ใกล้จะครบรอบ 1 ปีที่เครื่องบินของสายการบิน Malaysia Airlines เที่ยวบินที่ MH 370 ได้หายไปจากท้องฟ้าอย่างไร้ร่องรอยเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2014 จนถึงนาทีนี้ ยังไม่มีใครสามารถทราบได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับ MH 370 และลูกเรือยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า จนทำให้เกิดความหวั่นกลัวกับการโดยสารกับมาเลเซียแอร์ไลน์ไปทั่วโลก
วันนี้ 2Madames.com จะรีวิวเปิดประสบการณ์การบินชั้น Business Class เส้นทางกรุงเทพ-ปักกิ่ง โดยมีเที่ยวบินขาหนึ่งเป็นเส้นทางเดียวกันกับ MH 370 ให้รับชมกัน ตั้งแต่กระบวนการเช็คอิน, CIP Lounge, เก้าอี้, อาหาร, การบริการของ Malaysia Airlines ในชั้นธุรกิจว่าน่ากลัวอย่างที่เค้าเล่าลือหรือเปล่า ตามไปรับชมรีวิวกันเลยครับ
Flight Detail :
MH 789 : BKK 14:15 –KUL 17:25 เครื่องบินรุ่น Boeing 737-800
MH 360 : KUL 18:25 – PEK 00:20 เครื่องบินรุ่น Airbus A330-300
เราเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก่อนเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ด้วยความคาดหวังว่าจะได้ใช้บริการเลาจน์ของสายการบินตามสิทธิประโยชน์ของการโดยสารแบบชั้นธุรกิจ Business Class
ไฟล์ทบินเราจะมีบินไป Kuala Lumpur เพื่อเปลี่ยนเครื่องก่อน 1 ครั้ง ก่อนจะเดินทางจาก KLIA ไปยังท่าอากาศยานกรุงปักกิ่ง
ตามเวลาไฟล์ทแรกจากกรุงเทพออกเดินทางประมาณ 14.15 น. ซึ่งเราคาดหวังว่าจะสามารถเช็คอินกระเป๋าได้ก่อนอย่างน้อย 3 ชม.ก่อนการบิน แต่เคาน์เตอร์เปิดช้ามาก กว่าจะเปิดเหลือเวลาเพียง 2 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งทำให้เรามีเวลาน้อยลงที่จะช้อปปิ้ง Duty Free และใช้บริการต่างๆ เช่น Lounge น้อยลงไปด้วย ซึ่งถ้าเทียบกับการบินไทยที่สามารถเช็คอินได้ล่วงหน้าก่อนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ถือว่าน่าผิดหวังสำหรับสายการบินจากมาเลยเซียมาก
เมื่อเช็คอินเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่จะออก Boarding Pass รวมทั้ง Ticket สำหรับผ่าน Premium Lane หรือ ด่านต.ม. แบบด่วนพิเศษครับ
สำหรับชั้นธุรกิจของ Malaysia Airlines สามารถใช้บริการ CIP Lounge ได้ครับ โดยเป็นเลาจน์ 24 ชั่วโมง บริการอาหาร เครื่องดื่ม ห้องอาบน้ำ ห้องทำงาน Internet รวมทั้งมี Smoking Lounge ด้วย
เข้าไปชมที่นั่งรับรองกันเลยดีกว่า ผมว่ากว้างขวางดี คนก็ไม่เยอะเท่า Lounge ของการบินไทย
สำหรับผู้ที่ต้องการทำงาน ก็มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ครับ
มีหนังสือพิมพ์และ Magazine ต่างๆให้อ่านกัน
มาชมอาหารและเครื่องดื่มกันบ้างนะ
เริ่มจากบาร์เครื่องดื่ม มีทั้งน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ยาวไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นานาชนิด
Soft Drink หรือกาแฟก็บริการตัวเองเลยครับ
อาหารจะมีพวกผัดไท ข้าวผัด และขนมปังต่างๆ
มีเครื่องทำแพนเค้กด้วย
ขนมมีไม่เยอะเท่าไหร่
โดยรวมแล้ว หากให้เทียบกับ Lounge ของ King Power ที่ผมมีบัตรเครดิตของเค้าอยู่ ไปตรงนั้นฟินกว่าเยอะครับ มีอาหารปรุงสดๆร้อนๆให้ทานดีกว่าเยอะ แต่ CIP Lounge ก็จะได้เรื่องสะดวกใกล้กับ Gate มากกว่า
เอาละ.. ได้เวลาบินกันแล้ว ตุ๊บแรกบินจากกรุงเทพไปกัวลาลัมเปอร์ก่อนนะ
เครื่องบินเป็นรุ่นเล็ก Boeing 737-800 (738) ครับ
เนื่องจากเป็นเครื่องรุ่นเก่า ทำให้เก้าอี้ต่างๆค่อนข้างเก่าตามไปด้วย ที่นั่งของชั้นธุรกิจ Business Class จะได้เรื่องกว้างเท่านั้น ปรับนอนได้เล็กน้อยครับ
ความบันเทิงทั่วไปก็มี Personal TV ครับ
ข้างๆที่นั่งจะมีรูปปลั๊กสำหรับชาร์ตเครื่องใช้ไฟฟ้า และเชื่อมต่อ USB รวมทั้งหูฟัง
อาหารมาแล้ว จานนี้ของผมเอง ข้าวกับเนื้อผัดครับ รสชาติไม่เลว
ส่วนของคุณนายแอน เธอสั่ง Prawn Brochette with Tomato Linguine รสชาติใช้ได้
บินไปราวๆ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึง KLIA ที่จริงเราสามารถใช้สิทธิ์ในการเข้าเลาจน์หลักของมาเลเซีย แอร์ไลน์ได้ ซึ่งน่าจะเป็นเลาจน์ที่ดีที่สุดของสายการบิน แต่ด้วยเวลา Transit มีเพียง 1 ชั่วโมง แค่เดินไปให้ทันเครื่องบินออกก็ยังเหนื่อยเลย ดังนั้นเรื่องเข้า Lounge จึงพลาดไปอย่างน่าเสียดาย
สำหรับขาไปปักกิ่ง Beijing บินด้วยเครื่อง Airbus 330-300 เก้าอี้ชั้นธุรกิจ Business Class สวยงาม กว้าง นั่งสบายมากๆ
แม้จะปรับนอนไม่ได้ 180 องศา เหมือนเครื่องรุ่นใหม่ๆอย่าง Boeing 787 Dreamliner แต่เราก็ให้ความสบายได้ระดับที่ดีเลยทีเดียว
พนักงานต้อนรับผู้โดยสารด้วยเครื่องดื่มเย็นๆก่อนเลย
ไม่นานพนักงานต้อนรับก็เดินมาสอบถามว่าจะรับหนังสือพิมพ์อ่านมั้ย ต้องชมเลยว่าพนักงานต้อนรับเที่ยวบินนี้บริการประทับใจครับ ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยเล่น อัธยาศัยดีมาก
ปุ่มปรับเบาะมี 5 ระดับ ทั้งเวลาทานอาหาร, ตั้งตรงสุด, นั่งเอนเล็กน้อย, เวลา Take off หรือ Landing, และเวลานอน
แต่หากใครรู้สึกยังไม่สบายพอก็สามารถปรับละเอียดด้วยตัวเองได้ครับ
ไฟอ่านหนังสือที่หัวเบาะ
รีโมทสำหรับควบคุม Personal TV หนังค่อนข้างใหม่ มีข้อมูลการบินให้ดู
มีเกมส์เยอะมาก ตั้งแต่เกมส์ Action หรือ เกมส์ใช้ความคิดฆ่าเวลาเพลินๆ
เกมส์นี้เกมส์โปรดคุณนายแอน ภรรยาผมเลยครับ Sodoku
ปลั๊กไฟและรูเชื่อมต่อ USB
เมนูอาหารครับ
ไวน์และแชมเปญ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ห้องน้ำมีครีม โลชั่นต่างๆ และดึกๆมีแปรงสีฟันให้ด้วยครับ
ดูหนังเคี้ยว Snack เสียหน่อย
สักพักกองทัพไก่สะเต๊ะ กับแกะสะเต๊ะก็มาเสิร์ฟ
อร่อยอ่ะ บอกเลย
ไม่นาน Appetizer ก็ยกมาอีกจาน คือ บอกตรงๆว่าเริ่มอิ่มตั้งแต่ Main Dish ยังไม่มาเลย
จานนี้ของผมครับ ก๋วยเตี๋ยวกับไก่ผัดซอส
ส่วนของภรรยาเป็น ปลาทอดซอสรสจัด ทานคู่กับข้าวสวย
อาหารพื้นเมืองมาเลย์อย่าง Nasi lemak จะมีเสิร์ฟเที่ยวขากลับจาก Beijing นะครับ
Dessert เป็น Tiramisu ครับ
นั่งชมวิวนอกหน้าต่าง เมฆสวยอย่างกับศิลปะจากสรวงสวรรค์เลยครับ
นอนหลับสบายจริงๆ พนักงานต้อนรับมาเสิร์ฟมื้อเช้าเป็น แซนวิสแซลมอนรมควัน พร้อมผลไม้ครับ
มาถึงขากลับจาก Beijing บ้าง Malaysia Airlines ไม่มีเลาจน์ของตัวเองที่ Beijing International Airport ครับ จึงต้องมาใช้บริการเลาจน์ของสายการบินพันธมิตรAir China Business Class Lounge
มี Locker ให้ใส่กระเป๋าและของใช้ มีห้องอาบน้ำ ห้องค่อนข้างเก่า อุปกรณ์บางอย่างชำรุดครับ แต่ก็มีเครื่องใช้ต่างๆครบดี
Internet เป็น Self Service ให้นำ Passport ไป Scan ที่เครื่องเพื่อรับ Username และ Password
มีบาร์เครื่องอื่มและอาหารว่าง
ส่วนอาหารจานหลักสั่งได้ครับ แต่ไม่อร่อยเลยขอบอก
มีขนมจีบ ซาลาเปาด้วย แต่ก็รสชาติแย่มากครับ (ยังสู้ขนมจีบรถเข็นริมถนนเมืองไทยไม่ได้)
เราโดยสารกลับด้วยเที่ยวบิน MH 361 ไป KUL และต่อด้วย MH 784 กลับกรุงเทพ ขากลับถึงกรุงเทพ กระเป๋ามาช้าไป 3 ชั่วโมง เนื่องจากติดค้างที่ KLIA (เนื่องจากมีเวลา Transit เพียง 1 ชั่วโมง กระเป๋าคัดแยกไม่ทัน) ทางสายการบินจึงส่งกระเป๋าตามไปที่บ้านตอนเย็น รวมได้รับกระเป๋าล่าช้าไป 8 ชั่วโมง แต่ยังดีที่สายการบินรับผิดชอบค่าจัดส่งทั้งหมด และเป็นขาเดินทางกลับ ถ้าเป็นขาไปคงจะแย่เลย
บทสรุป Malaysia Airline’s Business Class มาเลเซีย แอร์ไลน์ ชั้นธุรกิจ
- เคาน์เตอร์ Check-in เปิดช้า ทำให้มีเวลาช้อปปิ้ง หรือใช้เลาจน์น้อย
- การบริการของแอร์โฮสเตสและพนักงานต้อนรับทุกคนยอดเยี่ยมครับ
- อาหารรสชาติดี จัดจานสวยงามในระดับหนึ่ง ประทับใจอาหารและเครื่องดื่มของ Malaysia Airlines มากครับ
- CIP Lounge ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอาหารไม่เท่าไหร่ครับ ใครเข้าเลาจน์ของ King Power ได้ เข้าที่นั่นดีกว่าครับ
- Air China Lounge ที่ปักกิ่ง อาหารถึงขั้นเลวร้ายครับ ไม่มีความอร่อยเลย
- ไม่มีการแจก Comfort Kit ให้กับผู้โดยสาร โดยทางพนักงานต้อนรับแจ้งว่า ต้องเป็นเที่ยวบินที่นานกว่า 6 ชั่วโมงเท่านั้น ทั้งๆที่เที่ยวบินนี้ใช้เวลาบิน 5 ชั่วโมง 55 นาที เอ่อ… ขาดไป 5 นาที ไม่เข้าเกณฑ์นะครับ น่าผิดหวัง
โดยรวมการบินด้วยมาเลเซียแอร์ไลน์ มีความปลอดภัยสูงมาก ไม่มีอะไรต้องกลัวครับ ส่วนตัวมีความเห็นว่าเค้าผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาติดๆกัน ดังนั้นเค้าต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยให้มากกว่าสายการบินอื่น เพราะจะพลาดอีกไม่ได้แล้ว
สายการบินนี้มีไฟล์ทบินทุกวันทั่วโลก ถ้ามันจะตก คงตกไปแล้ว เหตุการณ์ในอดีตเป็นอุบัติเหตุครับ อย่าไปยึดติดมากนักเลย
ปล.หากคุณอ่านรีวิวมาถึงตรงนี้ ผมได้ใช้เวลาและพลังงานมากมายในการเขียนรีวิวเพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์แก่ทุกคน หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป