรีด้วยนะ
มารับชมคลิปกัน
และอย่างที่บอกไว้ว่าทานบุฟเฟ่ต์เสร็จแล้วก็สามารถเล่นน้ำได้เลย (ไม่เข้าพัก แต่มาทานบุฟเฟ่ต์ก็เล่นได้นะ) เรื่องอาบน้ำและตู้ล็อกเกอร์ก็สามารถใช้บริเวณห้องฟิตเนสได้เลย
งานนี้ได้อิ่มท้องแล้ว ยังได้สนุกกับสระว่ายน้ำด้วย
สนุกกันจนเย็นครับ ไม่หมดแรงไม่มีใครยอมกลับบ้านจริงๆนะ
มาชมคลิปเล่นน้ำกัน
จบแล้วจ้า ที่จริงพักผ่อนก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัดเลยนะ อยู่กรุงเทพก็พักผ่อนได้ ก็คงเหมือนความสุข ที่อยู่ไม่ไกล แค่เราอยู่ใกล้ๆคนที่เรารักและรักเราจริงมั้ย…
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป