ปลายๆปีทีไร อยากจะเก็บกระเป๋าพาครอบครัวไปสัมผัสลมหนาวทุกทีเนอะ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปสูดอากาศเย็นๆกันที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์กัน โดยไปพักกันที่รีสอร์ทใหม่ล่าสุดอย่าง เดอ คาพ็อค รีสอร์ท (De Capoc Resort Khao Kho) พาไปชิมร้านวิวเทพ Pino Latte Resort & Café เที่ยววัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ร้านกาแฟ The Louise แวะถ่ายภาพทุ่งดอกคอสมอส เดินเล่นตลาดไทหล่ม ทานดินเนอร์ชมแสงไฟที่ร้าน Jolly Café จะสนุกสนานแค่ไหน ตามไปรับชมรีวิวกันครับ
มารับชมคลิปกันก่อนเนอะ
จากกรุงเทพเราขึ้นเหนือผ่านอยุธยา สระบุรี ลพบุรี แล้วแวะทานไก่ย่างวิเชียรบุรีที่แสนโด่งดังหน่อย
ร้านที่เรามาชิมชื่อร้านว่าไก่ย่างบัวตอง 2 พิกัด : https://goo.gl/maps/bNzRa9gm6cy
ไก่ยางวิเชียรบุรี เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยกิน แต่ถ้าขับรถขึ้นมาเที่ยวเพชรบูรณ์แล้วล่ะก็แนะนำให้แวะทานต้นตำหรับเค้าเลยจะดีกว่า เพราะไก่นี่ตัวขนาดพอดีๆ หมักอร่อย ที่สำคัญเนื้อนุ่มมาก ย่างกันควันโขมงเรียกแขกอยู่หน้าร้านเลย ที่สำคัญลูกค้าร้านนี้คนเยอะมาก ขนาดแวะทานตอนบ่ายสองคนยังแน่นอยู่เลย ไก่ย่างครึ่งตัว 90 บาท ส่วนอาหารอื่นๆร้านนี้ก็ไม่แพงนะ
ส้มตำปูปลาร้ารสชาติแซ่บดีครับ ใช้ได้เลย
ต้มแซ่บกระดูกอ่อน ครบรสจัดจ้านระดับหนึ่ง แต่ยังสู้เจ้าประจำที่กรุงเทพไม่ได้
อิ่มท้องกันแล้วก็เดินทางต่อมายัง เดอ คาพ็อค รีสอร์ท (De Capoc Resort Khao Kho) รีสอร์ทใหม่เอี่ยมล่าสุดของเขาค้อ
บริเวณ Reception เป็นแบบ Open Air ตกแต่งแบบเรียบง่าย ลมเย็นๆพัดมาฟินเลยครับ
ถัดจากบริเวณ Reception จะเป็นทางเดินไปยังตัวรีสอร์ท เด็กเตรียมโรเลอร์เบรดมาเล่นด้วย สนุกกันใหญ่เลย (แต่ทางไม่ค่อยเรียบนะ และมีความชันด้วย เหมาะกับคนที่เล่นเก่งพอสมควรนะครับ)
ตลอดสองข้างทางเดินจะมีต้นหญ้าปลูกไว้ เวลาลมพัดมาก็จะโบกไหวไปมา มองแล้วเพลินดีครับ
มาชมสระว่ายน้ำของที่ De Capoc Resort Khao Kho กัน
จะเป็นรูปแบบ Infinity Edge Pool มองไปเห็นวิวเขาค้อด้วยมากเลย
ยิ่งยามเย็นน้ำจะสะท้อนเงาของท้องฟ้าสีสวยงามมาให้ชมด้วย สุดยอดครับ
เด็กบอกอยากลงไปเล่นน้ำมากเลย แต่มันเย็นแล้ว อากาศก็เริ่มหนาว เลยบอกให้รอไว้เล่นพรุ่งนี้แทนนะ
จากตรงนี้เราสามารถมองไปเห็นทุ่งกังหันลมของเขาค้อได้ด้วย
พวกเราเดินทางมาถึงเกือบๆห้าโมงเย็น นั่งรถมานานเลยไม่อยากออกไปไหนไกล เลยขอฝากท้องที่รีสอร์ตนี่แหละ พนักงานแจ้งว่าเป็นห้องอาหารอิตาเลียน แต่ก็มีพวกสเต็กและอาหารจานเดียวแบบไทยๆเสิร์ฟอยู่นะ
พิซซ่าดีงามมากแป้งบางๆชีสแน่นเยิ้มๆ สามารถสั่งสองหน้าในถาดเดียวได้ เลยจัดมาเป็น De Capoc Pizza เป็นพิซซ่าหน้าเบคอน ผักโขม ชีส ตัดเลี่ยนเบาๆด้วยมะเขือเทศ และมะกอกดำ เป็นหน้าที่ชอบสุดๆแล้ว ส่วนอีกหน้าเป็น Salmon Pizza เป็นพิซซ่าใส่แซลมอนสไลด์เด็กๆชอบหน้านี้มากๆ
มาชมห้องพักของเรากันบ้างนะ ห้องพักเป็นแบบวิลล่าครับ ตอนนี้มามีอยู่ 5 หลังครับ
เข้าออกจากทางประตูด้านหลัง
ห้องกว้างมาก มีอ่างแช่ตัวแบบ Outdoor ท่ามกลางกระจกใสกลางวิลล่าเลย
ส่วนเก็บเสื้อผ้าจะมีตู้เซฟและชุดคลุมอาบน้ำให้ ข้างๆกันเป็นอ่างล้างมือ
ห้องน้ำและห้องขับถ่ายครับ
มีเครื่องชงกาแฟในห้องให้ด้วยครับ
มาชมส่วนห้องนอนกันบ้าง
ส่วนห้องนอนจะถูกล้อมรอบด้วยกระจกรอบด้านเลย
โดยเราสามารถปิดผ้าม่านได้เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว
แต่ไฮไลท์เด็ดคือ ที่ระเบียงจะมีตาข่ายไว้ให้เรานอนเล่นรับลมเย็นๆและอากาศบริสุทธิ์ของเขาค้อด้วย
แหม่… ชิลด์จริงอะไรจริง
น้องเกรซน้องกายขอลงไปเล่นน้ำในอ่าง อ่ะ จัดไปลูก
สำหรับราคาห้องพักที่ De Capoc Resort Khao Kho
ห้องแบบ Deluxe คืนละ 4,500 บาท ครับ ถ้าวิลล่าแบบนี้คืนละ 6,000 บาทครับ
ราคาแต่ละช่วงไม่เท่ากัน ติดต่อสอบถามจากเพจรีสอร์ทอีกครั้งครับ
https://www.facebook.com/decapocresort/
ในส่วนของอาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ แม้จะเป็นไลน์อาหารไม่ใหญ่แต่อาหารที่เสิร์ฟก็ค่อนข้างครบ ทั้งอเมริกันเบรกฟาสต์ ข้าวต้ม ข้าวผัด สลัด ผลไม้ น้ำผลไม้ ชา กาแฟ
วิวสวยมาก แถมอากาศดีสุดๆ ลมหนาวโชยมาเบาๆ สบายมากครับ
สระว่ายน้ำยามเช้า
เห็นสระว่ายน้ำสวยแบบนี้ไม่เล่นไม่ได้แล้ว ลุยยยย
ไปเที่ยวเพชรบูรณ์กันบ้างดีกว่า มากันที่ร้านนี้เลย Pino Latte Resort & Café มาวันหยุด คนเยอะเชียวครับ
อาหารที่นี่ราคาค่อนข้างสูง สูงตามพื้นที่ที่ขึ้นมาชมวิวเลย อิอิ ก็คิดเสียว่าจ่ายค่าอาหารรวมกับจ่ายค่าวิวก็พอไหวอยู่นะ
Pino Latte มีขายทั้งอาหารจานหลัก เป็นพวกอาหารฝรั่ง เค้ก เครื่องดื่ม สั่งมา 4 อย่าง จ่ายไป 700 กว่าบาท
น้องเกรซชอบทานซี่โครงย่างมากๆ พออาหารมาหน้าตายิ้มแฉ่งเลย
มุมถ่ายรูปเยอะไปหมด มีดอกไม้สวยๆด้วยนะ
วิวจากร้านกาแฟมองลงไปเจอกับวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วด้วยนะ สวยมากๆ
ไปเที่ยววัดพระธาตุผาซ่อนแก้วกันต่อเลยดีกว่า
สถานที่อันเป็นธรรมภูมิที่งดงาม ซึ่งเรียกว่าผาซ่อนแก้วนี้ มีธรรมชาติเป็นภูเขาที่สูงใหญ่ ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้น มีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา ซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหลายคน ได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้า และลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตาม ๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว” และพุทธสถานที่มาตั้งในจุดที่โอบล้อมด้วยทิวเขาดังกล่าว จึงเรียกว่า “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” เพื่อเป็นนิมิตมงคลแก่ชาวบ้านทางแดง และผู้มาปฏิบัติธรรมสืบไป
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ในนาม “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” ได้รับการอนุมัติจัดตั้งเป็นวัด ในมงคลนามว่า “วัดพระธาตุผาแก้ว” เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ จากคณะกรรมการมหาเถรสมาคม โดยมีพระครูปลัด ปารมี สุรยุทโธ เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” เมื่อ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เพื่อให้สอดคล้องกับบริเวณที่ตั้ง ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านเรียกกันว่า “ผาซ่อนแก้ว”
จานกระเบื้องและแก้วสีสันสวยงามประดับประดาอย่างสวยงาม
ใครมาเที่ยวเพชรบูรณ์อย่าลืมแวะมาเที่ยวที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วนะครับ
แวะมาที่ร้าน The Louis ที่อยู่ไม่ไกลกันต่อนะ
ร้านนี้มีเจ้าหมียักษ์แต่งตัวเป็นชุดต่างๆกับมุมที่จัดไว้ให้เราสามารถเข้าไปถ่ายรูปเล่นกันได้
ร้านนี้มีดีแค่ตุ๊กตาหมีกับวิวจริงๆ เครื่องดื่ม ขนม รสชาติธรรมดามากๆ สั่งขนมปังเนยนม ขนมปังแทบจะไม่ได้ปิ้ง เนยโป๊ะมาเป็นก้อนๆ ไม่อร่อยเลย ก็คิดเสียว่ามาถ่ายรูปเล่น ไม่ต้องไปแย่งกันกินแย่งกันเที่ยวกับร้านดังอื่นๆก็พอไหวนะ มีเพื่อนเคยมาร้านนี้เค้าเก็บค่าเข้าด้วย แต่ตอนครอบครัวเราไปไม่มีเก็บค่าเข้านะ
ถึงจะไม่อร่อย แต่เด็กๆเล่นกับพี่หมีสนุกกันมากเลยครับ
ช่วงที่เราเดินทางไปที่เขาค้อ กำลังอยู่ในช่วงที่ดอกคอสมอส หรือดอกดาวกระจายกำลังบานสวยเลยครับ
ค่าเข้าก็ถูกมาก แค่คนละ 20 บาท ใครสนใจก็มาชมกันได้ที่ The front ตรงข้ามกับไร่บีเอ็นครับ
ทุ่งดอกคอสมอสของที่นี่มีแบ่งเป็นทุ่งสีเหลือง
กับอีกส่วนเป็นสีชมพู-ขาว
ซึ่งสวยกันคนละแบบครับ
ครอบครัวเราชมดอกไม้สวยๆ ถ่ายภาพกันเพลินเลยครับ
ทุกเย็นวันเสาร์จะมีตลาดนัดไทหล่ม ที่อำเภอหล่มสัก เราเลยขอๆปเยือนที่นี่หน่อยครับ
ที่นี่จะมีของซื้อของขาย รวมทั้งของกินเยอะมาก เรียกว่าเดินกันเพลินครับ
ตรงสะพานเทศบาลหล่มสัก มีคนมาตีดาบโชว์ด้วยครับ
ใครมาเดินเล่นที่นี่ อย่าลืมเข้ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หล่มศักดิ์ด้วยนะครับ เข้าชมฟรีเลย
ด้านในจะจัดแสดงวิถีชีวิตของชาวหล่มสักตั้งแต่อดดีตจนถึงปัจจุบัน
ค่ำแล้วหาทิ่นเนอร์กันต่อดีกว่า Jolly Café จอยลี่ คาเฟ่เป็นอีกร้านอาหารที่แนะนำว่าห้ามพลาดเป็นอันขาด ส่วนเวลาที่แนะนำควรไปช่วงเย็นๆก่อนฟ้ามืดจะยิ่งสวย จะได้บรรยากาศร้านทั้งสองแบบที่สวยมากๆ
พอมืดแล้ว ถ่ายรูปกับแสงไฟที่ประดับไปทั่วร้านก็จะสวยๆแบบมาดามแอนนี่แหละ
แถมร้านเค้าก็ยังมีจัดพร๊อพเก๋ๆไว้ให้ถ่ายรูปด้วย
อากาศเย็นๆแบบนี้มีกระโจมใต้แสงไฟสลัวๆ โรแมนติกมากๆ
โซนนี้เป็นโซนปิ้งบาร์บีคิว นั่งรับลมเย็นๆกันไปได้บรรยากาศมากๆ
เครื่องดื่มที่นี่ก็ไม่ธรรมดาน่าดื่มเพียบ ราคาประมาณ 60-80 บาท อย่าง Little Pony’s Drink แก้วที่น้องกายจ้องอยู่นั้น เป็นนมแดงผสมนมอัญชัญสีสันหลอกล่อเด็กๆให้ดื่มนมได้ดีเชียว
ไก่ทอดบาร์บีคิว 180 บาท อร่อยมากไก่เนื้อนุ่มเคล้าซอสบาร์บีคิวเข้มข้นรสจัดจ้าน จัดจานมาสวยเชียว
ส่วนทีเด็ดของร้านนี้ขอยกให้สเต็กเนื้อออสเตรเลียนวากิว ราคา 480 บาท ชิ้นเนื้อขนาดเล็กไปหน่อย แถมย่างมาได้แบบ medium ตามที่ขอ จัดวางมาบนมันบดเนื้อเนียนหอมเนย อร่อยจนต้องเบิ้ล 2 จานเลย
ส่วนพิซซ่าจริงๆทำได้ดีมาก ถาดนี้เป็นพิซซ่าแฮม ราคา 300 บาท รสชาติดี วัตถุดิบดีหมด เสียอย่างเดียวอบมาไหม้จ้า ด้านล่างนี่แป้งดำขมเชียว
โดยรวมแล้วถือว่า จอยลี่ คาเฟ่ Jolly Cafe นี่เป็นร้านที่ไม่ควรพลาดจริงๆ
ไก่ย่างเขาค้อ เป็นอีกร้านแม้จะเป็นร้านบ้านๆแต่อยากแนะนำเลยว่าอร่อยเด็ดเลยหละ
มีดีที่ไก่ย่างหนังนุ่ม หมักมาได้รสชาติดีแทบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลย เกๆชอบกันมาก ราคาปีกละ 20 บาท
ส่วนเมนูส้มตำก็รสจัดครบรสมากๆ ส่วนผักสดเค้าเสิร์ฟผักสลัดที่สดมากๆเลย
และนี่คือทริปเที่ยวเพชรบูรณ์ของพวกเราครับ หวังว่าคงจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และความสุขกลับไปไม่มากก็น้อยนะครับ วันนี้ลากันไปก่อนแล้ว บะบายยยย
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป