2Madames.com

Leave a Comment

หลังจากที่คราวที่แล้วเหมียวๆพาไปเที่ยวฮ่องกงท่ามกลางสายฝนกันแบบจุใจ โดยที่การเดินทางทั้งหมดในครั้งนี้ เหมียวๆได้ร่วมทริปนี้กับคณะทัวร์ คราวนี้เหมียวจะเดินทางต่อไปยังมาเก๊าค่ะ โดยจะเดินทางไปที่ Venetian – วัดอาม่า – วิหารเซ็นต์ปอล – เซนาโต้สแควร์ โดยใช้เวลาเที่ยวทั้งหมด 1 วัน 1 คืนค่ะ ตามไปชมกันได้เลยนะคะ

การเดินทางจากฮ่องกงไปมาเก๊ามี 2 แบบนะคะ แบบแรกคือแบบที่เหมียวไปโดยเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ค่ะ ในภาพคือ Turbo Jet

สำหรับผู้ที่ยังไม่มีตั๋วสามารถมาซื้อได้ที่ counter นี้เลยค่ะ ในส่วนของเหมียวๆไม่ต้องซื้อเพราะมากับทัวร์เลยมีตั๋วเรียบร้อยแล้วค่ะ

ส่วนบริการอีกอย่างคือ Sky Shuttle ซึ่งใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น

ลากกระเป๋าตามมาเลยค่ะ

วิวตรงทางเดินไปขึ้นเรือค่ะ

คณะทัวร์ของเหมียวๆใช้บริการของ Cotai ค่ะ เค้าบอกว่าเรือใหม่และดีกว่า

ภายในเรือเป็นที่นั่งแบบนี้ค่ะ เบาะกว้างนั่งสบาย

ลงมาจากเรือออกจาก immigration จะเจอสนามบินของมาเก๊าค่ะ

บริเวณนี้จะมีรถของ The Venetian มาจอดรอรับคนไปที่คาสิโนของเค้าค่ะ นอกจากนี้ยังมีบูทของโรงแรมต่างๆด้วยค่ะ

หลังทางคณะทัวร์ขึ้นรถ ทางไกด์ก็แนะนำข้อมูลคร่าวๆของมาเก๊าให้ฟังค่ะ นั่งไปสักพัก รถก็มาถึงที่ The Venetian

สัญลักษณ์นี้ไกด์บอกว่าเป็นจุดฮวงจุ้ยค่ะ รูปปั้นนี้จะอยู่ก่อนทางเข้าค่ะ

ทางเดินเข้ามาด้านใน เต็มไปด้วยผู้คนค่ะ โดยที่ 2 ข้างทางจะมี Brand ต่างๆให้เลือก Shopping

และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การเข้าไปเล่นคาสิโน สำหรับเหมียวๆขอบายค่ะ ไม่มีโชค ก็เลยเดินไปเก็บภาพมาฝากทุกๆคนแทน

ขึ้นมาชั้นบนกันเลยค่ะ  เหมียวๆถ่ายภาพมาให้ชมกันว่าคนเยอะจริงๆ

บริเวณลานมีโชว์ค่ะ ตอนเหมียวๆไปถึงโชว์กำลังจะจบพอดี

บริเวณหอนาฬิกาค่ะ

เรือกอนโดลา

เห็นเค้าโยนแบงค์โยนเหรียญกัน ไม่รู้ว่าโยนเพื่ออะไร แต่เหมียวๆคิดว่าน่าจะโยนแล้วทำให้ได้กลับมาอีกครั้ง

วันที่ไปก็มีคนนั่งกอนโดลากันเยอะพอควรเลยค่ะ

ระหว่างทางเราก็เจอเข้ากับ หน้าจอ Information map เพื่อหาร้านดังร้านนึงค่ะ

ระหว่างเดินผ่านมองขึ้นไปบนเพดานสวยๆ

แล้วก็เจอเข้ากับตัวตลกต่อขาที่มาสร้างความบันเทิง

มาถึงแล้วค่ะ ร้านที่เหมียวๆและเพื่อนๆเดินวนไปมาตามหา ชื่อร้าน Lord Stow’s

เจ้าทาร์ตไข่นี่แหละค่ะที่เหมียวๆอยากมาลอง

มาแล้วค่ะสั่งไปทั้งหมด 10 ชิ้น มาแบบร้อนๆเลย

อร่อย หวาน มัน ไม่เลี่ยนเหมือนของที่ทานมื้อเช้าที่ฮ่องกงค่ะ

ทานของคาว ก็เลยอยากของหวานขึ้นมา เดินวนไปมาไม่รู้จะทานยอะไร เลยจบที่ Food ค่ะ

ราคาอาหารก็อยู่ที่ 50 ขึ้นไปค่ะ หรือประมาณ 250 บาท จากนี้เหมียวๆเลือกทานไก่อบค่ะ หนังกรอบทานกับมะกอกเข้ากันดีค่ะ

ที่ Food Court มีอาหารนานาชาติให้เลือกค่ะ ไม่ต้องห่วงเลยสำหรับชาวต่างชาติ มีแม้กระทั่งผัดกระเพราค่ะ

หลังจากออกจากเดอะ เวเนเชียนแล้ว มองไปยังฝั่งตรงข้ามก็สะดุดเข้ากับ The Galaxy เป็นคาสิโนแห่งใหม่เปิดได้สัก 3 ปีแล้วค่ะ ยิงเลซอร์สวยมากๆ

ที่ The Galaxy ยังประกอบไปด้วยโรงแรมแบรนด์ชั้นนำให้ไปพักผ่อนด้วยค่ะ

คืนนี้ลาก่อนค่ะ

หลังจากการเดินทางเหนื่อยมาทั้งวัน เหมียวๆและคณะทัวร์ก็เข้าพักที่โรงแรมค่ะ โรงแรมในมาเก๊าที่เหมียวๆพักชื่อ Rio Casino ค่ะ

โรงแรมตกแต่งได้สวยค่ะ แต่กลิ่นบุหรี่จัดไปหน่อยค่ะ เพราะว่าลมแรงเลยพัดเอากลิ่นบุหรี่ที่ลูกค้าสูบด้านนอกเข้ามา

ขึ้นมาที่ห้องพักค่ะ ห้องพักของเหมียวๆกว้างมากๆ ค่ะคงเป็น Type ประมาณ Deluxe ได้แอบไปเยี่ยมห้องพี่ข้างๆ เค้าได้ห้องเล็กกว่าเหมียวๆ แต่ขนาดห้องก็ยังใหญ่กว่าโรงแรมที่ฮ่องกงเยอะค่ะ

หลังจากที่เปิดม่านบางๆก็จะเจอกับ Daybed ให้นั่งนอนเล่นค่ะ

ที่นั่งเป็นแบบนี้ค่ะ

ส่วนของทีวี มีหลายช่องให้เลือกชมค่ะ แต่ส่วนใหญ่เป็นทีวีท้องถิ่นค่ะ

ส่วนของ Minibar ด้านล่างจะเป็นตู้เย็น และข้างๆเป็นตู้ค่ะ

ห้องน้ำก็กว้างเช่นเดียวกันค่ะ มีข้าวของเครื่องใช้ให้ครบ ทั้งไดร์ กระจกข้าง และ Amenity

อ่างอาบน้ำในห้องค่ะ

ช่วงกลางคืน ทุกคนจะออกไปชมแสงไฟกัน แต่เหมียวๆเลือกนั่งดื่ม หาอะไรหม่ำที่ห้อง เลยเดินลงมาซื้อของที่ Super เล็กๆ และ  7-11 แถวโรงแรมค่ะ

นี่คือภายในของ Super เล็กๆที่ว่าค่ะ เพราะทางเข้าเล็กจริงๆ แต่พอเข้าไปแล้ว ถึงกับตกใจค่ะ เพราะมีทุกอย่างจริงๆทั้งข้าวของเครื่องใช้ ผัดสด ผลไม้ และแอลกอฮอล์ ต้องขอโทษที่เหมียวๆถ่ายมาเฉพาะของมึนเมาค่ะ

ก่อนคณะจะออกเดินทาง ทุกคนจะลงมาทานอาหารเช้ากันค่ะ วันนี้จะเป็นแบบบุปเฟ่ต์ อยากบอกว่าโจ๊กที่โรงแรม Rio อร่อยมากๆเลยค่ะ

หลังจากทานเรียบร้อยก็มุ่งหน้่าสู่ วัดอาม่าค่ะ รถทัวร์ที่นั่งไปจะจอดรอที่บริเวณลานค่ะ เหมียวๆต้องเดินเข้าไปเอง

ถึงหน้าวัดอาม่าแล้วค่ะ วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของมาเก๊าค่ะ

ส่วนประวัติความเป็นมาเหมียวขอเอาข้อมูลจากเวป Gsmtours มาแชร์นะคะ “วัดเจ้าแม่อาม่า หรือ ศาลเจ้าแม่ทับทิมตั้งอยู่บริเวณเขาบาร์รา สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายให้กับอาม่า องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล ภายในมีก้อนหินขนาดใหญ่ ซึ่งแกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงว่า เป็นจุดที่เจ้าแม่อาม่าย่างเท้าก้าวขึ้นสู่ผืนดินมาเก๊า”

หลังจากที่ไหว้ด้านล่างเสร็จ เหมียวๆก็ขึ้นไปขอพรด้านบน และเก็บภาพวิวมุมสูงมาให้ค่ะ

หลังจากไหว้พระเสร็จ คณะทัวร์ก็ลงไปช๊อปปิ้งกันต่อที่ร้านขนมที่ไกด์พาไปค่ะ เหมียวๆถ่ายตัวอย่างขนมขึ้นชื่อของมาเก๊ามาฝากค่ะ

เมื่อเสียเงินซื้อของฝากกันเรียบร้อย ไกด์ก็พานั่งรถมาลงกลางเมืองค่ะ

เป้าหมายต่อไปคือการมาชมโชว์ที่ Wynh Hotel ค่ะ

ภายใน Mall ของ Wynn Hotel จะมี Brand name shop ให้เลือกหลายร้านเลยค่ะ

การเดินทางที่สุดท้ายที่ไม่ไปไม่ได้ของมาเก๊าเลยก็คือที่ วิหารเซ็นต์ปอล หลังจากรถบัสจอดคณะเราก็ลงจากรถเพื่อเดินไปทางด้านหลังของวิหารค่ะ

บริเวณด้านหน้าของวิหารค่ะ

วันที่เหมียวๆไปคนเยอะพอสมควรเลยค่ะ

ด้านล่างของวิหารจะขายลูกชิ้นปิ้ง ได้ลองชิม อร่อยดีค่ะ

มาถึงตรงนี้แล้วก้ต้องลองทาร์ตไข่ค่ะ เดี๋ยวเค้าจะบอกว่ามาไม่ถึง

หลังจากอื่มอร่อย ก็เดินผ่านตรอกเล็กๆ ไป เซนาโด้สแควร์ค่ะ

ร้านนี้เป็นร้านดังค่ะ แวะไปลองชิมกันได้เลย ทั้งชานม และทาร์ตไข่

ชอบที่มาเก๊าค่ะ เพราะจะมีตึกสไตล์โปรตุกีส ที่นี่คือ St Dominic’s Church

ร้านขายาค่ะ

ลานน้ำพุ อยู่ตรงกลางเลยค่ะ

แท็กซี่ที่นี่เหมือนที่ไทยค่ะไม่เหมือนที่ฮ่องกง

ได้เวลากลับแล้วค่ะ

ผ่านสวนสาธารณะสวยๆกลางเมือง

ขากลับก็ข้ามเรือจากมาเก๊ามาเพื่อขึ้นเครื่องที่ฮ่องกงค่ะ

บายๆทริปฮ่องกง – มาเก๊าที่แสนสนุก ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ

ปล.หากคุณอ่านรีวิวมาถึงตรงนี้ เราได้ใช้เวลาและพลังงานมากมายในการเขียนรีวิวเพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์แก่ทุกคน หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ 2 Madames ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า

อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : Kit Kat Kitten Fan Page ด้วยนะคะ