ความเดิมตอนที่แล้ว —> : 2 Madames in Paris ปารีส : บันทึกแห่งความสุข 2nd Honeymoon วันเวลาที่เปลี่ยนไป แต่หัวใจหยุดไว้ที่เธอ http://www.2madames.com/paris-france/
ตอนนี้เป็นการเดินทางต่อจากตอนที่แล้วนะครับ
โดยหลังจากท่องเที่ยวอยู่ในปารีสซะจนอิ่มแล้ว พวกเราเดินทางออกนอกเมืองเพื่อไปท่องเที่ยวที่ Mont Saint Michel มองแซงมิเชล สถานที่ท่องเที่ยวที่ฮิตเป็นอันดับต้นๆของประเทศฝรั่งเศสครับ
ปล.ฝากกด Like ติดตามเราที่ https://www.facebook.com/2Madames หรือฝากอีเมล์ไว้ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อติดตามรีวิวที่พัก ที่กิน ที่เที่ยวแนวครอบครัว และข่าวสารการท่องเที่ยวกันด้วยนะครับ
การเดินทางจาก Paris ไปยัง Mont Saint Michel มีหลายวิธีครับ ทั้งซื้อทัวร์ Day Trip จากในเมือง นั่งรถโค้ชไปเช้าเย็นกลับ แต่จะเหนื่อยหน่อยนะครับ เพราะมองแซงมิเชลห่างจากปารีสเป็นเวลาหลายชั่วโมง เลยมีเวลาได้เที่ยวน้อยด้วย อารมณ์เหมือนนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพไปพิษณุโลกแล้วเที่ยว 2 ชม. แล้วกลับมากรุงเทพน่ะครับ
อีกวิธีคือการนั่งรถไฟ TGV ไปต่อรถโค้ช โดยสามารถวิ่งไปได้สองทางคือ เปลี่ยนรถโค้ชที่เมือง Rennes หรือ Dol สำหรับตารางการเดินทางดูได้จากลิงก์นี้
http://www.destination-montsaintmichel.com/en/mont-saint-michel-timetable-from-15th-december-2013-to-5th-july-2014-p0-C58.html
จะมีตารางเวลาบอกหมดเลยว่ารถไฟออกจากปารีสกี่โมง ถึงเมืองไหนกี่โมง และรถโค้ชที่ต้องเปลี่ยนออกกี่โมง
ส่วนพวกเราเลือกเดินทางโดยรถไฟ TGV จากสถานี Montparnasse ไปยัง Rennes นะครับ แนะนำให้จองตั๋วรถไฟล่วงหน้าก่อน ไม่งั้นราคามาซื้อด้านหน้าจะแพงกว่าจองล่วงหน้ามากครับ
เว็บจองรถไฟ –> http://www.voyages-sncf.com/
หน้าตาของรถไฟความเร็วสูง TGV ของฝรั่งเศสเค้าครับ
บนรถไฟแม้จะวิ่งด้วยความเร็วสูงแต่ว่าวิ่งได้นิ่มมากครับ ไม่สั่นสะเทือนเลย
แถมที่นั่งมีโต๊ะวางของวางแก้ว และที่ปลื้มมากคือมีปลั๊กไฟให้ชาร์ตแบตมือถือ หรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คด้วย เยี่ยมจริงๆ
แม่ลูกยังคงคึกคักเช่นเคย
อีกอย่างที่อยากจะมาบอกเล่าคือห้องน้ำสำหรับเด็กอ่อนครับ ซึ่งอยากให้เมืองไทยให้ความสำคัญเหมือนกับฝรั่งเค้าบ้าง
ภายในห้องน้ำเด็ก มีอ่างล้างต่างๆ
แถมมีเบาะเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ด้วย ปลื้มๆๆ
พอเดินทางมาถึง Rennes ก็เดินมายังสถานีรถโค้ชที่อยู่ติดกันได้เลย
แม้จะต้องนั่งรถเดินทางต่อหลายชั่วโมงแต่อาตี๋กายก็ยังสู้อยู่นะ
คุณนายแอนแอ็บแบ๋วนะ
ต่อรถโค้ชจาก Rennes ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงสถานีรถที่มองแซงแล้ว แต่ยังไม่ถึงตัวมองแซงนะครับ ต้องนั่งรถต่อเข้าไปอีกประมาณ 15 นาทีครับ
แว็บแรกที่เห็น Mont Saint Michel บอกเลยว่าแม้จะเหนื่อยเดินทางมาไกลแถมต้องเปลี่ยนรถมาหลายขบวนมากๆ แต่มันสวยคุ้มค่าสุดๆเลยครับ
เดินเข้ามาในเมือง ความรู้สึกแรกเลย คือเป็นเมืองที่น่ารักมาก น่ารักสุดๆ มีร้านรวงขายของตลอดถนนเส้นหลัก
ของขายส่วนใหญ่จะออกแนวนักรบยุคกลางนะครับ
สองแม่ลูกเดินเที่ยวอย่างมีความสุข
แวะโบสถ์เล็กๆริมทาง
อาตี๋กายชอบอัศวินครับ
ไฮไลท์ของที่นี่อีกอย่างคือการขึ้นไปเยี่ยมชมตัววิหารมองแซงมิเชล
ก็บรรยากาศมันดีอ่ะ ลูกทัวร์ผมก็เลยอารมณ์ดีไปด้วย
ที่จริงรอบๆมองแซงมิเชลจะล้อมรอบด้วยน้ำทะเลนะครับ เวลาน้ำขึ้นจะเต็มไปด้วยน้ำทะเล แต่เวลาน้ำลดก็จะกลายเป็นหาดทรายแบบนี้เลย
ตารางเวลาน้ำขึ้นน้ำลง — > http://www.ot-montsaintmichel.com/en/horaire-marees/mont-saint-michel.htm
เข้าไปชมด้านในกันเลยนะครับ
มง-แซ็ง-มีแชล (ฝรั่งเศส: Le Mont-Saint-Michel) คือวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดม็องช์ แคว้นบัส-นอร์ม็องดีของประเทศฝรั่งเศส ได้รับประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522 ภายใต้ชื่อ มง-แซ็ง-มีแชลและอ่าว
ในปีหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมง-แซ็ง-มีแชลกว่า 3 ล้าน 2 แสนคน ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยงยอดนิยมอันดับที่ 3 ของประเทศฝรั่งเศสรองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซาย
ตัวเกาะอันเป็นที่ตั้งของวิหารนั้นเป็นหินแกรนิต โดยมีเส้นรอบวงเกาะประมาณ 960 เมตร และสูง 92 เมตร แล้วถ้าบวกกับความสูงของตัววิหารนั้นแล้วก็จะมีความสูงถึง 155 แมตร ถือเป็นปราการธรรมชาติตั้งแต่สมัยยุคกลาง โดยตั้งชื่อตามวิหารที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขานั่นเอง บนยอดวิหารเป็นรูปปั้นทองของอัครทูตสวรรค์มีคาเอล (นักบุญมิคาเอล) สร้างโดยเอมานูแอล เฟรมีเย (Emmanuel Frémiet)
ในปัจจุบัน มีประชากรอยู่อาศัยบนเกาะ 44 คน จากสถิติ ณ ปี ค.ศ.2009
วิวตรงลานปราสาทด้านบนนี่สวยและชิลด์สุดๆ
ด้านในก็มีประวัติของมองแซงมิเชล Mont Saint Michel แสดงให้ชมกันตลอดทาง
ตรงกลางวิหารครับ
ออกมาอีกด้านจะพบกับอีกส่วนที่สวยมากๆคือ The Wonder of the West
จ๊ะเอ๋… แบร่….
รอกกับเชือกไว้เปิดปิดประตูปราสาท
the abbey เสาแบบนี้มาเรียงกันเยอะๆก็สวยมากเลยทีเดียว
อัศวินยุค 2013 เท่ม่ะ อิอิ
เดินออกมาข้างนอก หาอะไรเก็บภาพไปเรื่อยๆนะครับ
ลูกเรายิ้มขนาดนี้ พ่อแม่อย่างเราก็อดยิ้มตามไม่ได้ครับ
บรรยากาศยามเย็น มานั่งชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าตรงนี้ก็ไม่เลวนะครับ
ทางลงมีหลายทางมาก ผมก็เดินไปเรื่อยเปื่อยนะครับ
ผู้หญิงคนนี้เคียงข้างผมมาหลายปีละ การพาภรรยาเที่ยวนี่แหละความสุขอย่างหนึ่งของสามีอย่างผม
สำหรับคนที่ซื้อทัวร์ 1 Day Trip มาผมว่าน่าเสียดายเพราะอาจจะใช้เวลาเดินเล่นที่นี่ไม่มากพอ
จากประสบการณ์ที่มาเที่ยวที่นี่ แนะนำได้เลยว่าให้จัดเวลามาค้างที่นี่สักคนนะครับ
คืนนี้เราพักกันที่ Le Mouton Blanc โรงแรมน่ารักๆที่ราคาไม่แพงนัก
ห้องเราอยู่ชั้นบนสุด มีเตียงใหญ่ 1 เตียงและเตียงเล็กอีก 1 เตียง
ห้องน้ำมีอ่างด้วยนะ
หลังจากตรวจสอบดูเวลาน้ำขึ้นแล้ว
ผมเดินออกมายืนรอแสงทไวไลท์และจังหวะที่น้ำขึ้น เพื่อเก็บภาพนี้ครับ มันสวยเกินจะบรรยายจริงๆ
มื้อเย็นเราก็ทานอาหารที่ด้านล่างของโรงแรมนี่แหละครับ คนฝรั่งเศสธรรมเนียมเยอะมาก ร้านอาหารจะเปิดตอน 1 ทุ่มเท่านั้น มาก่อนก็ไม่ขายนะครับ
อีกธรรมเนียมในการรับประทานอาหารก็คือ เค้าจะเสิร์ฟอาหารเป็น Course ซึ่งจะประกอบด้วย Appetizer, Main Dish และ Dessert
จะสั่งมาแชร์กันกินก็ไม่ได้ แถมต้องกินให้หมดเป็นอย่างๆด้วย ถึงจะเสิร์ฟต่อ กว่าจะกินสลัด Appetizer หมด ก็เกือบอิ่มละ Main Dish กว่าจะมาได้
จานหลักเป็นเบอร์เกอร์เนื้อ
ของหวานล้างปากเสียหน่อย
เช้าอีกวัน ออกมาเดินเล่นอีกจุดแวะของ Shutter Bus
Love you all from my heart นะ
ขึ้นรถกลับ Rennes ละนะ แล้วฉันจะคิดถึงเธอเสมอนะ Mont Saint Michel
แวะเที่ยว Rennes กันต่อ เมืองเค้าเป็นเมืองเล็กๆครับ เดินเที่ยวได้เลย
หน้าสถานีรถไฟ
Place de la République
มีห้าง Galeries Lafayette ด้วย
Rennes City Hall
เดินเล่นชิลด์ๆ มีตลาดนัดกลางเมือง
แหม ถนนนี้มีภาษาไทยด้วยแฮะ
ร้านขนมแถวนี้อร่อยมากครับ ไม่แพงด้วย
อร่อยมากเลยอ่ะ ชอบสุดๆ
เดินเล่นกันต่อ เห็นที่ปลายถนนปะครับ นั่นแหละจุดหมายของเราเลย
บ้านตั้งแต่สมัยยุคเรเนซองส์ ที่ La place Sainte-Anne หรือ Champ-Jacquet
statue of Leperdit
ที่มีจักรยานจอดให้เช่ากันด้วยครับ
จบทริปฝรั่งเศสโดยสมบูรณ์ เที่ยวสนุกสนานมากๆ ทั้ง Paris, Mont Saint Michel, Rennes เลย
ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพกันแล้ว
พวกเราทำการ Online Check-in มาก่อนเลย พอมาถึงสนามบินก็แค่ Drop กระเป๋าเท่านั้น
**ที่นี่เค้ามีกฎจำกัดน้ำหนักกระเป๋าไม่เกินใบละ 23 kg นะครับ ใครที่มีกระเป๋าใบใหญ่ๆต้องชั่งให้แน่ใจว่าไม่เกินนะครับ
สายการบิน Air France บินตรงจากปารีสสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องให้ยุ่งยาก จึงรวดเร็วและสะดวกสบายมากๆ
Personal TV ทีวีส่วนตัวที่ดูหนังตามที่ชอบ จะหยุดไปห้องน้ำแล้วกลับมาดูต่อก็ได้ มีเพลงให้ฟัง มีเกมส์ให้เล่น รวมทั้งข้อมูลการเดินทางต่างๆก็สามารถเรียกมาดูได้ด้วย แหม… ตัวช่วยแบบนี้ทำให้เวลาในการเดินทางไม่น่าเบื่อจนเกินไป
อาหารยกมาเสิร์ฟแล้ว ที่ปลื้มมากๆคือไวน์ให้ขวดเล็กมาด้วย ดื่มแล้วหลับนิ่มเลยจริงๆ
Kid Menu สำหรับอาตี๋น้อย มีน้ำผลไม้ที่เด็กๆชอบด้วย
จบทริป 2nd Honeymoon สมบูรณ์ ถือเป็นอีกทริปที่ประทับใจมาก และจะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป
บนทางเดินที่ยาวไกล แค่มีใครสักคนที่พร้อมอยู่เคียงข้างเราเสมอ
จะร้อนจะหนาว จะสุขจะทุกข์ ฉันไม่กลัวอะไร ตราบที่มีเธออยู่เคียงข้าง
ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันเสมอมา และสัญญาว่าตลอดไป
ขอบคุณสายการบิน Airfrance ที่สนับสนุนการเดินทางครั้งนี้
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้รีวิว หวังว่าคงจะได้รับข้อมูลการเดินทาง และความสุขกลับไปไม่มากก็น้อย
ปล.หากคุณอ่านรีวิวมาถึงตรงนี้ ผมได้ใช้เวลาและพลังงานมากมายในการเขียนรีวิวเพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์แก่ผู้เดินทาง หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป