ผมยังจำภาพสมัยยังเรียนมัธยมต้นได้อย่างดี กระดานดำ, กระดาษ, ปากกา เวลาคุณครูมอบหมายให้ทำรายงาน ต้องเดินเข้าห้องสมุดเพื่อเอากระดาษฟูลสแกปไปลอกออกมา อินเทอร์เนตเป็นเรื่องไกลตัวมากครับ ยิ่งคอมพิวเตอร์นอกจาก Microsoft Word แล้ว อย่างอื่นแทบไม่เป็นประโยชน์เรื่องการศึกษามากนัก นับได้ว่าสื่อการเรียนรู้สมัยนั้นแทบจะมีเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไปมีส่วนร่วมน้อยมาก เวลาส่วนใหญ่แทบหมดไปกับการท่องจำที่บางครั้งผมไม่สามารถเข้าใจ ไม่สามารถเห็นภาพสิ่งที่ผมเรียนได้ด้วยซ้ำ
หลายสิบปีผ่านไป ผมได้รับเชิญให้เข้าไปนั่งเรียนกับเด็กนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี เพื่อร่วมสังเกตการณ์โครงการนำร่อง Smart Classroom Pilot Project โดยบริษัท Microsoft โครงการนี้ดีอย่างไร เทคโนโลยีจะเข้ามามีส่วนช่วยกับการศึกษาได้มากน้อยแค่ไหน โรงเรียนยุคใหม่ในอนาคตจะเป็นอย่างไร ไปรับชมรีวิวนี้กันครับ
บ่ายวันธรรมดา ผมเดินทางมาถึงโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ที่จริงโครงการนำร่อง Smart Classroom Pilot Project โดยบริษัท Microsoft ได้ทดลองขึ้น 2 โรงเรียนนะครับ นอกจากที่สวนกุหลาบ นนทบุรีแล้ว ยังมีที่โรงเรียนวรราชาทินัดดามาตุวิทยา จ.ปทุมธานีด้วยครับ
โครงการนี้นำร่องใช้ในการศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้น ม.1 โดยมีระยะเวลา 1 เทอม เริ่มตั้งแต่ มี.ค. – ก.ย. 57
วันนี้ที่ผมเข้าเยี่ยมชมน้องๆ กำลังเรียนวิชาวิทยาศาสตร์กันครับ คุณครูก็เริ่มต้นการทบทวนบทเรียนต่างๆ ด้วยคำถามที่มอบหมายให้น้องๆ ไปค้นคว้าหาข้อมูลมาด้วยตัวเอง
องค์ประกอบหลักๆ ของ Smart Classroom จะมี 4 อย่าง ได้แก่
1) ความพร้อมของครู: หลักสูตร Teaching with Technology จะเสริมให้คุณครูมีความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีต่างๆ อย่างลึกซึ้ง และจะต้องผสมผสานนำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนให้เด็กนักเรียนเกิดความเข้าใจองค์ความรู้ต่างๆ ได้
2) Digital Content: เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นภาษาไทย ตรงตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ เนื้อหาในแต่ละวิชาจะมีลักษณะ Interactive ที่มาพร้อมกับลูกเล่นที่น่าสนใจ เปลี่ยนเนื้อหาในหนังสือเป็นภาพที่เข้าใจได้ง่ายๆ ทั้งยังมาพร้อมกับความสนุก เพื่อกระตุ้นให้น้องๆ เกิดความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้มากขึ้น บางครั้งรู้สึกได้เหมือนกับกำลังเล่นเกมส์อยู่ ในขณะเดียวกันก็ได้รับความรู้ต่างๆ ไปพร้อมกัน โดยที่ไม่รู้สึกว่ากำลังเรียนอยู่เลยด้วยซ้ำ
3) Software และการบริการ : ด้วยเทคโนโลยี Microsoft Office 365 น้องๆ กับคุณครูสามารถเข้าถึงการใช้โปรแกรม Office ผ่าน Cloud โดยสามารถใช้งานออนไลน์ได้ แม้เครื่องไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเลยด้วยซ้ำ ใช้ อินเทอร์เน็ต เข้ามาช่วยในการค้นคว้าเรียนรู้ และติดต่อประสานงาน ส่งรายงานด้วยอีเมล์ สามารถสื่อสารกับคุณครูผ่านระบบสนทนาแบบ Real time ทั้งข้อความและวีดีโอ สำหรับคุณครูจะมีซอฟต์แวร์ Classroom Management เพื่อให้สามารถดูแลการเรียนการสอนให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ หรือสามารถควบคุม Tablet ของนักเรียนได้ด้วย
4) อุปกรณ์ : Windows Tablet จาก Asus Transformer Book T100 หน้าจอ Touch Screen ใช้ปากกาบนหน้าจอได้
วันนี้พาคุณนายแอนย้อนกลับมาเป็น ด.ญ.แอน รู้สึกเหมือน 14 อีกครั้งเลยครับ อิอิ
สมัยผมเรียน อาจารย์จะเขียนกระดานดำ หรือไม่ก็ปิ้งแผ่นใสครับ แล้วก็เปิดหนังสือตำราเรียน
แต่เดี๋ยวนี้อุปกรณ์เปลี่ยนไปมากมาย น้องๆ มี Computer พร้อมการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ต แทน
คุณครูเริ่มให้มอบหมายงานให้น้องๆ ศึกษาเรื่องสารและคุณสมบัติของสาร โดยไม่ได้สอนออกจากปากคุณครูเลยแม้แต่น้อย
ผมนั่งสังเกตวิธีการเรียนรู้ของน้องๆ โดยตั้งคำถามกับตัวเองว่าเมื่อรูปแบบการเรียนเปลี่ยนไป จากที่ความรู้ต่างๆ ต้องออกมาจากผู้สอน เปลี่ยนเป็นผู้เรียนต้องค้นคว้าหาข้อมูลเอง แล้วน้องๆ จะเป็นอย่างไร
ต้องยอมรับว่าน้องๆ ในยุคนี้คุ้นเคยกับการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเป็นอย่างดี แต่ละคนพอได้ยินคุณครูมอบหมายงานให้ศึกษาด้วยตัวเอง ก็เริ่มเข้าเว็บค้นหาข้อมูลทันที
แต่ละคนก็เข้าเว็บต่างๆ กันไป อย่างเช่น Wikipedia ซึ่งผมชอบมากเพราะมันทำให้เราสามารถเรียนรู้ได้จากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบข้อความหรือดู Video ผ่านเว็บ Video-Sharing ต่างๆ ก็ได้
ในความเห็นผม ผมเชื่อว่าหากน้องสามารถค้นคว้าหาข้อมูลได้ด้วยตัวเอง อีกหน่อยความรู้เรื่องอะไรก็ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว เพราะเรามีทักษะในการค้นคว้าก็สามารถเรียนได้ด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ซึ่งตรงนี้แหละที่สามารถนำไปต่อยอดเรื่องต่างๆ ได้ในอนาคต
หาข้อมูลเสร็จแล้ว น้องๆ ก็เตรียมทำ Presentation ผ่าน PowerPoint กันเลย
และด้วยแหล่งที่มาที่ต่างกัน เวลาที่ทุกคนต้อง Present ก็จะได้มองมุมที่หลากหลาย ได้รับข้อมูลจากทั้งตนเองและจากเพื่อนๆ และสามารถร่วมอภิปรายกันอย่างกว้างขวางทำให้การเรียนรู้เกิดมิติต่างๆ ที่รอบด้าน
คุณครูให้ทุกคนส่งรายงานผ่านอีเมล์ ไม่ต้องเปลืองทรัพยากรกระดาษอีกแล้ว ไม่ต้องแบกไปแบกมาให้เสียเวลาเสียพลังงานด้วย
หลังจาก 1 คาบเรียนผ่านไป ผมรู้สึกอิจฉาน้องๆ ไม่น้อย เพราะการเรียนรู้ในแบบที่พวกเค้ากำลังเรียนอยู่ช่างแตกต่างจากในยุคของผมเสียจริง
มีข้อมูลจากทาง SafeGov.org องค์กรระหว่างประเทศที่ไม่แสวงหาผลกำไร ได้ศึกษาว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่ถึง 87% กำลังกังวลว่าข้อมูลส่วนตัวของเยาวชนจะถูกนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการค้า (อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ ที่นี่)
ซึ่งทางไมโครซอฟท์เองยืนยันถึงจุดยืนในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ครับ
สำหรับตอนต่อไปผมจะมาเล่าเรื่อง Applications ต่างๆ ของน้องๆ สมัยนี้ เมื่อการเรียนรู้มาพร้อมความสนุก และเนื้อหาถูกออกแบบพัฒนาให้เข้าใจง่ายขึ้น ผ่านภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัย บอกได้เลยว่ามันน่าสนใจมากเลยครับ
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป