เที่ยวนิวยอร์กถือเป็นอีกทริปที่เราใฝ่ฝันมานานว่าอยากไปเที่ยวที่นี่สักครั้งหนึ่ง เมืองที่อยู่อีกฟากฝั่งของโลกที่เคยเห็นผ่านหนังดังที่ชอบหลายเรื่อง เมืองที่เต็มไปด้วยความเจริญและตึกสูงระฟ้า และแล้วความฝันก็กลายเป็นจริงเมื่อมีโปรตั๋วเครื่องบินสุดถูกไปกลับคนละหมื่นเจ็ดกว่าๆของกาตาร์แอร์เวยส์ ทริปแห่งความฝันจึงได้ถือกำเนิดขึ้น วันนี้เราจะรีวิวประสบการณ์การเที่ยวนิวยอร์กด้วยตัวเอง การเตรียมตัวตั้งแต่วีซ่ายันการเดินทางท่องเที่ยวในสไตส์ครอบครัว ตามมารับชมรีวิวกันครับ แล้วจะรู้ว่าเที่ยวนิวยอร์กนั้นง่ายนิดเดียว
ต.ค. 59 ทริปนี้เราเดินทางกัน 17 วัน แต่หากหักเวลานั่งเครื่องบินไปก็จะหายไป 2 วัน เพราะต้องนั่งเครื่องบินกันไกลจริงๆ ทริปนี้นอกจากจะไปเที่ยว New York แล้ว เรายังจองเรือสำราญของ Disney Cruise Line ไว้ 8 วัน 7 คืน โดยเรือจะล่องไปเที่ยวที่ Bahamas และ Florida ด้วย แต่สำหรับตอนนี้จะเล่าถึงแค่เฉพาะการเที่ยว New York ก่อนนะ โปรแกรมการเดินทางตามด้านล่างเลย
10 ต.ค. – ออกเดินทางด้วยสายการบิน Airasia ไปเปลี่ยนเครื่องที่ Kuala Lumpur ก่อน นั่ง Qatar Airways ไปเปลี่ยนเครื่องอีกครั้งที่ Doha แล้วบินต่อไปยัง USA
11 ต.ค. – ถึงสนามบิน JFK แล้วเอากระเป๋าไปเก็บโรงแรม Riverside Tower Hotel รับรถเช่าแล้วขับรถไปช็อปปิ้งที่ Woodbury Common Premium Outlets
12 ต.ค. – ไปทานร้านเบเกอรี่ในตำนาน Levain Bakery นั่งเรือ Ferry ไปเที่ยวเทพีเสรีภาพ Statue of Liberty & Ellis Island แวะทักทาย Charging Bull ที่ Wall Street เดินเล่นห้าง Century 21 ขึ้นตึก Empire State ชมวิวยามค่ำคืน
13 ต.ค. – นั่ง Uber ไปชมวิวที่ตึก Rockefeller เดินเล่นชมวิวเมืองย่าน Mid Town ไปหม่ำร้านเบอร์เกอร์สุดอินดี้ Burger Joint ฝนตกหนักเลยกลับที่พักพักผ่อนร่างกาย
14 ต.ค. – เดินเล่น Central Park แวะถ่ายภาพกับรูปปั้น Alice in wonderland ทานอาหารไทยที่ร้านตือ เดินเล่นย่าน Soho เดินข้ามสะพาน Brooklyn Bridge
15 ต.ค. – ขึ้นเรือสำราญ Disney Magic
16 ต.ค. – At Sea
17 ต.ค. – At Sea
18 ต.ค. – แวะเที่ยวเกาะส่วนตัวของ Disney Castaway Cay ประเทศ Bahamas
19 ต.ค. – เรือจอดที่ Florida นั่งรถมุ่งหน้าสู่ Disney World ที่ Orlando เที่ยว Disney’s Animal Kingdom และ Disney Magic Kingdom
20 ต.ค. – At Sea
21 ต.ค. – At Sea
22 ต.ค. – เรือ Disney Magic กลับมาที่ New York เย็นๆไปเดินเล่นที่ Times Square
23 ต.ค. – เดินเล่นย่าน Times Square ไปทานร้าน Blue Dog Kitchen Bar เดินเล่นสถานีรถไฟใหม่ที่มีชื่อว่า The Oculus ระลึกเหตุการณ์ 9/11 กับสถานที่จริงบริเวณที่เคยเป็นตึกแฝด World Trade Center เดิม
24 ต.ค. – เก็บตกแถวๆที่พัก และพักผ่อนร่างกาย เก็บเดินทางกลับ
25 ต.ต. – เดินทางกลับกรุงเทพ
26 ต.ค. – ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
ปล.ลำดับภาพอาจจะมีสลับกันบ้าง เพื่อความไหลลื่นของเนื้อหานะครับ
เชิญรับชมคลิปบรรยากาศแบบภาพและเสียงกันก่อนเนอะ
สมัครบัตรกดเงินสด ยูเมะพลัส พิเศษ รับดอกเบี้ย O% นาน 30 วัน
สมัครบัตรกดเงินสด เงินเดือนขั้นต่ำเพียง 7,000฿ สมัครง่าย ๆ ผ่านทางออนไลน์ได้ทันที |
การเตรียมตัวเที่ยวนิวยอร์ก
1.) วีซ่า เค้าว่ากันว่าเป็นวีซ่ากราบเซียนที่ได้ยากอันดับต้นๆของโลก แต่ที่จริงจากประสบการณ์ที่ไปยื่นมา ก็ไม่ได้ยากมาก หากแต่เราต้องเตรียมยื่นเอกสารที่เค้าขอให้ครบถ้วน รายละเอียดต่างๆ มีเว็บที่เขียนไว้ดีมาก ตามไปที่ลิงก์นี้ครับ https://2baht.com/usa-visa-howto/
2.) เวลา ช่วงกลาง พ.ย. – กลาง มี.ค. เวลาต่างกัน 12 ชั่วโมงตามหลังไทย นอกช่วงเวลาดังกล่าวจะมี Daylight Saving Time จะต่างกัน 11 ชั่วโมงตามหลังไทย ตรวจสอบเวลาช่วงที่จะเดินทางได้ที่ https://www.timeanddate.com/worldclock/usa/new-york
3.) ค่าเงิน อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 34.7 บาทต่อ USD (ต.ค. 59) ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินได้ที่ Superrich สีส้ม http://www.superrich.co.th/rate.php
เราแลกเงินไปและแลกกลับที่ Superrich สีส้มสาขาสีลมครับ ช่วงแลกกลับนี่ได้กำไรเรทเงินด้วยนะ เพราะเงิน USD ช่วง พ.ย. วิ่งไป 35 บาทเลยครับ
ตั๋วเครื่องบินน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของทริปนี้ก็ว่าได้ เพราะได้โปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินของ Qatar Airways ไปกลับไปนิวยอร์กในราคาแค่ 17,xxx บาทต่อคน แต่ขาไปต้องไปขึ้นที่ KL ก่อนนะ ส่วนขากลับถึงกรุงเทพเลย บวกค่าตั๋วแอร์เอเชียอีกคนละพันกว่าๆ ถือว่าราคาแบบนี้หายากมากเลย
บินไปสหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นอะไรที่โหดมากครับ รวมๆแล้วเดินทางขาไปเปลี่ยนเครื่องนั่งเครื่องรวมกว่า 30 ชั่วโมงได้ เหนื่อยมากทีเดียว ขาไปเวลาจะเดินช้านะ แต่ขากลับนี่ถึงไทยเปลี่ยนปฏิทินไป 2 วันเลย
ที่พักที่นิวยอร์ก เราพักย่าน Riverside Park ซึ่งทำเลดีมาก ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ และ Central Park
ทริปนี้เราจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้านานข้าม พ.ศ. เลย ทำให้มีการปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางเพียบครับ มีการจองเผื่อเลือกไว้หลายโรงแรม โชคดีที่เว็บ Booking.com จองก่อนจ่ายทีหลัง ยกเลิกได้ฟรี ทำให้ยืดหยุ่นแผนการเดินทางดีมาก
เราจองที่พักชื่อ Riverside Tower Hotel โดยจองผ่านเว็บ Booking.com มาในราคา 596 USD ต่อ 4 คืน ซึ่งถือว่าราคาไม่แพงเลยสำหรับห้อง 2 ห้องนอนในทำเลที่ดีมาก ห้องนี้เป็นห้องนอนแรกนะ เป็นเตียงแบบ Double
ส่วนอีกห้องจะเป็นเตียง 2 ชั้นที่สามารถลากเก็บประหยัดพื้นที่ได้
บัตรกดเงินสด สมัครออนไลน์ง่าย ๆ จ่ายคืนสบาย เลือกได้อย่างอิสระ บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส สมัครง่าย ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน รับดอกเบี้ย O% นาน 30 วัน |
เที่ยวนิวยอร์กครั้งนี้เราเน้นเที่ยวบริเวณเกาะแมนฮัตตัน Manhattan นะ ซึ่งเกาะนี้จะถูกแบ่งเป็น
– Downtown บริเวณเทพีเสรีภาพ, สะพาน Brooklyn Bridge ย่าน China Town
– Midtown จะเป็นย่าน Times Square และย่านตึกสูงต่างๆเช่น Empire State และ Rockefeller
– Uptown คือบริเวณรอบๆ Central Park
ใครที่กำลังหาข้อมูลอยู่ก็ดูภาพคร่าวๆก่อนว่าอะไรอยู่ย่านไหน แล้วก็จัดวันไปเที่ยวสถานที่อยู่ใกล้ๆกันได้
การเดินทางใน New York ที่นิยมใช้กันมากก็คือ Metro หรือรถไฟใต้ดินครับ โดยเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกสบาย เพราะมีสถานีกระจายอยู่เยอะมาก โดยจะมีรถไฟวิ่งตั้งแต่ย่านนอกเมืองวิ่งตรงผ่าน Uptown, Midtown และ Downtown เลย สายที่ใช้บ่อยๆ คือ สายสีแดงและสีเขียวครับ
เวลาเราจะขึ้นรถไฟใต้ดินก็ไปหน้าตู้ขายตั๋วอัตโนมัติครับ ค่าใช้จ่ายเป็นแบบเหมาต่อรอบครับ จะไกลแค่ไหนก็ 2.75 USD ใครใช้เยอะๆ ให้ซื้อแบบ Metro Card เติมเงินไปเลยก็ได้ครับ
สถานีรถไฟนิวยอร์กเก่ามากอ่ะ ส่วนรถไฟก็มีทั้งใหม่และเก่า แต่ส่วนใหญ่เจอแต่ขบวนเก่าครับ BTS บ้านเราใหม่กว่าเยอะเลย
ส่วนถ้าใครตั้งใจจะเที่ยวหลายๆที่ แนะนำให้ซื้อ New York City Explorer Pass เลยจ้า เค้าจะมีให้เลือกว่าเราอยากจะไปกี่ที่ ตั้งแต่ 3,4,5 ที่ ก็เลือกตามใจเรา ซึ่งข้อดีคือ Pass มีอายุตั้ง 1 ปี ก็ทำให้เราไม่จำเป็นต้องรีบเที่ยวจนเกินไปนัก ผมตั้งใจจะไปนั่งเรือเฟอร์รี่ไปเกาะเทพีเสรีภาพ, ตึก Empire State และ Rockefeller อยู่แล้ว 3 ที่ 77 USD ซื้อแบบนี้ประหยัดไปหลายตังอยู่ครับ
http://www.smartdestinations.com/new-york-attractions-and-tours/_d_Nyc-p1.html?pass=Nyc_Prod_Exp&allInc=true
แต่ถ้าให้ถูกที่สุดแนะนำให้ซื้อผ่าน Groupon ถูกลงไปอีกนิดหนึ่ง https://www.groupon.com/deals/go-city-card
เช็คผลอนุมัติ บัตรกดเงินสด
บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส เงินเดือนขั้นต่ำ 7,000฿ รับดอกเบี้ย อัตราพิเศษ O% นาน 30 วัน 1OO บาทก็กดได้ อนุมัติ รับเงินสดได้ทันที คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก |
อีกทางเลือกสำหรับการเดินทางในต่างประเทศ คือ การเรียกรถด้วยแอพพลิเคชั่น Uber ครับ ซึ่งทริปนี้เราใช้บริการไปในหลายโอกาสมาก เพราะมันสะดวกมากในกรณีที่กลับบ้านดึกเด็กๆเหนื่อยเดินไม่ไหว หรือเวลาฝนตก และเวลาที่เราต้องย้ายกระเป๋าเดินทางจากที่พัก
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Uber อ่านอันนี้ก่อนครับ http://www.2madames.com/uber-x-free-ride-promotion-code/
ใครสนใจก็หาโหลดมาใช้ดูครับ Google Play หรือ ios
โหลดแล้วอย่าลืมใส่โค้ด inintsue เพื่อรับเครดิตนั่งฟรีด้วยนะ
ต้องบอกว่าที่นิวยอร์กเนี่ย คนขับ Uber กันเยอะมาก เรียกแปปเดียว ไม่กี่นาทีก็จะมีรถมารับ แถมรถดีๆใหม่ๆเพียบครับ นั่งเบนซ์กลับบ้านสบายเลย
สำหรับราคาถ้าวิ่งใกล้ๆจากโรงแรมเราไปย่าน Midtown 18 นาที ก็ประมาณ 15-17 USD ถ้าวิ่งไกลๆอย่างไปสนามบินก็ราวๆที่ 80-100 USD ครับ
มีหลากหลายบริการมากทั้ง Uber Pool แวะรับผู้โดยสารระหว่างทางแต่ค่าโดยสารถูกลง Uber X อันนี้คือรถทั่วไป Uber XL แบบที่จุคนและกระเป๋าได้เยอะพวก SUV ต่างๆ และ Uber Car Seat ที่มีเบาะสำหรับเด็กด้วย
วันที่ต้องย้ายกระเป๋าเยอะๆไปลงเรือ Disney Cruise หรือไปสนามบินก็ใช้บริการ Uber นี่แหละ ดีงามมากๆ
ไปชมคลิปขึ้น Uber ในต่างประเทศกันนะ
ทริปนี้เรามีเพื่อนร่วมทริปเป็นบล็อกเกอร์ชื่อดัง แม่ประนอม EAT & Travel Life Style มาเที่ยวด้วยกัน 3 วัน วันแรกมาถึงสนามบินก็เช่ารถขับไปช็อปปิ้งที่ Woodbury Common Premium Outlets กัน ขับรถประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว
มาที่นี่ที่เดียวเรียกได้ว่าได้เกือบครบตามที่คุณนายเธอลิสต์รายการไว้เลย
Coach เป็นร้านแรกที่คุณนายเธอตรงดิ่งไปหา ราคาย่อมเยากว่าปกติมาก แถมซื้อครบ 200 usd ได้ลดอีก 20% ซื้อฝากพ่อแม่พี่น้องรวมๆแล้วจ่ายไป 400กว่าเหรียญ อานุภาพทำลายล้างของผู้หญิงเวลาช็อปปิ้งนี่ทำผมสะพรึงมากเลย ขนาดนั่งเครื่องมาเหนื่อยๆลงเครื่องมาแล้วดิ่งมาช็อปเลย พลังเธอยังเยอะขนาดนี้
นอกจากกระเป๋าแล้ว เสื้อผ้าแบรนด์ต่างๆก็มีให้ช็อปเยอะมาก ทั้ง Polo Ralph Lauren ทั้ง Guess ราคาลดเยอะพอควร แต่ลดแล้วราคาก็สูงอยู่นะ 555
ที่ Outlet มีร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังอย่าง Shake Shack มาเปิดขายด้วย
ถาดนี้ของเด็กๆและคุณนายแอนแบ่งๆกัน มี Hot Dog, Bacon Cheddar SHACK แล้วก็ฟราย เบอร์เกอร์อร่อยจริงๆ แต่ทานเสร็จแล้วเคืองๆคอหน่อย อาจเพราะเนื้อย่างมาเกรียมเกินไป แต่โดยรวมแล้วก็ชอบจ้า
เหลายคนอาจจะรู้ว่า Booking.com นั้นมีชื่อเสียงเรื่องการจองที่พักเนอะ ด้วยข้อดีต่างๆมากมาย เช่น การจองก่อนจ่ายทีหลัง ยกเลิกได้ฟรี ซึ่งผมเคยรีวิวไว้ที่ http://www.2madames.com/booking-com/ ก็ลองไปอ่านกันดูนะ
แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้ว่า Booking.com เค้ามีส่วน Travel Guide ที่มีข้อมูลที่เที่ยวและที่กินด้วย (ผมเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน)
วิธีการใช้งาน Travel Guide ก็ไม่ยากครับ โดยสามารถเปิดจากเว็บ https://www.booking.com/destinationfinder.th.html โดยตรง แต่สำหรับคนที่ใช้ Smart Phone อยู่แล้ว ก็สามารถเรียกจากแอพ Booking ได้เลยครับ
ซึ่งพอเราเข้าแอพมาแล้ว ก็กดเข้าเมนูหลัก แล้วเลือก Your Travel Guides จากนั้นก็เลือกเมืองที่ต้องการดูข้อมูล
ใน Travel Guide ก็จะมีข้อมูลมากมายทั้งที่เที่ยว ที่กิน โดยที่น่าสนใจก็คือ City Secrets ที่จะเป็นข้อมูลทีเด็ดจากคนในพื้นที่ เช่น ร้าน Levain Bakery ซึ่งดูแล้วอยู่ไม่ไกลจากที่พักที่เราจองมา แบบนี้ขอตามไปพิสูจน์หน่อยดีกว่า
เดินมาไม่ไกลก็ถึงแล้วเป็นร้านเล็กๆชื่อ Levian Bakery กดที่แผนที่ให้นำทางจากแอพมาได้เลย พิกัดตามนี้นะ สะดวกมากๆ ไม่มีหลงจ้า
ของกินที่ขายมีอยู่เท่าที่โชว์แหละ เป็นพวกคุกกี้ ขนมปัง ที่เน้นไส้ช็อคโกแลตแบบเข้มข้น ราคาไม่แพง และที่สำคัญคืออร่อยมาก อยากได้ชิ้นไหนจิ้มเลย แล้วก็มีขายพวกเครื่องดื่มร้อนทั้งกาแฟ ชา และช็อคโกแลตร้อน
ซื้อเสร็จเราออกมานั่งรับลมเย็นๆด้านนอก ทานเสร็จค่อยไปต่อจ้า วันนี้เลยได้ทานอาหารเช้าแบบฝรั่งเค้าทานกัน
สรุปแล้วร้าน Levain Bakery เป็นร้านเบเกอรี่คุณภาพที่ราคาไม่แพง สมควรแวะมาทานจ้า
เรามายัง Battery Park สวนสาธารณะใต้สุดของเกาะ Manhattan เรามาตรงนี้เพื่อรับตั๋วขึ้นเรือเฟอร์รี่ที่จะพาไปเที่ยวเทพีเสรีภาพกัน (ตั๋วจาก New York Explorer Pass ที่อธิบายไว้ด้านบนนะ)
ในภาพคือ Castle Clinton ที่ถูกล้อมรอบด้วยตึกสูงของเมือง New York
หน้าตาเรือเฟอร์รี่ที่จอดอยู่ที่ท่าใกล้ๆกัน กว่าจะได้ขึ้นเรือต่อคิวยาวมาก แถมตรวจเช็คกระเป๋าเหมือนจะขึ้นเครื่องบินเลยครับ
แวะซื้อ Hot Dog แบบ Local ทานหน่อย ผมว่าไส้กรอกที่นิวยอร์กนี่ติดเค็มอ่ะ
นั่งเรือชมวิวแปปเดียว เรือก็แล่นผ่านเกาะเทพีเสรีภาพแล้ว
Statue of Liberty แต่เดิมชื่อว่า Liberty Enlightening the World ตั้งอยู่ ณ เกาะลิเบอร์ตี อ่าวนิวยอร์ก ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นของขวัญที่ชาวฝรั่งเศสมอบให้แก่ชาวอเมริกัน ในวันที่อเมริกาเฉลิมฉลองวันชาติครบ 100 ปี ณ วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2419 โดยสาเหตุที่ทำให้ชาวฝรั่งเศสมอบเทพีเสรีภาพให้แก่สหรัฐอเมริกา เพราะว่า พวกเขาชื่นชมชาวอเมริกันที่หาญกล้าหาญ ที่ลุกขึ้นสู้กับสหราชอาณาจักร และประกาศอิสรภาพ จากสหราชอาณาจักรสำเร็จ เป็นชาติเอกราชในที่สุด
ที่จริงวิธีการชมเทพีเสรีภาพมีหลายวิธี ตั้งแต่นั่งเรือเฟอร์รี่ชมฟรี โดยนั่งเรือของ Staten Island Ferry แต่เรือลำนี้จะแค่แล่นผ่านโดยไม่แวะจอดบนเกาะนะ ดังนั้นถ้าอยากจะถ่ายภาพแบบใกล้ชิดจะต้องซื้อทัวร์ Statue of Liberty & Ellis Island ราคา 18 USD แบบผม โดยเรือจะแวะจอดบนเกาะให้ด้วย
มาถึงที่เทพีเสรีภาพทั้งที อยู่ไกลกันครึ่งโลก แบบนี้ไม่พลาดที่จะเก็บภาพครอบครัวอยู่แล้ว
ผู้ชายคนนี้เคยให้สัญญาว่าจะอุ้มเธอไปทั่วทุกแห่งบนโลกใบนี้
ถึงแม้ว่าวันนี้ยังไปไม่ได้ถึงครึ่งที่เคยฝันไว้
แต่ตราบที่สองมือและสองขาของฉันยังมีแรง
ผู้ชายคนนี้จะตั้งใจทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเธออย่างแน่นอน
This promise is only for you.
#MyWifeMyLove
ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี ทานเบอร์เกอร์กันที่ร้านอาหารบนเกาะนี่แหละ
ใครมาเที่ยวที่เกาะเทพีเสรีภาพก็อย่าลืมเดินมาชมวิวเมืองนิวยอร์กกันด้วยนะ สวยมากเลย
มองไปอีกฝั่งจะเจอกับเกาะ Ellis Island ใกล้ๆกันด้วย ที่จริงเรือไปจอดบนเกาะนี้ด้วยนะ แต่น้องกายดันหลับบนเรือ พวกเราเลยขี้เกียจปลุกให้ลงไปเดินครับ เลยปล่อยให้หลับเอาแรงไปก่อน
เรือเฟอร์รี่ล่องกลับมายัง Battery Park อีกครั้ง เราเดินขึ้นเหนือมาไม่ไกล แวะทักทายกับ Charging Bull บริเวณถนน Wall Street ย่านการเงินสำคัญของ New York ซึ่งกระทิงตัวนี้ทำมาจากทองแดง สร้างไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองทางการเงินของคนที่นี่
ถ่ายด้านหน้าแล้ว อย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกับไข่กระทิงด้านหลังด้วยนะ 555
เดินเล่นชมตึกสูงแถวนี้เพลินๆ
ตึกสูงแถวนี้หนาแน่นและสวยงาม
เดินผ่าน Trinity Church สวยทีเดียว
แวะมาเดินเล่นห้าง Century 21 ต่อ ที่นี่มีพวกเครื่องสำอาง กับพวกกระเป๋า รองเท้า เยอะเหมือนกันครับ
ไม่ไกลจากห้าง Century 21 สามารถเดนไปยังพื้นที่สถานีรถไฟเดิม (Path Station) ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ 9/11 ก็มีสถานีรถไฟใหม่ที่มีชื่อว่า The Oculus ถูกสร้างขึ้นมาทดแทน ตัวอาคารถูกออกแบบให้มีความโดดเด่นและสวยงามมาก
บริเวณด้านในอลังการและสวยงามมาก
ปัจจุบันบริเวณที่เคยเป็นตึกแฝด World Trade Center เดิมที่ถล่มลงมาจากเหตุการณ์ 9/11 ปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นบ่อน้ำที่มีการสลักชื่อผู้ที่เสียชีวิตไว้รอบๆ
แม้เหตุการณ์จะผ่านมานานแล้ว แต่ความรู้สึกโศกเศร้าเสียใจยังคงไม่จางหายไปจากชาวนิวยอร์ก ญาติมิตรของเหยื่อในวันนั้นยังคงนำดอกไม้มาระลึกถึงบุคคลที่จากไปอันเป็นที่รักของพวกเค้าอยู่
ข้างๆไม่ไกลก็มีอาคารใหม่ชื่อ One World Trade Center ขึ้นมาแทน
เย็นๆเรามาขึ้นตึก Empire State กัน คนขึ้นตึกค่อนข้างเยอะมาก ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ถึงจะได้ขึ้นตึก
กว่าจะได้ขึ้นมาถึง ทำเอาชาวคณะเบื่อไปตามๆกัน วิวประมาณนี้ครับ นิวยอร์กยามค่ำคืนแสงไฟสวยทีเดียว แต่สำหรับคนที่จะมาเที่ยว ผมแนะนำให้ขึ้นตึก Rockefeller ตึกเดียวพอครับ วิวสวยกว่าด้วยครับ
เช้าวันรุ่งขึ้นได้เวลาไป Rockefeller กันบ้าง
วันนี้เราจะมาขึ้นไปชมวิวกันที่ Top of the rock กัน
แวะถ่ายป้ายก่อนนะ
ขึ้นมาถึง Top of the rock จะสามารถชมวิวได้ทั้งฝั่ง Downtown ที่มองเห็น Empire State และสามารถมองเห็นฝั่ง Central Park ได้ด้วย
วิวจากฝั่ง Central Park สวยมาก
วิวสวยๆแบบนี้ ก็มีความสุขกันไปทั้งครอบครัว
ในตึก Rockefeller มีไอศกรีม Ben & Jerry’s ด้วย แวะชิมหน่อย อร่อยมากอ่ะ ชอบๆ
เดินเล่นในเมืองกันต่อนะ เจอป้าย Love อันใหญ่เลย รักกกกนะทุกคนนนน
ร้านต่อมาที่จะแนะนำกัน คือร้าน Burger Joint ซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรม Le Parker Meridien พิกัดตามนี้
เข้ามาถึงในโรงแรมแล้วก็ให้มุ่งหน้าไปทางด้านหลังเสาครับ
แม้จะตั้งอยู่ในโรงแรมหรู แต่ทางเข้าจะดูลึกลับมาก แถมเข้ามาในร้านแล้วจะพบว่าร้านนี้ตกแต่งแหวกแนวมาก เพราะแทนที่จะตกแต่งหรูหราตามร้านอาหารในโรงแรมทั่วไป แต่ร้านนี้เลือกที่จะทำให้มันดูซ๊กม๊กแทน
แต่ผู้คนกลับชอบใจในความอินดี้มั๊งครับ คนเยอะมาก ต่อคิวซื้อกันยาว ที่นั่งก็หมุนอย่างกับเก้าอี้ดนตรี
รอคิวนาน พอดีกำลังหิวเลย เราเลือกสั่งแบบใส่เบคอนด้วย เบ็ดเสร็จสั่งเบอร์เกอร์ 4 ชิ้น ฟราย 1 ที่ เครื่องดื่มอีก 2 แก้ว จ่ายไป เกือบๆ 60 USD ถือว่าเป็นการทานเบอร์เกอร์ที่แพงที่สุดในชีวิตแล้ว แต่โดยรวมถือว่าดีมาก ควรค่าแก่การมาลิ้มลองสักครั้งนึง เพราะอร่อยขนาดที่ว่าคุณนายแอนเธอไม่ชอบทานเนื้อ เธอยังเอ่ยปากชมเนื้อร้านนี้เลย
ตี๋น้อยก็ชอบเหมือนกัน นางทะเล้นมาก กินเหลือครึ่งชิ้นแล้วหันมาบอกให้คนอื่นดูว่านี่ไงละ เบอร์เกอร์เหมือนรอยยิ้มมั้ย แล้วก็เอาไปบังปากตัวเอง
สรุปแล้วร้าน Burger Joint เป็นร้านแนวอินดี้ที่ไม่ธรรมดา อาหารโอเคแต่คนเยอะมากไปหน่อย
ช่วงที่เราไปใกล้กับเทศกาล Halloween พอดี บ้านเรือนบางบ้านก็เริ่มประดับตกแต่งไยแมงมุมและฟักทองกันบ้าง
ร้านที่เรามาทานกันต่อมาคือ ร้าน Blue Dog Kitchen Bar ย่าน Mid Town พิกัดตามนี้นะ
ร้าน Blue Dog Kitchen Bar เป็นร้านอาหารที่ขายอาหารประเภท Brunch หรือเช้าควบเที่ยง แต่ร้านเปิดทั้งวันนะ อาหารส่วนใหญ่จะเน้นไปที่แซนวิส สลัด เบอร์เกอร์ สปาเก็ตตี้
มื้อนี้เรา 4 คน สั่งมาเท่านี้ตามรูป ขอบอกเลยว่าทานกันแน่นเลย เกือบไม่หมดแหนะ อีกสองเมนูเป็น Caribbean Chicken Cobb Salad ราคา 16 usd และ Cubano เป็นแซนวิชไก่ย่างเสิร์ฟคู่ฟราย ผักเค้าอร่อยนะ ไก่ก็ไม่เหนียว นุ่มๆ ขอบอกว่าเด็กๆชอบมาก ราคา 14 usd. จ้า
สรุปแล้ว ร้าน Blue Dog Kitchen Bar เป็นร้านอาหาร Brunch ที่อาหารอร่อยดีครับ ติดตรงราคาที่แอบแรงไปสำหรับคนไทย
ที่พักของเราอยู่ใกล้ Central Park แบบนี้ต้องมาเดินเล่นกันหน่อย ในภาพคือ Belvedere Castle
คนที่นี่เลี้ยงหมากันเยอะมาก บางตัวก็ขี้เล่นสุดๆ
ถ่ายภาพกับรูปปั้น Alice in wonderland กัน
ส่วนรูปปั้นนี้คือคนแต่งเรื่องลูกเป็ดขี้เหร่ The Ugly Duckling นั่นเอง
สวนสาธารณะกลางเมืองใหญ่ช่างสวยงาม
Selfie กับ Bethesda Fountain กัน
ตรงนี้คือ Minton Tiles at Bethesda Arcade
สวน Central Park กว้างใหญ่มาก เดินกันไกลเลยแหละ แต่โชคดีที่อากาศดี ต้นไม้ก็เยอะมาก เราก็เดินกันเพลินๆ สบายๆ
พื้นที่เขียวๆตัดกับตึกสูงเต็มไปหมด
วันนี้ไม่รีบเร่งอะไร ก็นั่งเล่นกันไป เด็กๆก็ปีนป่ายก้อนหินกันไปเรื่อย
ทางอื่นด้านตะวันตกจะมี John Lennon Memorial เป็นวงกลมที่ระลึกถึงศิลปินผู้ยิ่งใหญ่อย่าง John Lennon ด้วย
มาอยู่ต่างแดนหลายวัน เจออาหารฝรั่งและเบอร์เกอร์เข้าไปหลายมื้อ ชักเริ่มคิดถึงอาหารไทย พวกเราเลยแวะหาอาหารแซ่บๆทานกันที่ร้านตือโภชนา (TUE Thai Food) ร้านนี้คนเยอะดีทีเดียว
จานแรกที่สั่งหนีไม่พ้นส้มตำจ้า สั่งเป็นส้มตำไทยมาชิม รสชาติบอกก่อนว่าออกแนวฝรั่งทาน ถือว่าพอแก้ขัดให้หายคิดถึงได้อยู่ จานนี้สั่งแบบไม่เผ็ดมาก เพราะน้องเกรซน้องกายจะขอแจมด้วย
จานนี้สั่งให้เด็กๆโดยเฉพาะ เป็นขนมจีบทอด แป๊บเดียวหมดเกลี้ยง
จานนี้เป็นเนื้อผัดพริกแกง ได้ทานแบบนี้ถึงเครื่องไม่ครบแบบไทยแท้ๆ ก็พอโอเคทำให้ตัดเลี่ยนอาหารฝรั่งไปได้บ้าง
นั่งรถผ่านเห็นที่จอดรถซ้อนกันเป็นคอนโดเลย นึกไม่ออกว่าเค้าเอารถคันบนลงมายังไงกัน
บ่ายๆมาเดินเล่นกันย่าน Soho ร้านขายของเพียบเลย
เดินเล่นผ่าน China Town มาตามทางผ่านอาคารสวยๆเพียบ ที่เห็นเป็นศาลของที่นี่นะครับ
เราตั้งใจมาเดินข้ามสะพานบรูคลิน Brooklyn Bridge กัน
สะพานบรูคลินสร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1883 เคยเป็นสะพานแขวนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสะพานแขวนที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา มีความยาว 1825 เมตร ทอดข้ามแม่น้ำอีสต์ เชื่อมระหว่างนิวยอร์กซิตี แมนฮัตตัน และบรูคลิน
สะพานนี้วิวสวยมากเลยนะ ใครมานิวยอร์กอย่าพลาดการเดินข้าม Brooklyn Bridge นะครับ
ก็บรรยากาศมันดีอ่ะ ขอหวานกันนิดหนึ่ง ไม่ว่ากันเนอะ อิอิ
คนแถวนี้นิยมเอาสายฟังมาผูกกับสะพานเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก
เราเดินข้ามมาอีกฝั่ง ตรงนี้มองเห็นสะพาน Manhattan Bridge สวยมาก ใครจะมาถ่ายภาพ เดินตามพิกัดนี้มานะ
ข้ามมาอีกฝั่งก็ค่ำพอดี มาชมความงดงามของสะพาน Brooklyn และแสงไฟจากตึกสูงของนิวยอร์ก สวยงามมากเลย
สวยจนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้เลย
ที่เที่ยวสุดท้ายที่เราไปมา คือ ย่านไทมส์ สแควร์ Times Square
ย่าน Times Square ถือเป็นย่านที่น่ามาเดินเล่นช่วงค่ำคืนมากๆ เพราะตรงนี้มีแสงสีสวยงามมาก จะมีด้านหนึ่งเป็นอัศจรรย์เล็กๆตรง Father Duffy Square
มองไปอีกด้านสวยงามมากๆ
ท่ามกลางผู้คนมากมาย ไม่มีใครสำคัญเท่าครอบครัวที่เรารักเลยจริงๆ
ทริปของเรายังไม่จบนะ ตอนต่อไปจะพาไปชมรีวิวเรือ Disney Magic สุดยอดเรือสำราญแห่งความฝันกันบ้าง แต่วันนี้ลาไปก่อนนะ บะบายยย
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป