เที่ยวภูเก็ตหลายคนอาจจะคิดถึงการไปพักผ่อนริมทะเลเนอะ แต่ด้วยความที่ครอบครัวเรามาเที่ยวภูเก็ตบ่อยมาก ทริปคราวนี้เลยอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศเป็นการเที่ยวแบบในตัวเมืองภูเก็ตบ้าง โดยเราพักกันที่โรงแรมโนโวเทล ภูเก็ต โภคีธรา (Novotel Phuket Phokeethra) ที่มาพร้อมบุฟเฟต์ติ่มซำขั้นเทพในราคาสุดคุ้มให้กับแขกทุกคนที่มาพัก เดินหลาดใหญ่ กินไอติมร้าน Torry ทานอาหารและชมวิวร้าน Sea Salt Lounge & Grill บุกไปชิมร้านสุดฮิต Feelsion มันจะสนุกแค่ไหน ตามไปรับชมรีวิวกันครับ
เชิญรับชมคลิปกันก่อนนะ
ทริปนี้เราเดินทางกันด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มีเลาจน์ให้นั่ง มีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ ถือว่าเป็นสายการบินที่บินสบายที่สุดละสำหรับการเดินทางไปภูเก็ต
มาถึงเราก็เดินทางไปเที่ยวที่แรกก่อนเลย คือ บ้านตีลังกา ภูเก็ต The Upside Down House
ก็จะมีมุมถ่ายภาพเก๋ๆให้ถ่ายภาพกัน
สนุกสนานกันไป
ทำครัวกลับหัวก็ได้นะ
ถึงจะสนุกสนานในการถ่ายภาพระดับหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับบ้านกลับหัวที่พัทยา หรือนครปฐมแล้ว ของภูเก็ตนี่จะถ่ายยากกว่านะ เพราะบางสถานที่มันยืนไม่ได้ เป็นกรอบกระจกซะเยอะ
ที่จริงยังมีเขาวงกต และเล่นหาทางออกจากห้องด้วยนะ มาชมคลิปกันจ้า
เนื่องจากที่เที่ยวของเราจะอยู่ในตัวเมืองเยอะ เราเลยเลือกพักห้องพักภูเก็ตที่โรงแรมโนโวเทล ภูเก็ต โภคีธรา (Novotel Phuket Phokeethra) ซึ่งถือว่าเป็นเครือ Accor และเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในตัวเมืองแล้วครับ
มาชมล็อบบี้กัน สีสันสดใสดีครับ
ห้องพักของเราเป็นแบบ Executive Suite ห้องใหญ่มาก เข้ามาก็จะเจอกับโซนห้องนั่งเล่นก่อนเลย
ห้องนอนมีห้องเดียวนะครับ แต่มีที่เสริมเตียงให้เด็กๆได้ ราคาเริ่มต้นที่แปดพันกว่าๆ ถ้ามาช่วงสุดสัปดาห์จะรวมอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์ติ่มซำหัวละ 650++ บาทไว้ด้วยนะ (มีภาพด้านล่าง) ซึ่งถือคุ้มมากๆ
ทางเชื่อมระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นจะเป็นตู้เสื้อผ้า
และจะมีห้องน้ำที่มีอ่างแช่ตัวสวยๆอยู่ด้วย
อีกฝั่งจะเป็นห้องขับถ่ายและห้องอาบน้ำ
เนื่องจากเป็น City Hotel สระว่ายน้ำที่นี่จึงไม่ใหญ่มากนัก
แต่ไม่ต้องกังวลนะ เด็กๆและครอบครัวก็เล่นน้ำอย่างสนุกสนานได้เช่นเคย
มารับชมความสนุกกันครับ
ข้างๆสระว่ายน้ำจะมีฟิตเนสเซ็นเตอร์ด้วย
ด้วยความที่ทุกคนหิว ไม่อยากเสียเวลาออกไปหาอะไรทาน เลยจัดการรองท้องที่ห้องอาหาร AMOR ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรมเลย
มาดามแอนขอทานอะไรเบาๆอย่างสลัดกุ้งย่างเสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดวาซาบิ ราคา 250++ ที่โรงแรมใช้กุ้งลายเสือไซส์ใหญ่ย่างมาหอมๆ ขอบอกเลยว่าเนื้อแน่นมาก
จานของเด็กๆของสั่งสปาเก็ตตี้คาโบน่าร่าจานเดียวแบ่งกันทานก็พอ ราคา 310++ ผัดมาได้เข้มข้นรสชีวมากๆ แถมใส่เบคอนมาเพียบ
ส่วนผมนั้นขอทานอะไรง่ายๆอย่างเบอณ์เกอร์เนื้อ ราคา 210++ จริงๆที่ห้องอาหารนี้มีเมนูแนะนำอีกหลายอย่างทั้งสปาเก็ตตี้หมูฮ้อง ที่นำเอาเอกลักษณ์อาหารท้องถิ่นของชาวภูเก็ตมาปรุงเป็นเมนูอร่อยๆให้พวกเราได้ลิ้มลองด้วย
วันนี้ทั้งวันหมดแรงกับการเที่ยวเล่นและว่างน้ำ มื้อเย็นพวกเราเลยเดินข้ามถนนไปทานอาหารจีนที่ภัตตาคารแหลมทอง (อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมโนโวเทล ภูเก็ตเลย) ซึ่งเป็นภัตตาคารอาหารจีนที่ขึ้นชื่อและเก่าแก่คู่เมืองภูเก็ตเลย เพราะเปิดให้บริการกันมายาวนานกว่า 40 ปี ขอบอกว่ามาร้านนี้ไม่ต้องกลัวจะเจอทัวร์จีนนะ เราจะเจอแต่อาเจ๊กอาแปะที่มาสังสรรทานโต๊ะแชร์กัน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่การันตีได้ เพราะบรรดาคนเล่นแชร์จะเลือกทานร้านไหนประจำแปลว่าร้านนั้นต้องอร่อยเด็ดและราคาดีงามขอการันตีว่าไม่แพงจ้ะ
มาที่นี่ต้องไม่พลาดเมนู ไก่ย่างไฟแดง ราคา 550 บาท ที่เอาไก่ไปย่างให้หนังกรอบ แต่ก็ไม่ได้กรอบเท่าเป็ดปักกิ่งนะ ย่างแล้วทางร้านจะแล่มาเสิร์ฟแบบในรูปให้ห่อกับแป้งใส่ผัก ราดซีอิ้วหวานๆ อร่อยเหาะเลย
ออส่วนกะทะร้อน สั่งเป็นจานเล็กราคา 180 บาท
ผัดซีอิ้วทะเล ราคา 150 บาท
เต้าหู้ผัดพริกเกลือ ราคา 100 บาท
พอตกค่ำๆ บริเวณโรงแรมโนโวเทล ภูเก็ต โภคีธรา (Novotel Phuket Phokeethra) เปิดไฟสวยดีครับ
สำหรับใครที่อยากดื่มก็แนะนำให้ขึ้นไปที่ Estrela Sky Lounge ซึ่งเป็น Rooftop Bar แห่งเดียวในตัวเมืองภูเก็ตเลย
วิวด้านบนมองเห็นตัวเมืองภูเก็ต สวยสุดๆไปเลย
ในส่วนของอาหารเช้านั้น ยอมรับเลยว่าตื่นเต้นกับอาหารเช้าของที่นี่มากๆ เพราะก่อนไปเที่ยวได้ข่าวว่าเค้าเพิ่งเปิดบริการอาหารเช้า BONAP ที่มีติ่มซำกุ้งมังกรด้วย
ในส่วนของราคาก็เร้าใจสุดๆ เพราะ BONAP ลดราคา 50% กันเลยจากราคาเต็ม 650++ ลดแล้วเหลือเพียง 383 บาทเน็ต ราคานี้รวมเครี่องดื่มน้ำผลไม้ ชา กาแฟแล้ว บุฟเฟ่ต์ติ่มซำตอนเช้านี้จัดแค่วันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้นนะ สำหรับลูกค้าที่จองพักโรงแรมวันเสาร์อาทิย์ก็ได้สิทธิ์ทานฟรีติ่มซำบุฟเฟ่ต์นี้ด้วย ตอนที่พวกเราไปพักนั้นได้ข่าวว่าจะมีขยายระยะเวลาโปโมชั่นนี้ ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจ แนะนำให้สอบถามโรงแรมเพื่ออัพเดทอีกทีละกันนะ
ในส่วนของติ่มซำจะเสิร์ฟเป็นถ้วยๆแบบนี้ ซึ่งนึ่งสดๆกับที่ระเบียงห้องอาหารเลย ไฮไลท์มีทั้งติ่มซำกุ้งมังกร ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งมังกร เอาตามตรงทานแต่ติ่มซำจนไม่สนใจไลน์อาหารเช้าปกติของโรงแรมเลย 555
เป็ดย่างและหมูกรอบก็อยู่ในบุฟเฟ่ต์ติ่มซำนะ ทีเด็ดคือหมูกรอบย่างมาหอมๆหนังกรอบมาก
รูปนี้เป็นอาหารเช้าจากไลน์ปกติของเช้าวันจันทร์ ที่ไม่มีติ่มซำให้ทานแล้ว 555
The Feelsion Café เป็นอีกหนึ่งร้านที่อยากแนะนำที่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไหร่ ขับรถประมาณ 10 นาทีเท่านั้น เมื่อมาถึงก็จะเห็นด้านนอกร้านที่มีรูปร่างสะดุดตา เชื่อว่าใครๆก็อยากมาถ่ายรูปกัน
เข้ามาในร้านยิ่งสวยเก๋เข้าไปอีก เครื่องตกแต่งจะออกแนววินเทจย้อนยุคนิดๆ บางโซนก็ดูดิบๆ แต่ยังให้ความรูปสึกโปร่งโล่งสบาย
ส่วนตัวผมชอบมุมนี้ เพราะรู้สึกว่าการ Present แบบนี้ทำให้ดูน่าทานไปหมด อยากทานไปเสียทุกอย่าง
ที่ร้านฟีลฉัน มีขายทั้งอาหารคาวและอาหารหวานนะ และเนื่องจากโปรแกรมกินของพวกเราแน่นมาก เลยขอเลือกทานอะไรง่ายๆ ก็เลยสั่งหมูโสร่ง หรือหมูสร่ง ส่วนตัวรสชาติใช้ได้ แต่ราคาสูงไปนิดนึง
อีกจานเป็นสปาเก็ตตี้ซอสเขียวหวานทานกับกุ้งโสร่ง จานนี้ไม่ค่อยประทับใจเพราะเส้นค่อนข้างอืดและซอสข้นมากเกินไป รสชาตหวานมากๆ แต่กุ้งทอดอร่อยนะ
ส่วนใหญ่เห็นคนอื่นมาเช็คอินแล้วทานแต่ของหวาน เราก็ไม่พลาดจ้ะ สั่งเคร่องดื่มสีสวยมา 2 แก้ว แก้วซ้ายมือชื่อเครื่องดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ เป็นบลูโซดาท็อปปิ้งด้วยไอศกรีมกระเจี๊ยบแล้วราดน้ำผึ้งอีกชั้น รสชาติดีเที่ยวมาร้อนๆเหนื่อยๆนี่สดชื่นเลย อีกแก้วชื่อเรนโบว์เป็นน้ำหวานโซดาหลากสี
ลูกชุบจัดใส่หาบมาอย่างน่ารัก ขาย 3 ลูก 20 บาท ขนมที่เป็นดอกไม้คือขนมผกากรองที่ด้านในสอดไส้ด้วยทองหยอด ชิ้นละ 20 บาท ขนมฝรั่งก็มีนะลองทานสตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก น้องเกรซบอกอร่อย
ทุกๆเย็นวันอาทิตย์ในภูเก็ต ที่ถนนถลางจะปิดถนนจัดเป็นถนนคนเดินที่เรียกว่าหลาดใหญ่ เริ่มตั้งแต่ 17.00 น.เป็นต้นไป
ที่หลาดใหญ่ก็จะมีชองขายเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งเสื้อผ้า ของเล่น ของทำมือ ของฝาก
และไฮไลท์ที่ดึงดูดคนมาเดินเที่ยวหลาดใหญ่กันอย่างคับคั่งนั่นคือบู๊ทขายอาหาร คือเราเดินๆดูแล้วอยากทานมันซะทุกร้านเลย มีทั้งซีฟู้ดสดๆ เครื่องดื่มอร่อยๆ อาหารพื้นเมือง เรียกว่าที่นี่มีทุกสิ่งครบเลย เพราะทางเทศบาลเค้าคัดร้านมาด้วยนะ แต่ละร้านห้ามขายซ้ำกัน เลยทำให้ยิ่งน่าเดินเข้าไปใหญ่
อีกร้านที่น่าแวะถ้าได้มาเที่ยวย่านเมืองเก่า ซอยรมณีย์ เรียกว่าห้ามพลาดร้าน Torry Ice Cream ที่มีเมนูแปลกใหม่ มีการนำเอาขามหวานพื้นเมืองภูเก็ตมาสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลอง ที่สำคัญราคาไม่ได้แพงมาด้วย
ไอศกรีมโอวเอ๋ว และไอศกรีมข้าวเหนียวมะม่วง
มื้อเย็นถ้าอยากชิลล์ๆจิบเครื่องดื่มดูพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ หรือจะจัดหนักอาหารกริลล์ซีฟู้ดส์ฟิวชั่นมื้อดีๆสักมื้อ แนะนำว่าควรมาลอง Sea Salt Lounge & Grill รับรองว่าถูกใจแน่นอน
แค่ก้าวขาเข้ามาในร้านพวกเราก็ต้องร้องว๊าวกับวิวริมหาดกะหลิมสวยๆ ถ้าให้ดีควรมาก่อนเวลาสักเล็กน้อย แถมช่วงเวลา 17.30-19.00 น. ทางร้านยังมีโปรโมชั่นลด 50% สำหรับการสั่งเครื่องดื่มชมวิวพระอาทิตย์ตกดินด้วย
หาดกะหลิมจะเป็นหาดทรายที่มีโขดหินแบบนี้ จิบเครื่องดื่มไปฟังเสียงคลื่นซัดสาดรอแสงสวยๆ ถือว่ามาถ่ายรูปที่นึงเลยล่ะ
มาดามเธอทนไม่ไหว ขอให้ช่วยถ่ายรูปให้เสียหน่อย แสงนวลมากๆ
ส่วนเด็กๆก็ไม่ได้หายไปไหน เพราะที่ร้านมีหาดทรายจำลองกว้างๆแถมปลอดภัยเพราะแยกโซนกับทะเลและโขดหินกันเลย สามารถให้เด็กๆได้เพลินแบบไม่ต้องกวนใจถ้าพ่อแม่จะมาโรแมนติกกันแบบที่ต้องกระเตงลูกมาด้วยนะจ๊ะ
ชมวิวกันเต็มอิ่มแล้วเรามาเริ่มสั่งอาหารกันดีกว่า ถ้ามาทานอาหารทางร้านก็จะมีเสิร์ฟขนมปังอบร้อนๆ มาวางตรงหน้าให้ได้รองท้องระหว่างรออาหารกัน ขอบอกว่าขนมปังอร่อยมาก
มาร้านนี้ต้องไม่พลาดสั่ง Phad Thai Lobster ราคา 1,150 บาท เสิร์ฟมาทีนี่อยากจะรีบตักทานเลย เพราะกุ้งมังกรตัวใหญ่มาก จัดจานมากอย่างสวยงาม พรีเซนต์ได้ดีสุดๆ ที่สำคัญรสชาติดีและเข้มข้นแบบกล้าการันตีให้มาทานกันเลย
Tomahawk เนื้อชิ้นโตขนาด 1.2 กิโลกรัม ราคา 2,950 บาท ที่เห็นสั่งกันแทบทุกโต๊ะ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักเนื้อก็ว่าได้ เมนูนี้ทุกคนในโต๊ะลงความเห็นว่าดีงาม เนื้อนุ่ม ย่างมาถูกใจมากๆ
ที่ Sea Salt Lounge & Grill เค้าเป็นครัวแบบเปิดนะ เสน่ห์อีกอย่างคือการได้เห็นเชฟลงมือปรุงอาหารสดๆให้เราเห็นเลย นี่แวะไปดูมา ก่อนลงเตาปูยังชูก้ามทักทายพวกเราอยู่เลย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเนื้อสดจะหวานแค่ไหน
Grilled Seafood ราคา 3,685 บาท ในนี้มีทั้ง ล็อปสเตอร์ กุ้งลายเสือ ปลาหมึก ปู ปลา และหอย เรียกว่ายกกันมาทั้งทะเล และที่สำคัญทั้งหมดนี้สดๆทั้งนั้นจ้า
การมาเที่ยวภูเก็ตแต่ละครั้ง สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการได้ลองชิมอาหารท้องถิ่น และแน่นนอนว่าพวกเราก็ไม่พลาด ก่อนกลับบ้านไปลุยงานต่อพวกเราแวะร้านวันจันทร์ ร้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ตที่เรียกว่าแขกใครไปมาต้องแวะทานร้านนี้กันแทบทุกคน
แกงปู เป็นเมนูดึงดูดให้ใครต่อใครได้แวะมาลิ้มลอง เสน่ห์ของแกงปูที่ภูเก็ต เด็ดตรงใช้เครื่องแกงใต้ที่ใช้พริกเหลือง ทำให้แกงมีสีสันน่าทาน และมาถึงถิ่นติดทะเลแบบนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องความสดของวัตถุดิบเลยค่ะ
สะตอผัดกะปิกุ้งสด เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ชอบทานมากๆ
หมูฮ้อง สามชั้นหนานุ่มชิ้นโต เคี่ยวกับเครื่องเทศชั้นดี จนหมูนุ่มละลายในปาก บอกเลยว่าคลุกข้าวสวยร้อนๆทานยิ่งเด็ด
ส่วนเด็กๆที่ทานเผ็ดไม่ได้ เค้าก็มีลูกชิ้นปลาภูเก็ต ที่เป็นของดีขึ้นชื่อเมืองภูเก็ตให้ได้ลิ้มลองกันด้วย
สายเฮลท์ตี้มาร้านนี้ก็ไม่ต้องกลัวอด เพราะเค้ามีชุดน้ำพริกที่ตำกันสดๆให้ได้ทาน เซ็ตน้ำพริกวันจันทร์ เสิร์ฟทั้งน้ำพริกกุ้งเสียบและน้ำพริกไข่ปู ทานกับผักสดกรอบหลายชนิด แถมมีสามชั้นคั่วเกลือเสิร์ฟมาด้วย
เบือทอด เป็นเมนูใหม่เอี่ยมของทางร้านที่อยากแนะนำ เกิดมาเพิ่งเคยลองทานครั้งแรกก็ที่นี่แหละ ที่เห็นเป็นแพๆคือหญ้าช้องนาง กับกุ้งชุบแป้งทอด ทานกับน้ำจิ้มหวานมีรสเปรี้ยวนิดหน่อย อร่อยเลย ถ้าไปช้าอาจหมดนะคะ เพราะหญ้าช้องนางหายากจ้า
สามชั้นคั่วเกลือ ของโปรดเด็กๆเลย
และทั้งหมดนี้ คือการเที่ยวภูเก็ตแบบเน้นตัวเมืองของครอบครัวเรา หวังว่าคงจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทุกคนนะ วันนี้ลาไปก่อนแล้ว บะบายยย
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป