Nagasaki นางาซากิ เมืองท่าอันดับต้นๆของเกาะคิวชู คนไทยรู้จักดีในแง่ของเมืองที่ถูกทิ้งระเบิดปรมาณูในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ที่จริงเมืองนางาซากิ ยังมีที่ท่องเที่ยวมากมาย วันนี้เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวสวนสันติภาพนางาซากิ (Nagasaki Peace Park), ชมหินรูปหัวใจใต้สะพานแว่นตา Megane Bridge ชิมของเด็ดขนม Castella คาสเทลล่า แล้วไปขึ้นภูเขาไปชมวิวสวยๆจากมุมสูงจาก Mount Inasa (Inasayama) ซึ่งการชมวิวมุมสูงจากภูเขาแห่งนี้ถือเป็นวิวที่สวยที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ปิดท้ายด้วยพาเด็กๆไปเล่นกับเจ้าเพนกวินที่ Nagasaki Penguin Aquarium พร้อมแล้ว ตามไปชมรีวิวกันนะครับ
ความเดิมตอนที่แล้ว
ภาพรวมของทริป —> http://www.2madames.com/kyushu-japan-family-trip-travel-by-car/
เที่ยว Fukuoka —> http://www.2madames.com/fukuoka-dining-travel-shopping-with-family/
เที่ยว Saga —> http://www.2madames.com/saga-karatsu-hizenyumekaido-yutoku-inari-kyushu-japan/
Huis Ten Bosch —> http://www.2madames.com/huis-ten-bosch-watermark-hotel/
หลังจาก Check Out จาก Huis Ten Bosch เราขับรถมุ่งหน้าลงใต้ต่อ โดยจุดหมายของเราคือเมืองนางาซากิ Nagasaki
เดิมทีสมัยศตวรรษที่ 16 ซึ่งขณะนั้นเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆเพื่อการประมง ที่ถูกก่อตั้งโดยชาวโปรตุเกส ทำให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์กลางอิทธิพลของชาวโปรตุเกสและชาวยุโรป ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ถึง 19 มีโบสถ์และศาสนสถานของศาสนาคริสต์มากมาย ซึ่งศาสนสถานเหล่านี้ ได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก
นางาซากิ ยังเคยเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น ระหว่างสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง และ สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น นามของเมืองว่า “Nagasaki” (長崎) มีความหมายว่า “แหลมที่ทอดยาว” ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง 9 สิงหาคม ค.ศ. 1945 นะงะซะกิเป็นเมืองที่สองถูกทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ และเป็นเมืองสุดท้ายของโลกที่ถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์จนถึงปัจจุบัน
สถานที่แรกที่เราจะเที่ยวกันคือ สวนสันติภาพนางาซากิ (Nagasaki Peace Park) สร้างขึ้นเพื่อรำลึกเหยื่อระเบิดปรมาณูที่กระหายน้ำจนเสียชีวิต มองเห็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน เป็นรูปปั้นผู้ชาย มือขวาชี้ขึ้นไปบนฟ้า สื่อถึงการเตือนให้เห็นภัยคุกคามจากระเบิดปรมาณู แขนข้างซ้ายขนานไปตามแนวราบ อันสื่อความหมายถึงความปรารถนาในสันติภาพของชาวโลก
รูปปั้นผู้ชาย มือขวาชี้ขึ้นไปบนฟ้า สื่อถึงการเตือนให้เห็นภัยคุกคามจากระเบิดปรมาณู แขนข้างซ้ายขนานไปตามแนวราบ อันสื่อความหมายถึงความปรารถนาในสันติภาพของชาวโลก
ผมพาครอบครัวเดินชมสวนสันติภาพนางาซากิ (Nagasaki Peace Park) ไปรอบๆ มีรูปปั้นสวยๆที่สื่อความหมายเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของมนุษย์ชาติอย่างสันติสุข
เที่ยวเสร็จได้เวลาอาหารกลางวันพอดี แวะทานข้าวหน้าเนื้อ Yoshinoya กันก่อน
ทานเสร็จแล้วแวะไปกลางเมือง เที่ยวสะพานแว่นตา Megane Bridge กัน
สองคุณนายยิ้มหวานมาก
สะพานแว่นตา Megane Bridge สร้างเมื่อ 1634 ข้ามแม่น้ำ Nakashima จุดเด่นคือ เงาของสะพานในแม่น้ำจะสะท้อนภาพเป็นแว่นตา (แต่ผมหามุมถ่ายภาพยังไงก็ไม่เห็นเป็นแว่นตาครับ สงสัยจะมาผิดเวลา)
มาถึงที่นี่ให้ลงไปเดินเลียบคลองด้านล่าง ฝึกฝนสายตาสังเกตุหาก้อนหินรูปหัวใจกันนะครับ
น้ำในแม่น้ำใสมาก มีปลาว่ายน้ำเพียบครับ
ใกล้ๆกันจะมีถนนคนเดินที่เรียงรายไปด้วยร้านค้ามากมาย เหมาะสำหรับการเดินเล่นอย่างมาก
แวะร้านผลไม้ ซื้อลูกพลับทานครับ ลูกพลับญี่ปุ่นเนี่ยอร่อยและไม่แพงด้วย
ขนมชื่อดังของเมืองนางาซากิ คือ Castella คาสเทลล่า
คาสเทลล่าคือขนมไข่หรือเค้กฟองน้ำของญี่ปุ่น จังหวัดที่เป็นต้นกำเกิดและมีชื่อเสียงในเรื่องการทำคาสเทลล่าคือนางาซากิ คาสเทลล่าเป็นขนมที่มีต้นกำเนิดมาจากโปรตุเกสครับ ราคาก็ไม่แพง ชิ้นละ 130 เยน
คนญี่ปุ่นนี่เค้าช่างคิดครับ ไม่ว่าจะเป็นแพกเกจจิ้งหรือรูปลักษณ์ของขนม ทำออกมาดูน่ารักน่าทานไปหมด
เจอขนมคิตตี้แบบนี้ น้องเกรซอดใจไว้ไม่ไหวหละครับ
เดินเล่นกันพักใหญ่ บ่ายๆอากาศร้อน ขอเข้าที่พักไปล้างหน้าล้างตาก่อน ที่พักของพวกเราคืนนี้คือ Fujiwara Ryokan ราคาคืนละ 14,330 เยน หรือประมาณ 4,400 บาทครับ
ห้องพักเป็นห้องพักแบบเสื่อญี่ปุ่น แบ่งเป็น 2 ห้อง ห้องนั่งเล่น กับห้องนอนครับ มีที่นอนมาให้ จะนอนค่อยปูนอน ห้องกว้างขวางใช้ได้ครับ นอนกัน 5 คนสบายๆครับ
ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับ มีเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญเผื่อคนที่ต้องการซักผ้าด้วย
ห้องอาบน้ำเป็นแบบญี่ปุ่นแท้ๆเลย มีอ่างแช่ตัวเล็กๆด้วยนะ
ห้องขับถ่ายก็เป็นห้องรวมครับ
หลังจากพักล้างหน้าล้างตากันแล้ว เย็นนี้เรามีนัดกับวิวสวยๆบน Mount Inasa (Inasayama) กัน
อีกไฮไลท์หนึ่งที่หากใครที่มาเที่ยวเมืองนางาซากิ Nagasaki คือการขึ้นภูเขาไปชมวิวสวยๆจากมุมสูงจาก Mount Inasa (Inasayama) ซึ่งการชมวิวมุมสูงจากภูเขาแห่งนี้ถือเป็นวิวที่สวยที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น รองจาก Mount Hakodate และ Mount Rokko เท่านั้น
การเดินทางก็ไม่ยากครับ สามารถเดิน 10 นาทีจากสถานี Nagasaki Station แล้วขึ้น Ropeway ราค่าขึ้นอยู่ที่ 720 เยนต่อเที่ยว หรือจะเลือกแบบไปกลับ 1230 เยนครับ
ส่วนใครที่ขับรถแบบครอบครัวผมก็สามารถขับรถขึ้นเขาไปจอดแล้วต่อ Free shuttle bus แบบไม่เสียตังค์ได้เลย
ใครได้ขึ้นมาชมวิวแบบนี้ บอกเลยว่ามันสวยเหมือนอยู่ในความฝันเลยครับ
วิวเมืองนางาซากิสวยมาก
บอกเลยว่านอกจากวิวจะสวยงามแล้ว บรรยากาศยังช่างสุดแสนจะโรแมนติก ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับทุกคู่รักหรือครอบครัวที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ก็วิวมันสวยอ่ะ ขอหอมแก้มภรรยาสักทีเนอะ
จุ๊บๆ ไม่ต้องบรรยายอะไรกันมากเนอะ อิอิ
ชมวิวกันพอสมควร เย็นนี้ทานอะไรง่ายๆ ซื้อจาก 7-11 ครับ
ที่จริงคนส่วนใหญ่ที่มา Nagasaki จะต้องแวะไปพิพิธภัณฑ์หลายที่ แต่พวกเราเป็นทริปครอบครัว คงไม่สนุกกับการเดินในพิพิธภัณฑ์แน่นอนครับ เราจึงตัดโปรแกรมเหล่านั้นออก เสริมไปด้วยที่เที่ยวสำหรับเด็กๆอย่างสวนสนุกหรือ Aquarium แทน
Nagasaki Penguin Aquarium อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองนางาซากิมากนัก แต่สำหรับคนที่ไม่มีรถอาจจะเดินทางลำบากหน่อยเพราะต้องนั่งรถบัสไป ไม่มีรถไฟเข้าถึง แต่คนที่มีรถขับรถแปปเดียวถึงครับ ค่าเข้าชมก็แสนจะถูก ผู้ใหญ่ 500 เยน
เด็ก(อายุ 3-15 ปี) 300 เยนเองครับ
วิธีไป : ขึ้นรถเมล์คันสีแดงจากสถานีรถไฟ JR Nagasaki ออกจากทางออกด้านตะวันออก ข้ามสะพานลอย ขึ้นจากป้ายที่อยู่หน้าร้าน Yoshinoya สุดสาย Aba หรือ Kasuga-shako-mae ลงที่ป้าย Penguin Aquarium ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที
ทางเข้า Aquarium ทำเป็นทุ่งนา สร้างระบบนิเวศน์เล็กๆครับ
คุณนายแอนติงต๊องมั้ย 555
ระบบนิเวศน์ที่สร้างขึ้นมานี้สมบูรณ์ระดับหนึ่งครับ เราจะสามารถเห็นเจ้าปูสีแดงเดินเพ่นพล่าน ปลาในบ่อน้ำ และสัตว์เล็กๆน้อยๆให้แวะชมตลอดทางครับ
เข้ามาใน Aquarium กัน วันนี้จะพาเด็กๆมาดูเพนกวิ้นกันครับ
ถึงตู้เพนกวิ้นแล้ว แต่ละตัวก็ซนมาก บ้างก็ยืน บ้างก็เดินด้วยท่าทางตลกๆ บ้างก็ว่ายน้ำเล่นอย่างสบายใจ
ได้มาดูนกเพนกวินใกล้ๆแบบนี้ เด็กๆชอบใจกันใหญ่ครับ
ภายในใหม่และสะอาดมากๆ
นอกจากเพนกวิ้นแล้วก็ยังมีสัตว์น้ำอย่างอื่นนะครับ เช่น ปลาฉลาม ปลาไหล ปลาบึก ฯลฯ
ปลาบึกตัวใหญ่มาก น้องกายดูอย่างตั้งใจเลย
คุณนายแอนขอวัดขนาดครับ ตัวเท่ากันเลย 555
นอกจากนั้นยังมีนิทรรศการแสดงความรู้เกี่ยวกับนกเพนกวิ้นด้วย
กระดูกนกเพนกวิ้นเป็นแบบนี้นี่เอง
มีหนัง 3D เกี่ยวกับเพนกวิ้นให้ชมด้วย
ชั้นล่างมีที่ให้เราทดลองสัมผัสสัตว์น้ำต่างๆ เช่น ปลาดาว หอยต่างๆ ด้วย
ออกมาริมชายหาดกันบ้าง มีป้ายให้ถ่ายภาพกัน งั้นถ่ายเป็นที่ระลึกเสียหน่อย ครอบครัวสุขสันต์มาเยือนแล้วจ้า
เพนกวิ้นน้อยๆ
และในวันที่อากาศดีๆ เค้าจะพาเพนกวิ้นออกมาเดินเล่นที่ชายหาด สามารถสัมผัสลูกหัวเพนกวิ้นได้เลย น่าเสียดายวันที่ผมไปพายุกำลังจะเข้าครับ เลยงดกิจกรรมนี้
ปิดท้ายด้วยภาพน้องเกรซริมทะเลละกัน ตอนต่อไปจะเดินทางกันต่อไปยังเมือง Beppu แล้วจ้า
เที่ยว Beppu http://www.2madames.com/เที่ยวเปปปุ-beppu-kyushu-japan/
ปล.หากคุณอ่านรีวิวมาถึงตรงนี้ ผมได้ใช้เวลาและพลังงานมากมายในการเขียนรีวิวเพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์แก่ทุกคน หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป