ความเดิมตอนที่แล้ว
ขับรถเที่ยวยุโรปตะวันออกด้วยตัวเอง : 6 ชีวิต คน 3 รุ่น อายุ 2 ขวบยัน 65 ปี กับ 14 วัน 2,500 km พิชิต 4 ประเทศ 11 เมือง ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน
ตอนที่แล้วผมได้เกริ่นนำการเดินทางของทริปนี้ ซึ่งเป็นการเดินทางแบบครอบครัวที่มีทั้งเด็กเล็กและคุณพ่อคุณแม่สูงวัยออกท่องเที่ยวไปยังยุโรปตะวันออก 4 ประเทศ ด้วยงบประมาณที่แสนประหยัดโดยที่ไม่อดอยาก แต่พักสบาย เที่ยวกระจุย กินกระจายไปแล้ว ซึ่งได้เล่าบอกเรื่องราวการเดินทาง และเคล็ดลับความประหยัดต่างๆไปแล้ว
ตอนนี้ผมจะเริ่มเล่าเรื่องราวฉบับเต็มแต่ละประเทศ แต่ละเมืองโดยละเอียด โดยเมืองแรกก็คือ กรุงปราก Prague ซึ่งเป็นเมืองแรกที่เราเดินทางไปถึงครับ
จะว่าไปแล้ว ในทริปครั้งนี้ที่ครอบครัวของผมออกเที่ยวยุโรปตะวันออกด้วยตัวเองมาทั้งหมด 11 เมือง หากมีใครถามผมว่าผมชอบเมืองไหนที่สุด ผมขอบอกว่า ปราก Prague นี่แหละ เป็นหนึ่งในเมืองที่ประทับใจที่สุดของการเดินทางครั้งนี้
ค่ำคืน 9 เม.ย. พวกเราออกเดินทางด้วยสายการบิน Ukraine International Airlines หรือ UIA ซึ่งเพิ่งจะเปิดเส้นทางบินจากกรุงเทพไปลงปรากได้ไม่นาน แต่เที่ยวบินนี้ต้องไปแวะเปลี่ยนเครื่องที่ กรุงเคียฟ Kiev ประเทศยูเครนก่อนนะครับ
หากไม่ใช่ด้วยราคาเพียง 23,xxx บาทซึ่งถือว่าประหยัดมากสำหรับการเดินทางไปยังทวีปยุโรป ผมคงไม่มองสายการบิน UIA นี้เลย บอกตามตรงว่าตอนจองก็รู้สึกหวั่นใจไม่น้อย เนื่องจากเป็นสายการบินที่ไม่มีชื่อเสียง หรือรีวิวให้อ่านเลย
ตอนนี้เลยขอรีวิวสายการบินนี้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่คิดจะเดินทางด้วยสายการบิน Ukraine International Airlines ด้วยเลยแล้วกันครับ
เครื่องบินของ Ukraine International Airlines ใช้เครื่องบินไม่ใหญ่นัก ไม่เก่าไม่ใหม่ ไม่มี Personnel TV มีเพียงหูฟังให้ มีการเปิดฉายหนังจากจอรวมของเครื่องบิน
แจก Snacks และเครื่องดื่ม 1 ครั้ง และอาหารอีก 1 ครั้ง รสชาติแย่เล็กน้อย การบริการโดยรวมก็พอรับได้ครับ แต่ที่ชอบมากคือเวลาการเดินทางที่ออกจากกรุงเทพดึกๆ ทำให้สามารถหลับบนเครื่องได้ไม่ยาก และถึงจุดหมายในเวลาที่สามารถเที่ยวต่อได้ทันที นั่นหมายความว่าเราสามารถประหยัดที่พักไป 1 คืนด้วย หากเทียบกับราคาสองหมื่นต้นๆแบบนี้ ถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียวครับ
วิธีเข้าเมืองจากสนามบิน
การเดินทางไปยังปรากนั้นสามารถเดินทางได้ทั้งเครื่องบินและรถไฟ หากเดินทางด้วยเครื่องบินจากไทยจะมาลงที่ Prague Airport ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของตัวเมือง ถึงแม้ว่าปรากจะมีระบบขนส่งทางรถไฟและรถไฟใต้ดิน (Metro) แต่ว่าระบบขนส่งทั้ง 2 ไปไม่ถึงสนามบิน ดังนั้นการเดินทางจากสนามบินไปสู่ใจกลางเมืองนั้นสามารถทำได้โดยรถบัสและ Airport Express Bus เท่านั้น
รถบัสให้บริการจากสนามบินไปยังกลางเมืองอยู่หลายสายดังนี้
- สาย 119 ให้บริการทุกๆ 5 – 20 นาที โดยรถบัสจะให้บริการไปจนถึง Metro สาย A สถานี Dejvicka ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
- สาย 100 ให้บริการทุกๆ 15 – 30 นาที โดยรถบัสจะให้บริการไปจนถึง Metro สาย B สถานี Zlicin ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- สาย 225 ให้บริการไปจนถึง Metro สาย B สถานี Stodulky ใช้เวลาประมาณ 40 – 55 นาที
- สาย 179 ให้บริการทุกๆ 12 – 30 นาที โดยรถบัสจะให้บริการไปจนถึง Metro สาย B สถานี Nove Butovice ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
- สาย 510 ให้บริการเฉพาะตอนกลางคืน (24.00 – 03.30) เท่าั้นั้น โดยรถบัสจะให้บริการไปจนถึง Tram Stop Stodulky ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
การเดินทางโดยรถบัสสาย 119 และ 100 น่าจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด หากต้องการเดินทางเข้าสู่กลางเมืองสาย 119 น่าจะสะดวกกว่า ในขณะที่สาย 100 จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปด้านตะวันตกของเมือง
ตั๋วโดยสารนั้นจะมีขายที่ร้านค้าหรือว่า Transportation Counters ที่ Terminal 1 และ 2 ช่วงเวลาประมาณ 07.00 – 22.00 หากมาถึงสนามบินในช่วงเวลาที่ร้านปิดต้องไปซื้อตั๋วที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ ซึ่งตั้งอยู่ที่ป้ายรถบัสด้านหน้าของสนามบิน (ถ้าจำไม่ผิดเครื่องจะไม่ทอนเงินในกรณีที่จ่ายเกิน) หรือซื้อกับคนขับรถซึ่งส่วนใหญ่จะไม่รับแบงค์ใหญ่ เนื่องจากไม่มีทอน
ในส่วนของ Airport Express Bus นั้นจะมีให้บริการทั้งที่ Terminal 1 (Exit D) และ 2 (Exit E) โดยจะมีเส้นทางวิ่งผ่านทั้งสถานนี Metro และสถานีรถไฟ ดังนี้ Metro สาย A สถานี Dejvicka -> Masarykovo Train Station -> Main Train Station (Hlavní nádraží) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ค่าโดยสารจะแพงกว่ารถบัสปกติเล็กน้อย
แต่ถ้าเดินทางมาเป็นแบบครอบครัวแล้วไม่ต้องการแบกกระเป๋า เลือกวิธีแบบผมเลยครับ จองรถตู้ส่วนตัวไปส่งที่โรงแรมเลย เค้าคิด 25.3 ยูโร หรือประมาณ 1,130 บาท แพงกว่าแต่ส่งถึงหน้าโรงแรม ไม่ต้องแบกกระเป๋าครับ
https://www.prague-airport-transfers.co.uk/zakaznik/index.php?sekce=cesta&id_objednavky=&cesta[typ_objednavky]=transfer_z_letiste
ครอบครัวผมมีเวลาประมาณ 2 วันครึ่งในการเที่ยวปรากครั้งนี้ อีกทั้งยังเป็นการเดินทางแบบมีเด็กเล็กและคุณพ่อคุณแม่ที่สูงวัยด้วย เราจึงเลือกที่จะท่องเที่ยวเฉพาะใจกลางเมืองปรากเท่านั้น
ผมตั้งใจเลือกที่พักคือ Charles Bridge Apartment ที่อยู่ใกล้กับสะพานพระเจ้าชาร์ลส์ เพราะจะได้เดินเที่ยวได้สะดวก และผมอยากจะออกมาเก็บภาพสะพานนี้ช่วงเช้าด้วย จึงเลือกที่พักที่ใกล้ๆกัน จะได้ใช้วิธีเดินมาได้อย่างรวดเร็วในช่วงเช้าพระอาทิตย์ขึ้น
วันแรก ผมเลือกที่จะใช้วิธีเดินเที่ยว โดยหลักๆคือ สะพานพระเจ้าชาร์ลส์ Charles Bridge และเดินข้ามไปเที่ยวยังจัตุรัสเมืองเก่า Old Town Square (Staromestske Namesti) แล้วเดินเก็บภาพยามเย็นบริวเณสะพาน
วันที่สอง เปิด Bus Pass 24 ชั่วโมง ราคาคนละ 110 CZK ขึ้นรถแทรม ไปชมวิวมุมสูงของเมืองที่ Petrin Tower แล้วนั่งรถไปเที่ยวต่อที่ปราสาทปราก Prague Castle เย็นๆไปชมวิวโค้งน้ำที่สวยที่สุดที่ Letenske sady
วันที่สามไม่เร่งรีบ ไปรับรถเช่าพร้อมเดินทางต่อไปยัง Cesky Krumlov
เมืองปรากเป็นประเทศคอมมิวนิสต์เก่าครับ เพิ่งจะเปิดประเทศมาไม่นาน ทำให้ค่าครองชีพต่างๆจะไม่สูงเท่าไหร่ ซึ่งถ้าชมข้อมูลจากรีวิวจะเห็นได้เลยว่าค่าที่พัก ค่าอาหารแทบจะพอๆกับประเทศไทยเลย
มาชมที่พักของเรากันบ้างครับ
แม้งบประมาณจะเน้นประหยัด แต่เราต้องพักสบายครับ ทุกที่พักที่เลือก จะสามารถนอนกันสบายๆ ต้องมี Living Room กว้างๆ มีชุดครัวพร้อมด้วย ไปชมรีวิวที่พักของ Charles Bridge Apartment กันเลยครับ
ครัวพร้อมอุปกรณ์เตาไฟฟ้า เตาอบไฟฟ้า ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องปิ้งขนมปัง หม้อกระทะ พร้อมทำอาหารครับ
ห้องนอนมี 2 ห้องอยู่ชั้น 2 และมีเตียงที่ห้องรับแขกอีกเตียง นอนกัน 6 คนสบายๆ
ห้องน้ำมีเครื่องซักผ้าด้วยนะ ทั้งหมดที่เห็น สามารถพักได้ในราคา 160 Euro / 3 คืน หรือประมาณ 2,316 บาทต่อคืน พักกันได้ตั้ง 6 คน ใหญ่โตขนาดนี้ ถ้ามากันเป็นเพื่อนฝูง หารแล้วเหลือคืนละ 386 บาทต่อคนต่อคืน แหม…ประหยัดสุดๆครับ
เก็บกระเป๋าเดินทางและสัมภาระเข้าที่พักเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเที่ยวกันเสียที จากที่พักห่างจากสะพานพระเจ้าชาร์ลส์ Charles Bridge 5 นาที
เดินแปปเดียวก็มาเจอวิวสวยๆใต้สะพาน มีคนเอากุญแจมาล็อกด้วยอ่ะ ฮิตกันเหลือเกินไปที่ไหนก็เจอ
หอคอยปลายสะพานดูขึงขังน่าดู
เก็บภาพครอบครัวเสียหน่อย สะพานนี้คนเยอะทั้งวันเลยครับ อาตี๋น้อยกายอารมณ์ดีสุดๆ
สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสะพานเก่าแก่สไตล์โกธิกที่ทอดข้ามแม่น้ำวัลตาวาที่เชื่อมระหว่าง Old Town และ Little Town สะพานสร้างในปี 1357 ในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 มาเสร็จสมบูรณ์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 มีความยาว 520 เมตร กว้าง 10 เมตร มีตอม่อค้ำยัน 16 ตอ จุดเด่นของสะพานนี้ก็คือรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญสไตล์บารอกที่ตั้งอยู่สองข้างสะพานราว 30 องค์ ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้มีรูปปั้นของเซนต์จอห์น เนโปมุก (St. John Nepomuk) เป็นรูปปั้นที่เก่าแก่ที่สุดบนสะพาน สร้างเมื่อปีค.ศ. 1683 สะพานแห่งนี้เปรียบเสมือนเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของกรุงปราก
ทริปนี้เหมือนพาคุณพ่อคุณแม่มาฮันนีมูนอีกครั้งครับ เห็นภาพแบบนี้แล้วปลื้มใจ
เดินมาสุดปลายสะพาน ลงมาถ่ายภาพริมแม่น้ำวัลตาวา วิวด้านหลังไกลๆสามารถมองเห็นปราสาทปราก Prague Castle ได้ด้วย
พ่อตาแม่ยายผมหวานออกสื่อตลอด น่ารักมากเลย
ทริปครอบครัวมาถึงวันแรกก็สนุกแล้วครับ
Kostel svatého Františka z Assisi อยู่ปลายสะพานด้านเมืองเก่า
ออกเดินกันต่อไปยังจัตุรัสเมืองเก่า Old Town Square (Staromestske Namesti)
ขอแวะเติมพลังกันก่อนนะครับ มาเที่ยวทั้งทีจัดเต็มครับ ไม่มีงกจ้า สั่งมิกซ์กิลล์
สเต็กปลาแซลมอน
กับพาสต้าหมู (มีปูทอดอีกจาน ดันไม่ได้ถ่ายภาพ) กินทั้งหมดพร้อมเครื่องดื่มน้ำอัดลม อิ่มแปร่ 1,075 CZK
อิ่มอาหารคาวกันแล้ว น้องเกรซเจอร้านไอติม โคนละ 20 CZK (34 บาท) จัดไป 3 โคนครับ
เดินมาประมาณ 10 นาที เจอแล้วจ้า จัตุรัสเมืองเก่า
พ่อตาแม่ยายผม วันนี้ดูจะมีความสุขมาก หวานจนลูกหลานอดยิ้มตามไม่ได้
Old Town Hall Tower
ทีเด็ดของที่นี่คือ นาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) โดยทุกๆชั่วโมง นักท่องเที่ยวจะมาคอยดูนาฬิกาเรือนนี้ เพราะจะมี Activity เล็กๆคือ ตุ๊กตาหุ่นอัครสาวกทั้ง 12 องค์จะเริ่มออกมาเต้นรำ ว่ากันว่านาฬิกาเรือนนี้จะหยุดเดินทุกครั้งที่มีเหตุการณ์วุ่นวายในเมืองปราก เช่น การปฏิวัติครั้งใหญ่ของปราก
เปิดให้ขึ้นไปชม 9.00-20.00 น.
ค่าขึ้นไปชม 105 CZK
ขึ้นมาชมบนหอคอย วิวหลังคาบ้านสีส้มๆของเมืองนี้มันสวยจริงๆ มองไปไกลๆเห็นปราสาทปรากด้วยอ่ะ
ชมมุมสูงจัตุรัสเมืองเก่า Staromestske Namesti ที่นี่ถือเป็นสถานที่บังคับที่ใครมาปรากแล้วต้องมาเดินเที่ยวกันที่นี่ ไม่งั้นเรียกว่ายังมาไม่ถึงปราก ที่เห็นโดดเด่นกว่าใคร ก็คือ Church of Our Lady Before Tyn หรือ โบสถ์แม่พระ
รักครอบครัวมากๆ แล้วครอบครัวก็จะรักเราครับ ความสุขในชีวิตหาได้จากครอบครัวครับ ไม่ต้องหาที่ไหนไกลเลยครับ
รอบจัตุรัสมีโบสถ์สวยๆอยู่หลายโบสถ์ครับ ที่มองเห็นไกลๆคือ โบสถ์เซ็นต์นิโคลัสแห่งที่ 2 ครับ ส่วนรูปปั้นที่อยู่กลางจัตุรัสคือ ยาน ฮุส ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษของชาติ ซึ่งคำสลักด้านใต้ของอนุสาวรีย์ว่า “สัจธรรมจะยั่งยืน”
ช่วงที่ผมไปตรงกับเทศกาล Easter เลยมีตลาดนัดมาขายกันตรงจัตุรัสเมืองเก่า ผู้คนมาเดินเล่นเยอะไปหมดเลย บรรยากาศคึกคักไม่น้อย
เอ้า แบบนี้มันต้องกระโดดถ่ายรูปให้ฝรั่ง งงไปเลย
สำหรับใครที่ไม่เหนื่อยสามารถเดินไปเที่ยวต่อที่ Power Tower ได้นะครับ ส่วนครอบครัวผมมีเด็กเล็กและ สว. แถมเดินทางมาโดยเครื่องบินมาด้วย เลยตัดสินใจพักผ่อนกันดีกว่า
หลังจากให้สมาชิกลูกทัวร์กลับไปที่พักแล้ว ผมก็เดินเที่ยวถ่ายภาพคนเดียวแถวๆสะพานนี่แหละครับ มุมนี้ขึ้นหอคอยปลายสะพานมา
หอคอยสะพาน Stare Mesto Bridge Tower
ผมเหม่อมองดูผู้คนเดินข้ามสะพาน Charles Bridge คนแล้วคนเล่า ยืนทอดอารมณ์อยู่ตรงจุดนี้เนิ่นนาน ถึงจะเป็นมุมเดิมๆ แต่ก็แปลกที่ไม่รู้สึกเบื่อสักเท่าไหร่
เรือล่องแม่น้ำวัตตาวา (Vltava) ผ่านสะพานไปเป็นระยะๆ ฟ้าเปลี่ยนจากสว่างเป็นมืดลง Prague Castle เริ่มเปิดดวงไฟทำให้ตัวปราสาทยิ่งเด่นชัดขึ้นมาทันใด
เปิด 10.00-22.00 น.
ค่าขึ้น 75 CZK
ช่วงฟ้าเปลี่ยนสี Charles Bridge จะสวยที่สุด แถมได้ Background เป็นปราสาทปรากด้วยบอกตรงๆว่า สวยจนตะลึงครับ
ต่างประเทศก็เหมือนประเทศไทยครับ ถ้าคุณกินอาหารตามร้านย่อมแพงกว่าซื้อของจากตลาดไปทำเอง เนื่องจากเราเตรียมพวกเครื่องปรุงที่จำเป็นมาจากประเทศไทยแล้ว เราก็ขาดแค่ของสดเท่านั้น ไปสอยมาตาม Supermarket ถูกมากครับ
ยิ่งประเทศเช็ก ข้าวของที่นี่แทบจะราคาแพงกว่าไทยนิดเดียวเอง
ส่วนสตอเบอรรี่นี่ถูกกว่าไทยเยอะครับ ถาดใหญ่กว่าลูกแตงโม แค่ 200 บาท อร่อยด้วยอ่ะ สุดยอด
เบียร์ยิ่งถูกครับ กระป๋อง 500 ml แค่ไม่ถึง 35 บาท
ครอบครัวผมโชคดีที่พกแม่ครัวมือฉมังไปด้วยถึง 2 คน คุณแม่ยายและคุณศรีภรรยา รับหน้าที่ทำอาหารมื้อเช้าและเย็น ให้เรากินตลอด 14 วัน
เราห่างบ้านห่างเมืองมา หากต้องกินเบอร์เกอร์ 14 วัน ผมคงขาดใจตายครับ
แต่วิธีนี้ ทั้งครอบครัวได้กินอาหารไทยอร่อยๆทุกวัน อร่อย แถมประหยัดสุดๆครับ
สำหรับคนที่ทำอาหารไม่เป็น คุณสามารถใช้วิธีเดียวกันคือไปซื้ออาหารกึ่งสำเร็จรูปมาทำกินเองง่ายๆ ก็ช่วยประหยัดได้เยอะอย่างแน่นอนครับ
ค่ำคืนแรกของการเดินทางผ่านไป ผมรีบตื่นแต่เช้าแล้วรีบออกไปเก็บภาพที่สะพาน Charles Bridge
ช่วงเช้าๆจะเป็นช่วงเดียวที่คนบนสะพานน้อยครับ ฉากหลังดูเคร่งขรึมมาก ขอ Process หลายๆอารมณ์ให้รับชมกันนะครับ
อากาศตอนเช้าที่นี่ค่อนข้างหนาวเย็นครับ เวลาเราที่อยู่เมืองไทยเวลาเจอแดดส่องมาต้องรีบหลบ แต่ที่นี่เจอแดดต้องรีบวิ่งเข้าใส่ครับ แดดอ่อนๆยามเช้าที่นี่ แปลกดีครับ เพราะนอกจากจะให้ความอบอุ่นแล้ว ยังมอบความสุขให้กับคนที่ยืนรับแสงด้วยครับ
ฟ้าสว่างแล้ว รีบกลับไปหม่ำข้าวเช้าดีกว่า
อาหารเช้าวันนี้ แม่ครัวของพวกเราทำกับข้าวง่ายๆ ทานกับข้าวต้มร้อนๆ มีขนมปังที่เก็บมาจากเครื่องบินมาทานกันครับ
อิ่มท้องกันแล้ว ก็เริ่มออกเที่ยวปรากวันที่สองกันเลย เช้านี้ตั้งใจจะไป Petrin Tower ครับ ระหว่างทางต้องเดินผ่าน Lesser Town ถนนสายท่องเที่ยวสำคัญอีกสายหนึ่ง แต่คงยังเช้าไป ร้านค้าต่างๆยังไม่ค่อยจะเปิดกัน
วันนี้เที่ยวไกลกว่าระยะเดินครับ พวกเราเลยตัดสินใจซื้อ Bus Pass 24 ชม. สามารถขึ้นรถบัส รถราง ไม่จำกัดจำนวนรอบภายใน 24 ชั่วโมง โดยสามารถซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อครับ
การเดินทางไปยัง Petrin Tower
การเดินทางให้นั่งสาย 9, 12, 18, 20, 22, 23, 57, 58, 59, 91 ลงสถานี Ujezd แล้วต่อ Cable Car ขึ้นไปครับ
ค่าขึ้น Cable Car คนละ 110 CZK
พอขึ้นไปจะพบกับสวนสาธารณะขนาดใหญ่ครับ เดิน 15 นาที กว่าจะเจอกับ Petrin Tower
Petrin Tower หอคอย ลุ๊คเอาท์เปอร์ตริน
เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นด้วยเหล็กมีความสูง 60 เมตรสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1891 โดย เอ็ฟ. ปราซิล (F. Prášil) เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปีของการแสดงนิทรรศการ ซึ่งได้สร้างเลียนแบหอคอยไอเฟิลในปารีส ด้วยการมีบันได 299 ขั้นสู่พื้นด้านบนสุดของหอคอย
ค่าขึ้นชม 180 CZK
วิวมุมสูงของกรุงปราก มองจาก Petrin Tower นี่มันสุดยอดจริงๆครับ
ขาลงแวะชมดอกซากุระยุโรปกันหน่อยที่สวนสาธารณะ Petřínské sady
ใครๆก็บอกว่าถ้าจะชมดอกซากุระต้องไปที่ญี่ปุ่น แต่ครอบครัว 2 Madames มาชมซากุระที่ปรากจ้า ที่นี่เยอะและสวยไม่แพ้กัน
งามสุดๆ ถ่ายภาพกันมันส์เลยครับ
ผมเป็นคนชอบอุ้มภรรยาครับ ไปไหนต้องไม่พลาด Shot นี้
มันเป็นคำสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะพาเธอไปอุ้มทั่วทุกแห่งบนโลกใบนี้ และตราบที่ผมยังมีแรง ผมจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้อย่างแน่นอน
ความปลื้มใจของพ่อแม่ คือได้เห็นลูกๆพี่น้องรักกัน…
น้องเกรซ พี่สาวนิสัยรักสวยรักงาม ชอบความสวยงาม ทุกอย่างที่เธอเลือกต้องสีชมพูหวานเจี๊ยบ เธอชอบเล่นตุ๊กตา อะไรที่เป็นของเล่นเด็กผู้ชายนี่จะไม่เคยอยู่ในสายตาเธอเลย
น้องกาย น้องชาย เน้นลุยเป็นหลัก อะไรปีนได้ ฉันต้องปีน วิ่งซ่าไม่เคยกลัวอะไร เจ็บตัวเป็นประจำ แขนหัก หัวโนนี่ทุกๆ 3 วัน นิสัยชอบเล่นรถยนต์ เครื่องบิน อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับกลไก น้องกายสามารถนั่งเล่นนั่งจ้องได้เป็นชั่วโมงๆ และจะไม่สนใจตุ๊กตาเลย
แต่ก็แปลกดีที่เด็กทั้งสองคนที่ชอบอะไรไม่เหมือนกันเลย แต่กลับชอบเล่นด้วยกัน เล่นกันได้ทั้งวัน สองคนสามารถช่วยลื้อบ้านมาเล่นกันได้ทั้งวัน
ด้วยวัยที่ยังไม่ห่างกันมาก เด็กทั้งสองมักจะมีทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเรื่องแย่งของกันบ้าง บางครั้งก็เล่นกันแรงไป เป็นกันแบบนี้อยู่เสมอเป็นประจำ
แต่มาหลังๆนี่ เจ่เจ๊เกรซพี่สาวเริ่มโตขึ้น รู้จักการยอมน้องมากขึ้น แม้จะโกรธน้องมากบางครั้ง แต่ก็จะพยายามอดทนอดกลั้น บางครั้งพ่อและแม่ต้องให้กำลังใจและชื่นชมอยู่บ่อยๆ
ช่วงไปเที่ยวยุโรปที่ผ่านมา ก็แปลกดีที่พี่น้องคู่นี้ไม่ทะเลาะกันเลย กระนุ้งกระนิ๋งเล่นกันตลอดๆ พี่สาวมีอะไรก็แบ่งปันน้อง แอบคิดไปเองว่าเพราะพามาเที่ยวหรือเปล่า พ่อและแม่ก็ได้แต่หวังว่าจะเป็นแบบนี้ไปนานๆ
ลูกๆเอ๋ย… พ่อแม่ไม่ได้มีทรัพย์สินมากมายมาให้หนูทั้งสองนะ พ่อแม่มีเพียงแค่การศึกษาที่จะมอบให้ หากลูกทั้งสองอยากจะเรียนอะไร ต่อให้พ่อและแม่จะต้องเป็นหนี้สินขายทุกอย่าง ก็พร้อมยินดีเพื่อให้หนูได้เรียนตามปรารถนา
นอกจากเรื่องการศึกษาแล้ว พ่อและแม่ได้มอบความเป็นพี่และน้องไว้ให้ หวังเหลือเกินว่าเมื่อลูกทั้งสองเติบโตขึ้นมาแล้ว แม้ไม่มีใคร ลูกยังมีพี่ ลูกยังมีน้อง ไว้ให้ช่วยเหลือกันและกันนะ ลูก
ภาพหนูสองคนที่รักกันใบนี้ พ่อจะนำไปอัดและขยายและแขวนไว้ในห้องนอนของลูก เพื่อจะได้ย้ำเตือนสิ่งที่พ่อตั้งใจสอนหนูไว้นะ
รักกันไว้มากๆ พ่อแม่ชื่นใจที่ได้เห็นลูกๆรักกันนะ
จากสวน Petřínské sady มองไปไกลๆเห็น Prague Castle เลยครับ
จากมุมนี้มี Foreground เป็นดอกไม้สวยๆซะด้วย งามมากๆครับ
แวะทานข้าวก่อนนะ วันนี้แวะร้านที่อยู่ตรงกันข้ามกับที่ขึ้น Cable Car เลย
มื้อนี้ทานไก่ย่างกัน
คาโบนาร่าของเด็กๆ
พิซซ่าถาดใหญ่ รวมทั้งหมด 580 CKZ ครับ จริงๆยังมีแซลมอนพาสต้าอีกอย่าง ไม่ทันได้ถ่ายรูปครับ เพราะลูกทัวร์หิวจัด มื้อนี้เลยเวลาเที่ยงไปเยอะเลย อ่อ อีกอย่างขอซอสมะเขือเทศเค้าคิดเงินด้วยนะครับ
พวกเราขึ้นรถรางย้อนกลับมาทางเดิม เพื่อมุ่งหน้าไปยัง Prague Castle ระหว่างทางเดินขึ้นมาตัวปราสาทต้องเดินขึ้นเนินสูงไม่น้อย แต่บ้านเมืองเค้าสวยเหลือเกิน ค่อยๆเดินขึ้นมา เหนื่อยก็พักดูของตามร้านค้าเป็นระยะๆครับ
วิวมุมสูงจากกำแพงปราสาท
ถึงแล้วจ้า กว่าจะถึงเล่นทำเอาลูกทัวร์แต่ละคนเหนื่อยหอบเลยครับ
ปราสาทปราก Prague Castle
ปราสาทแห่งกรุงปรากเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่มีผู้คนเข้าเยี่ยมชมมากที่สุด และเป็นจุดสำคัญที่สุดของทั้งเมือง เปรียบดั่งว่าเป็นอัญมณีที่ล้ำค่าแห่งเมืองหลวงของเช็ก ปราสาทแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์อันเก่าแก่ของแผ่นดินเช็ก ส่วนประกอบต่างๆของตัวปราสาททั้งหมดตั้งอยู่บนยอดเนินเขาและลดหลั่นลงมาจนถึงชายฝั่งด้านซ้ายของแม่น้ำวัลตารา (Vltava River) ตัวปราสาทอาจดูไม่เหมือนปราสาทแบบดั้งเดิมเป็นเพราะจากกรสร้างที่ได้กระจายออกไปตามแนวราบมากกว่าแนวตั้ง
เวลาเปิด 6.00-23.00 น. หน้าร้อน 5.00-24.00 น.
พี่ทหารยามยืนนิ่งมากๆ
เข้าไปชมเลยดีกว่า โย่วๆ
มหาวิหารเซนต์วิตัส แคทเทอร์ดรอล (St Vitus cathedral)
สิ่งที่ดึงดูดและสะดุดตาสำคัญๆ ต่อนักท่องเที่ยวคือมหาวิหารเซนต์วิตัส แคทเทอร์ดรอล (St Vitus cathedral) มหาวิหารหลังนี้สร้างมาตั้งแต่สมัยศัตวรรษที่ 14 เป็นการสร้างแบบสถาปัตยกรรมโกธีก (Gothic) ที่ได้ตกแต่งประดับประดาไปด้วยหัวสัตว์ประหลาดมากมายที่ทำด้วยหินตั้งอยู่บนหลังคาและปากท่อรางน้ำฝน
ภายในโบสถ์ดูอลังการและเก่าแก่มากครับ
Stain glass ยุคนั้นถือเป็นอะไรที่ล้ำหน้ามากครับ ทุกโบสถ์ต้องมีนะ
มองจากมุมด้านข้าง
เอ้า ครอบครัวหรรษากระโดดกันหน่อยเร็ว
เดินต่อมาด้านหลังครับ
เดินมาเรื่อยๆ มี Toy Museum อยู่ แวะขึ้นไปดูกัน
ค่าเข้าชม 100 CZK
งานนี้ถูกใจเด็กๆมากเลยครับ
บาร์บี้เพียบเลย
สำหรับคนที่เที่ยวปราสาทจบแล้ว ไม่ต้องเดินย้อนไปลงทางเดิมนะครับ เดินลงทาง Stare Zamecke Schody ได้เลย ทางลงนี้วิวสวยมากครับ
เดินลงมาจนสุดทางจะเจอกับถนนที่ไปต่อยัง Letenske sady จุดชมวิวโค้งน้ำที่สวยที่สุดของเมืองปราก
แต่ตอนนี้ขอนั่งพักทานสตอเบอรรี่ที่สวนสาธารณะปลายถนนก่อนนะ
น้องเกรซมีความสุขกับการให้อาหารนกมากๆ
จุดหมายสุดท้ายของเมืองปรากคือ Letenske sady ครับ
สวนสาธารณะ Letenské sady ตรงจุดนี้สามารถมองเห็นวิวเมืองผ่านโค้งแม่น้ำวัตตาวา วิวสวยสุดๆครับ
การเดินทาง : รถบัส สาย 5, 12, 18, 20, 57 ลงป้าย Chotkovy Sady
วิวมันสวยสุดๆ ภาพครอบครัวเหล่านี้ช่างมีค่ายิ่งนัก
ผมเป็นคนใจร้อน ส่วนแอนเป็นคนใจเย็น
ผมเป็นคนไม่มีระเบียบ ส่วนแอนเป็นคนเจ้าระเบียบ
ผมชอบคิดวางแผนมากกว่าปฏิบัติ ส่วนแอนชอบปฏิบัติมากกว่าคิดวางแผน
ผมขี้ร้อน ส่วนแอนขี้หนาว
ผมชอบไอติม ส่วนแอนชอบทานเค้ก
ผมชอบกล้อง ส่วนแอนชอบเสื้อผ้า
ผมเน้นเหตุผล ส่วนแอนเน้นความรู้สึก
เราต่างชอบอะไรไม่เหมือนกัน หลายครั้งที่เราก็คิดอะไรไม่ตรงกัน
แต่ความต่างนี่แหละ ที่ทำให้เราคู่กัน
เธอไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนฉัน เพราะฉันจะได้มีโอกาสรับฟังเธอบ้าง…
เธอไม่ต้องชอบเหมือนฉัน เพราะฉันมีความสุขที่ได้ตามใจเธอ…
เธอไม่ต้องเปลี่ยนอะไรให้ฉัน เพราะฉันรักทุกสิ่งที่เธอเป็น…
ให้เราทั้งคู่ต่างเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องฝืนอะไรให้เหนื่อย
ขอบคุณที่เราต่างเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เราต่างกัน
หากจะมีเหตุผลที่ฉันรักเธอ ก็คงอาจจะเป็นเพราะเหตุผลง่ายๆ
“ฉันชอบตัวเอง เวลาอยู่กับเธอ” แค่นั้นเอง…
อาม่าชี้ให้หลานๆดูวิวสวยๆ มันช่างเป็นช่วงเวลาแห่งความประทับใจเสียจริง
นั่งรอพระอาทิตย์ตกดิน เพื่อเก็บภาพสวยๆจากมุมโค้งแม่น้ำแห่งนี้
มันสวยจนเกินจะสามารถบรรยายออกมาให้ครบถ้วนได้
เมืองปรากช่างโรแมนติกเหลือเกิน ไม่อยากจากไปไหนเลย เพลินตาเหลือเกินครับ
วันรุ่งขึ้นพวกเราไปรับรถเช่าเพื่อเดินทางกันต่อไปยังเมือง Cesky Krumlov เมืองปราสาทมรดกโลกที่สวยงามครับ
ปิดท้ายด้วย ภาพสถาปัตยกรรมแปลกๆของเมืองนี้
สรุปค่าใช้จ่ายของ 3 วันที่ปราก
ที่พัก 3 คืน : 6,947 บาท
อาหาร : 4,200 บาท
เดินทางต่างๆ : 1,884.65 บาท
ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว : 1,190 บาท
ของว่างเครื่องดื่มระหว่างวัน : 450.50 บาท
ของฝากจากปราก : 2,550 บาท
ค่าเข้าห้องน้ำและเบ็ดเตล็ด : 187 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 3 วัน : 17,409.15 บาท
แล้วพบกันใหม่กับตอนต่อไปของ 6 ชีวิต คน 3 รุ่น อายุ 2 ขวบยัน 65 ปี กับ 14 วัน 2,500 km พิชิต 4 ประเทศ 11 เมือง ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน ได้เร็วๆนี้ครับ
ตอนที่ 3 เที่ยว Cesky Krumlov –> http://www.2madames.com/cesky-krumlov-czech-republic/
ปล.หากคุณอ่านรีวิวมาถึงตรงนี้ ผมได้ใช้เวลาและพลังงานมากมายในการเขียนรีวิวเพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์แก่ทุกคน หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป