รีวิววันนี้เราจะพาทุกท่านไปที่พักริมแม่น้ำแควสุดชิลด์ที่กาญจนบุรี แล้วไปต่อที่เที่ยวใหม่ยอดฮิตอย่างเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ ที่จำลองเมืองโบราณในสมัย ร.5 มาให้เราได้เดินเล่นสัมผัสบรรยากาศเมื่อวันวานอีกครั้ง เปลี่ยนชุดไทยแล้วตามมาเที่ยวกันเลยนะขอรับ
มารับชมบรรยากาศในรูปแบบคลิปกันก่อนนะ
ความเดิมตอนที่แล้ว
เที่ยวกาญจนบุรี ยีราฟบุกรถที่ซาฟารีปาร์ค หม่ำร้านสวยศีรีมันตรา
ตกเย็นเราเข้าที่พักที่โรงแรม Princess River Kwai เดิมทีหาที่พักเล่นๆจาก Booking.com เจอที่พักคะแนนรีวิว 9.6 สูงสุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย จัดไปห้องละ 1,500 บาทเอง
โรงแรม Princess River Kwai เพิ่งเปิดเมื่อเดือน พ.ย. 59 ใหม่เอี่ยมอ่องมากๆ
โรงแรมนี้ตกแต่งโดยเอาความเป็นจีนใส่ลงไปเยอะมาก สวนในโรงแรมจะเต็มไปด้วยโคมแบบจีน
เดินมาถึงริมแม่น้ำแคว โอ้โห มีสระว่ายน้ำริมแม่น้ำด้วย แต่ไม่ได้เล่นน้ำนะ อากาศหนาวอ่ะ
มาดูห้องละ 1,500 บาทของพวกเรากันบ้างนะ ห้องกว้างขวางเพดานสูงดี ไม่อึดอัดเลย ทุกอย่างใหม่และสะอาดมาก
ห้องน้ำประมาณนี้ เสียตรงที่เปิดน้ำอาบน้ำสูงมาก สูงจนเด็กๆเอื้อมเปิดไม่ถึงเลย
วิวจากห้องพักสวยงามมากมาย อากาศก็กำลังเย็นสบาย ชอบมากๆตอนนี้ไม่ยอมลุกจากระเบียงกันเลย
ตอนค่ำด้วยความที่เหนื่อยจากการเดินทางตลอดทั้งวัน ทำให้ทุกคนรู้สึกขี้เกียจที่จะออกไปทานร้านอาหารด้านนอก
เด็กๆจึงเสนอว่าให้ซื้อโจ๊กคัพมาทานกันในที่พักนี่แหละ ผมกับภรรยาก็เห็นดีเห็นงามด้วย เพราะอากาศเย็นๆแบบนี้ได้อะไรร้อนๆก็น่าจะดี
อากาศคืนนั้นที่กาญจนบุรีน่าจะราวๆ 18 องศานะ อากาศเย็นๆแบบนี้ นั่งทานโจ๊กร้อนๆคนละถ้วย ฟินอย่าบอกใครเลยหละ
นอนหลับแป๊บเดียวถึงเช้า วันนี้พวกเราตื่นเช้ากันเป็นพิเศษ เพราะมีโปรแกรมเที่ยวเมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ ตั้งใจว่าจะรีบไปตั้งแต่เค้าเปิดกันเลย เลยรีบทานอาหารเช้าที่โรงแรมและเช็คเอาท์กัน
อาหารเช้าที่โรงแรมนี้ก็ครบถ้วนสมราคาห้องพัก มีทั้งอาหารไทยกับข้าวสวย ข้าวต้มกับกับข้าว และอาหารฝรั่งพวกไส้กรอก แฮม ไข่ต่างๆ
อิ่มอาหารเช้ากันแล้ว ก็ได้เวลามาเที่ยวเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ กันแล้ว มาถึงเห็นเค้าต่อคิวกัน ตอนแรกไม่รู้ว่าอะไร แต่มารู้อีกที เค้าต่อคิวแลกเงินกัน
เพราะที่เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ เค้าจะใช้เงินโบราณ “สตางค์รู” กัน
แผนที่เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔
เวลาขายบัตร : 9.00 – 17.30 น.
เวลาเปิด-ปิด : 9.00 – 19.00 น.
เวลาอาหารเย็นและการแสดง : 18.00 – 20.00 น.
ค่าเข้า 1 วัน
ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็กและผู้สูงอายุ 120 บาท
ค่าเข้า + อาหารเย็นและโชว์การแสดง ผู้ใหญ่ 700 บาท เด็กและผู้สูงอายุ 350 บาท
ที่นี่เค้ามีบริการให้เช่าชุดไทยด้วยนะ ราคา 100 – 300 บาท
มาถ่ายภาพกับรถถีบด้านหน้ากัน
รถลาก หรือสมัยก่อนจะเรียกกันว่ารถเจ๊ก เพราะคนที่ลากรถส่วนใหญ่คือคนจีนที่อพยพเข้ามาเพิ่งพระบรมโพธิสมภารของในหลวง ร.5 นั่นเอง
เข้ามาเจอสะพานหัน ชื่อนี้เรียกคามจากลักษณะของตัวสะพานในอดีต เป็นสะพานไม้โค้ง ซึ่งสมัยก่อนคนจีนที่มาค้าขายมักจะใช้เรือในการเดินทาง ตัวสะพานจึงออกแบบมาให้มีหมุดที่สามารถถอดออกให้สะพานหันเปิดให้เรือผ่านไปได้
บนสะพานก็จะมีร้านค้าขายตลอดสองฟากฝั่งเลย
ร้านค้าส่วนใหญ่ก็จำลองบรรยากาศของร้านค้าสมัยโบราณได้ดีมาก
ถัดจากสะพานหันมา จะเจอกับย่านการค้า มีประตูทางเข้าสวยเชียว
ย่านการค้าจะมีขายทั้งอาหารคาว-หวานเยอะแยะไปหมด
อาหารและขนมที่ขายในเมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ นั้น ต้องบอกว่ารสชาติไม่ธรรมดา เค้าใช้สูตรตำรับชาววัง เพราะฉะนั้นการันตีความอร่อยจ้า
ซื้อแล้วก็หามุมนั่งทานกันเพลินๆกัน
แต่ก่อนเค้าเขียนแบบนี้นะ ไปรสะนียาคาร ที่นี่ส่งจดหมายได้จริงๆนะ
ตู้ไปรษณีย์โบราณสวยมาก
คุณนายแอนวันนี้มาชุดไทยสวยมั้ยๆ
ถ่ายภาพกับพี่ตำรวจหน่อย
เรือนแพ ด้านในจะเป็นร้านอาหารนะ มีตลาดน้ำจำลองเล็กๆด้วยนะ
หอคอยที่เห็นอยู่ คือหอชมเมือง จำลองมาจากหอคอยคุกนั่นเอง (แต่เด็กๆบอกว่ามันคือหอคอยราพันเซลนะ 555)
เรือนเดี่ยว คือบ้านเรือนของชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ทำนากัน
สะพานสวยมากอ่ะ
เรือนคหบดี เป็นเรือนของคนที่มีฐานะ
บนเรือนจะแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนชั้นปกครอง มีกิจกรรมบนเรือนต่างๆ เช่น งานใบตอง งานดอกไม้ งานแกะสลักผลไม้ เป็นต้น
เก็บภาพครอบครัวหน่อยนะ
ห้องรับแขกกับเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ
อาม่าเหมือนท่านคุณหญิงมากๆ
มองจากเรือนคหบดีออกไปเห็นสวนสวยๆด้วย
ด้านหลังจะเป็นโรงครัว เราสามารถไปชมกระบวกการสีข้าวแบบโบราณได้ด้วย
เด็กๆได้มีโอกาสตำข้าวกับเค้าด้วย สนุกสนานกันใหญ่เลย
หุงข้าวแบบโบราณใช้กะทะนะ
ในภาพที่เห็นเป็นกะลาที่พื้น เค้าวางกะลาเรียงกันไว้สำหรับนวดฝ่าเท้าครับ
มื้อกลางวัน เรามากินที่ร้านไลบรารี่ คาเฟ่ Library Café กัน
บรรยากาศภายในร้าน Library Café ตกแต่งสวยดีครับ
ชื่อร้านแปลว่าห้องสมุด ก็ต้องมีหนังสือสินะ นี่ไง… เพียบเลย
เค้กละลานตามาก น่าทานๆทั้งนั้น
เที่ยวมาเหนื่อยๆขอสั่งเครื่องดื่มปั่นเย็นๆมาดับกระหายคลายร้อนก่อนละกัน แก้วซ้ายเป็นชาเขียวปั่น ราคา 65 บาท ส่วนแก้วขวาเป็นมะม่วงโยเกิร์ตปั่น แก้วใหญ่มาก ราคา 75 บาท เรียกว่าราคาไม่แพงเลย เพราะแก้วใหญ่ มิน่าคนแน่นร้านเลย
ถึงที่ร้าน Library จะเน้นขายกาแฟและของหวาน แต่เค้าก็มีอาหารคาวบริการนะ ที่สำคัญไม่แพงแถมอร่อยด้วย แต่ช่วงที่พวกเราไปเป็นช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทางร้านเลยมีเมนูให้บริการจำกัด อาจเพราะเพื่อจะได้ให้บริการลูกค้าไว้รวดเร็วทันใจมากขึ้น แต่ถึงมีให้เลือกจำกัด ก็ขอบอกเลยว่าประทับใจทุกเมนู
อย่างจานนี้เป็นเซ็ตข้าวกะเพราปลาสลิดไข่ดาว มีน้ำซุปให้ซดคล่องคอด้วย เซ็ตนี้ราคา 85 บาท คือถูกมากกกก เพราะปลาสลิดเยอะมากจริงๆ
เซ็ตข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ราคา 95 บาท อร่อยและคุ้มค่าจริงๆ หมูหวานให้มาเยอะมากๆ
พอร์คช็อปจิ้มแจ่ว ราคา 180 บาท ราคาแพงสุดแต่คุ้มราคามาก เพราะเนื้อหมูชิ้นใหญ่นุ่มมาก เคียงข้างมาด้วยส้มตำทอด จานนี้เหมือนสั่งสองเมนูเลย น้ำส้มตำก็แยกมาให้
ส่วนของเด็กๆทานปีกไก่กรอบทอดน้ำปลา ราคา 95 บาท สั่งข้าวเปล่าอีกจานเด็กๆก็ฟินได้
ของหวานนอกจากเค้กน่าทานๆในตู้เค้กแล้ว ยังมีพวกโทสต์และบิงซูด้วย
ไม่รอช้าสั่งไลบรารี่โทสต์มาลองซะเลย จานนี้ราคา 120 บาท เป็นขนมปังหั่นเต๋าไปอบให้กรอบแล้วมีดิปให้จิ้มจุ่มตามชอบใจเลย มีทั้งดิปคาราเมล ชาไทย นมข้นหวาน และมะพร้าวอ่อน ขอบอกว่าดีทุกรสทำให้นมข้นหวานด้อยไปเลย 555
น้องเกรซอยากทาน Strawberry Bingsu อ่ะจัดไปลูก
Strawberry Bingsu ราคา 150 บาท เรียกว่าราคาพอเหมาะพอควร มีท็อปปิ้งมาให้เติมระหว่างทานด้วย
มื้อนี้ค่าเสียหาย 950 บาท อิ่มตื้อกันทั้งครอบครัวเลย
และแล้วก็จบทริปเที่ยวการญจนบุรีไปอย่างสมบูรณ์ ครอบครัวไหนสนใจก็แวะมาเที่ยวกันนะ วันนี้ลาไปก่อนละจ้า…
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป