เพื่อนๆเคยสงสัยมั้ยคะ ว่าร้านตัดผมสไตล์ญี่ปุ่นแตกต่างกับร้านตัดผมสไตล์คนไทยยังไง วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การใช้บริการที่ร้านตัดผม LUSRICA ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยที่ได้ลองการสระผมด้วยน้ำโซดาด้วย ดียังไง ราคาเท่าไหร่ คุ้มไม่คุ้ม ตามแอนมาเลยค่ะ แอนจะพาไปชมให้ทั่วร้านเลย
ร้านลูซิก้า Lusrica จะเข้ามาจากทาง ซ.ทองหล่อ 9 หรือซ.ทองหล่อ 13 ก็ได้ ตอนที่ไป เราเข้าซอยทองหล่อ 9 เจอร้าน Limoncello ก็เลี้ยวขวา จะเจอร้าน Yamagoya ราเมง ก็จอดรถตรงนั้นเลย เดินเข้ามาในอาคารก็เจอร้าน Lusrica เลย
เมื่อก้าวขาเข้ามาแอนก็จะพบมุมนั่งรอ มุมพักผ่อน ถ้ามีคิวก็สามารถนั่งเอนหลังสบายๆเลือกทรงผมไปพลางๆจ้า
ระหว่างรอคิวเหลือบไปเห็นขวดรูปร่างแปลกตาหน้าตาน่ารักเป็น Gel Wax สำหรับจัดแต่งทรงผม มีให้เลือกถึง 3 ระดับ นำเข้าจากญี่ปุ่นเชียวน้า ที่สำคัญสกัดจากธรรมชาติ ทำมาจากขี้ผึ้งแท้ ล้างออกง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะด้วย
มุมสระผม นั่งเอนหลังสบายๆ บรรยากาศดูชิลล์ๆ
ครั้งนี้แอนตัดสินใจมาตัดผมให้สั้นลง เพราะผมแห้งเสียจากการทำสีและไฮไลท์มากๆ พร้อมทั้งทำสีผมใหม่ให้สีผมเข้มขึ้นสักหน่อย
วันนี้ชวนคุณสามีมาตัดผมด้วย ร้าน Lusrica สามีเลือกออกแบบทรงผมโดยท็อปสไตล์ลิสต์ ราคาอยู่ที่ 1,200 บาท เลือกแบบทรงผมเป็นที่เรียบร้อย ก็จะมีสไตล์ลิสต์ชาวญี่ปุ่นมาช่วยแนะนำ เลือกแบบทรงผม และออกแบบทรงผมให้รับกับใบหน้าเราด้วย ดีงามตรงนี้แหละ
ต่อด้วยการเลือกสีผมใหม่
อุปกรณ์ทำความสะอาดไว้พร้อม ไม่มีการวางระเกะระกะเลย
แอบปลื้มตรงที่ใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยได้ดีมากๆ ลูกค้าบางคนใส่แว่นมา ทางร้าน LUSRICA ก็เตรียมกล่องไว้ใส่แว่นตา และช่วยถอดแว่นตาให้คุณสามีขณะกำลังจะตัดผมให้ด้วย กรี๊ดดดด เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเจอ
เริ่มเลยค่ะ เห็นมั้ยคะ โคนผมเดิมแอนงอกมายาวมาก ที่ร้านนี้จะตัดผมโดยช่างคนไทยนะคะ คุยกันรู้เรื่องแน่นอน เริ่มตัดผมให้เป็นทรงที่ต้องการก่อนจ้า
ตัดค่อนข้างละเอียดเลย จับซ้าย จับขวา จนแน่ใจว่าซ้ายขวาหนาบางเท่ากัน
ลงสีเลยจ้า ลุ้นๆ ว่าสีจะออกมาเป็นไงนะ
อ่อ เกือบลืมไป ก่อนลงสี ร้าน LUSRUCA จะมีการเติม Keratin ไปปิดเส้นผมที่เสียหาย แล้วยังฉีดบำรุงกันแสบหนังศรีษะขณะลงสีด้วย ชอบมาก ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้เลยว่ามีแบบนี้ด้วย
นั่งเพลินๆก็เสิร์ฟน้ำ แอนเลือกเป็นชาส้มแบบเย็นไป เสิร์ฟมาหน้าตาแบบนี้ ขอบอกว่าน้ำชาอร่อยมากจริงๆ อร่อยจนอยากสั่งอีกแก้วเลย แต่เกรงใจค่ะ สรุปดื่มไปแก้วเดียวนะค๊า แล้วก็มีขนมให้ทานพอกรุบกริบ
มาถึงไฮไลท์ทีเด็ด อยู่ที่ขั้นตอนการสระผมที่ร้าน LUSRICA ใช้น้ำโซดาในการสระผม เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินอีกแล้วค่ะ แต่ที่ญี่ปุ่นใช้กันมานานแล้ว เค้าว่ากันว่าการสระผมด้วยโซดาจะช่วยส่งเสริมสุขภาพเส้นผม ขจัดสารพิษตกค้างบนเส้นผมและหนังศรีษะ แล้วยังช่วยทำความสะอาดรูขุมขนที่อุดตันอีกด้วย หากสระบ่อยๆจะลดความอับชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์บนหนังศรีษะได้ด้วย วันๆหนึ่งแอนเชื่อว่าเพื่อนๆทุกคนต้องผจญกับควันพิษในอากาศมากมาย แล้วยังมีเหงื่อไคลอีก ฟังแบบนี้แล้วอยากจะมีเครื่องแบบนี้สระเองที่บ้านเลย
จบที่ขั้นตอนสุดท้าย เซ็ตผมเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
สวยหล่อกันถ้วนทั่วค่า
ส่วนราคาตอนที่แม่บ้านสมัยใหม่แบบแอนเลือกทำเป็นโปรโมชั่นราคาสบายกระเป๋า ที่ออกแบบทรงผมโดยสไตล์ลิสต์คนไทย รวมทั้งตัด+สระโซดา+ทำสีหรือยืดหรือดัดโดยช่างคนไทย อยู่ที่ราคา 2,480 บาท เพื่อให้เพื่อนๆเห็นว่าราคาสบายกระเป๋าแบบนี้ เสร็จแล้วออกมาดูดีแค่ไหนค่า
แอนเชื่อว่าราคาคงเป็นหลายๆปัจจัยที่ผู้หญิงทุกคนพิจารณาเพื่อความคุ้มค่ากันอยู่แล้วเนอะ สำหรับราคาตัดผมดูราคาแล้วแอบแพงนิดนึง เพราะราคาค่าตัด 1,200 บาท เป็นราคาสำหรับท็อปสไตล์ลิสต์ชาวญี่ปุ่นออกแบบทรงผมให้ค่า ใครอยากประหยัดลงมาหน่อยก็เลือกให้สไตล์ลิสต์คนไทยออกแบบทรงผมได้นะ ก็จะจ่ายค่าตัดเพียง 700 บาทเท่านั้น แต่สำหรับราคาทำสี ดัด ยืด และทำทรีตเม้นท์ แอนว่าราคาดีงามเลยละ
บทสรุปของร้านลูซิก้า Lusrica
1.) บรรยากาศร้านอบอุ่น สบายๆ เป็นกันเอง
2.) การบริการของช่างตัดผมชาวญี่ปุ่น บอกเลยว่าเริ่ดมาก ตั้งแต่การถอดแว่นให้ ใส่ใจทุกรายละเอียด จะเดินไปเข้าห้องน้ำยังตามมาเปิดประตูให้เลย สุดยอด
3.) คุณภาพการตัด โอเคมาก ละเอียด วัดซ้ายวัดขวา เอาจนเป๊ะ
4.) คุณภาพการทำสี ได้สีตามที่เลือก ติดทนนานดี
5.) ราคาก็แอบแรงแต่ก็ไม่มาก ถ้าเทียบกับร้านที่เคนทำที่สยาม ราคานี้ก็ไม่ได้แพงหากเทียบกับโลเคชั่นย่านทองหล่อ การบริการ การใช้น้ำโซดาสระผม
โดยรวมเราค่อนข้างประทับใจมากๆ และแนะนำให้มาลองใช้บริการกันดูนะคะ
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป