ความเดิมตอนที่แล้ว…เที่ยวบุรีรัมย์เชิงวัฒนธรรมและวิถีชีวิต เยี่ยมชมหมู่บ้านผ้าไหม สัมผัสวิถีชีวิตแบบอีสานใต้
วันนี้เราจะพาทุกท่านเที่ยวกันต่อ โดยจุดมุ่งหมายวันนี้คือการเข้าไปเยี่ยมชมสนามฟุตบอลที่เรียกได้ว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย กับสนาม New i mobile Stadium ของสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด Buriram United
ก่อนจะเข้าสนามบอล พวกเราแวะซื้อเสื้อบอลประจำทีมของสโมสรนี้เสียก่อน โดยทีมนี้เค้าจะเก็บเบอร์ 12 GU ให้กับแฟนบอลของทีม เหมือนเป็นผู้เล่นตัวที่ 12 ของทีมครับ
เสื้อมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คุณภาพดีมาก ทั้งเนื้อผ้าและการสกรีน ขายก็ไม่แพงครับ ตัวละ 490 บาท ซื้อที่ Store หน้าสนามจะถูกกว่าที่อื่น 100 บาทนะครับ สอยมาครบทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลย
วันที่พวกเราเดินทางมา เป็นวันที่ไม่มีแมทซ์เตะครับ ที่ i mobile stadium เค้าจะเปิดให้เข้าชมส่วนต่างๆของสนามกันด้วย
จะมีรอบในการเข้าชมทุกๆ 30 นาที โดยจะมีเจ้าหน้าที่นำเข้าชมและบรรยายให้รับทราบข้อมูล
ส่วนแรกเลยคือ ห้องเปลี่ยนชุดทีมเหย้า มีเครื่องให้ออกซิเจนด้วยนะ
ห้องอาบน้ำของทีมเหย้า สังเกตให้ดีว่าฝักบัวสูงต่ำไม่เท่ากัน นั่นเนื่องจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีนักเตะต่างชาติอยู่หลายคนซึ่งรูปร่างสูงใหญ่ด้วย
ถัดเข้าไปจะมีอ่างแช่ตัวซึ่งจะมีเครื่องทำน้ำแข็งเตรียมไว้ให้ด้วย ทั้งหมดที่ท่านเห็นมีไว้บริการสำหรับทีมเหย้าเจ้าบ้านเท่านั้นนะครับ ทีมเยือนจะไม่มีอะไรสะดวกสบายเท่าทีมเหย้าครับ
ห้องเปลี่ยนชุดของทีมเยือน ไม่มีตู้ให้นะครับ มีแค่ราวแขวนเฉยๆ ห้องอาบน้ำก็เป็นแบบธรรมดาๆครับ นี่อาจจะเป็นเหตุผลถึงความได้เปรียบเวลาทีมเจ้าบ้านลงแข่งจึงเป็นต่อทีมเยือนเสมอ
เดินมาอีกหน่อย เป็นห้องแถลงข่าวของสโมสร Buriram United ครับ
เข้าไปชมสนามกันบ้าง ใหญ่โตและสวยงามอย่างกับสนามฟุตบอลต่างประเทศเลย
หญ้าเป็นหญ้าจริงนะครับ นุ่มน่านอน เอ้ย น่าเตะบอลมาก
เก็บภาพครอบครัวเสียหน่อย
เย็นๆ ไปเดินเล่นรอบสนาม i mobile stadium กัน เค้าจัดสถานที่เป็นสนามเด็กเล่น รวมทั้งสนามสเก็ตบอร์ด สนามบอล สนามบาสให้ชาวบุรีรัมย์เล่นกันฟรี ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่รวมตัวกันของคนที่นี่ ดีจังเลยเนอะ ชอบครับ
เก็บภาพรอบๆสนามยามเย็นมาให้ชมกันครับ
สวยเนอะ
ตัดภาพมาอีกวันเป็นวันแข่งขันครับ โดยวันที่ผมไป Buriram United พบกับ Bangkok United ครับ ผู้คนเยอะมากเลย
สิ่งที่ผมสังเกตเห็นจากวิถีชีวิตของคนที่นี่ ชวบุรีรัมย์ค่อนข้างจะผูกพันกับทีมฟุตบอลมากครับ เชื่อมั้ยครับวันแข่งขันทั้งเมืองจะใส่เสื้อทีมในดวงใจ พร้อมพาตัวเองไปเชียร์ทีมบ้านเกิดกันอย่างคึกคัก ไม่ใช่เฉพาะผู้ชายนะครับ แต่รวมทั้งผู้หญิง คนชรา และเด็กด้วย
ผมได้มีโอกาสนั่งคุยกับชาวบ้าน เค้าบอกว่านับตั้งแต่คุณเนวินเข้ามาทำทีมฟุตบอล ที่นี่ก็เปลี่ยนไปมาก จากที่เคยเป็นเพียงเมืองทางผ่าน เดี๋ยวนี้กีฬาได้เปลี่ยนที่นี่ให้เป็นจุดหมายใหม่ ที่ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศมาท่องเที่ยวเมืองนี้ มีผลทำให้เศรษฐกิจที่นี่ดีขึ้นตามไปด้วย คนที่นี่จึงรักทีมฟุตบอลของเค้ามาก ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าการพัฒนาด้านกีฬาก็สามารถเปลี่ยนเมืองให้เจริญได้เช่นกัน และอีกไม่นานก็จะมีสนามแข่งรถแห่งใหม่อีกด้วย ผมก็อยากกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งด้วยเช่นกัน
เด็กๆสนุกสนานกับน้ำพุด้านหน้าสนาม
เก็บภาพครอบครัวเสียหน่อย
การแข่งขันใกล้จะเริ่มแล้ว บรรยากาศในสนามค่อนข้างจะคึกคักและเต็มไปด้วยเสียงเชียร์
น้องกายก็เชียร์กับเค้านะ เอ้า.. ตบมือๆ
จบเกมส์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ Bangkok United ไป 4-0 รูปเกมส์พับสนามบุกเลยครับ
ที่พักของเราคืนนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากสนามเลยครับ เพราะอยู่ตรงข้ามกับสนามฟุตบอลเลย กับโรงแรม Theme ฟุตบอลแห่งแรกของเมืองไทย Amari Buriram United
ด้านหน้าของโรงแรมมีบริการจักรยานให้เช่าปั่นเล่นกันด้วย
ส่วนที่เด่นที่สุดของโรงแรมนี้น่าจะเป็นสระว่ายน้ำตรงกลางครับ
ผมจะพาไปชมห้อง Suite ของที่นี่กันนะครับ เป็นห้องที่มี 2 ห้องนอน มีห้องรับแขกอยู่ตรงกลาง
ห้องนอน Master ภายในห้องประดับตกแต่งด้วยตราของสโมสร
แม้กระทั่งปลอกหมอนก็ยังเป็นตราสโมสร
ห้องน้ำครับ
ส่วนห้องนี้เป็นห้องนอนที่ 2
พาเด็กๆมานั่งริมสระว่ายน้ำ ถูกใจกันใหญ่เลย
ส่วนห้องอาหารที่นี่ก็จะเสิร์ฟตลอดวันครับ ตั้งแต่อาหารเช้ายันมื้อเย็นเลย
สระว่ายน้ำยามเย็น สวยจริงอะไรจริง
ค่ำวันศุกร์ข้างๆสนามไอโมบายสเตเดียม จะมีตลาดเซาะกราวด้วยครับ แวะเดินเล่นแปปนึง
มื้อค่ำผมมาทานร้านมะลิครับ บรรยากาศดี มีดนตรีสดเล่น เสียอย่างเดียวตรงร้อนไปหน่อย
อร่อยรสชาติใช้ได้ครับ ราคาก็กลางๆครับ
ค่ำคืนผ่านไป ทานอาหารเช้าที่โรงแรม Amari Buriram United ก่อนจะเดินทางกันต่อ
สำหรับทริปนี้ยังไม่จบนะครับ ตอนต่อไปจะพาไปเที่ยวปราสาท แวะชิมร้านอร่อย แวะซื้อของฝาก OTOP กัน
ปล.หากคุณอ่านรีวิวมาถึงตรงนี้ ผมได้ใช้เวลาและพลังงานมากมายในการเขียนรีวิวเพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์แก่ทุกคน หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป