ใจกลางกรุงเทพมหานคร ไม่ว่ายุคใดสมัยใด สยามสแควร์คือศูนย์กลางและแหล่งชุมนุมของเหล่าเหล่าวัยรุ่น และยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสำคัญ และเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมายหลายร้าน
ในบรรดาร้านอาหารที่มีอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นมีร้านหนึ่งชื่อฟังสะดุดหูมาก คือ ร้าน Rabbit in the kitchen แรบบิท อิน เดอะ คิทเช่น รสชาติจะเป็นยังไง วันนี้จะพาไปลองชิมกันครับ
เปิดทุกวัน : 10.00-22.00 น.
https://www.facebook.com/RabbitInTheKitchen
บริเวณที่ตั้งร้าน New Light เดิม ปัจจุบันถูกตกแต่งใหม่เป็นร้าน Rabbit in the kitchen
การตกแต่งโปร่งๆ โล่งสบาย บรรยากาศเหมือนนั่งทานข้าวที่บ้าน โต๊ะไม่แน่นจนเกินไป มีทั้งโต๊ะใหญ่เล็ก
หรือจะอีกฟากที่ดูโมเดิร์นขึ้นมาหน่อย เลือกมุมนั่งตามสะดวกเลยครับ
ขึ้นชื่อร้านว่า Rabbit พร็อพที่นำมาตกแต่งจึงเน้นไปทางกระต่ายเป็นหลัก
มีพิมพ์กดรูปกระต่ายติดตามผนังด้วยครับ คงคอนเซ็ปท์เช่นเดิม
ทานช้อนส้อม ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ พร้อมรอรับลูกค้าทุกเมื่อ
วันนั้นครอบครัวเราจอดรถไกลหน่อย กว่าจะพาเด็กๆเดินมาถึง คุณนายเล็กถึงกับเหงื่อแตกเลยครับ
คุณนายเธอขี้ร้อนเอามากๆ แต่เดินไกลแค่ไหนเธอก็ยังยิ้มหวานสู้นะครับ
เมื่อเลือกที่นั่งกันเรียบร้อย ก็ขอถ่ายรูปนายแบบและนางแบบเสียหน่อย
ร้อนๆกันมาแบบนี้ขอสั่งเครื่องดื่มดับร้อนก่อนเลย
เริ่มกันที่น้ำมะม่วงปั่น ด้วยความหวานในตัวมะม่วง เชื่อว่าหลายๆท่านคงชื่นชอบเครื่องดื่มนี้แน่ๆเลยครับ ดับหระหายไปได้เยอะทีเดียวเชียว ราคา 80 บาท ถือว่าไม่แพงเลย กับสมู้ทตี้เนื้อมะม่วงคับแก้วขนาดนี้^^
วันนี้ผมลองดื่มเครื่องดื่มที่แสนจะธรรมดาอย่างชาไทยเย็นดูบ้าง แต่แอบเก๋และเพิ่มรสชาติความแปลกใหม่ตรงที่ใส่เฉาก๊วยด้วยนี่ละชาไทยเฉาก๊วย รสชาติเข้มเต็มร้อย ราคา 80บาท เสิร์ฟมาแก้วใหญ่เลย
เด็กๆเริ่มหิวกันแล้วล่ะ
กุ้งสิงคโปร์-ขนมปังฝรั่งเศส เมนูนี้เป็นกุ้งทอดราดซอสออกเค็มๆหวานๆ เนื้อกุ้งสดมาก เสิร์ฟมาพร้อมขนมปังปิ้ง จิ้มน้ำซอสอร่อยมากเลยครับ
อร่อยจนเด็กๆเรียกร้องให้สั่งขนมปังมาเพิ่มเลย สำหรับราคาจานนี้อยู่ที่ 320บาท ถือว่าราคาสูงใช้ได้เลยนะเนี่ย
เรามาดูเมนูเอาใจเด็กๆกันบ้าง ผมเชื่อว่าเมนูในดวงใจเด็กๆสำหรับทุกครอบครัว คงหนีไม่พ้นเมนูนี้แน่นอน
ขนมจีบตำรับวัง เป็นขนมจีบไส้หมู สูตรเด็ดเฉพาะของราชสกุลหนึ่งเลยละครับ สูตรนี้ได้ถูกถ่ายทอดออกมา แค่เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น แถมราคายังน่าคบด้วยละ แค่ 90 บาทเอง ถือว่าราคาไม่แรงนะครับสำหรับคุณภาพอาหารและสถานที่
เอาล่ะคราวนี้มาถึงเมนู ที่โดยส่วนตัวแล้วผมว่าเด็ดมากๆในความคิดผมเลย
ยำเนื้อย่างเสด็จ เสิร์ฟมาตอนแรกนึกว่าเนื้อย่างจิ้มแจ่วเสียอีก แต่พนักงานก็ได้อธิบายว่า ร้านจะเสิร์ฟมาหน้าตาเหมือนกับที่ขึ้นสำรับในวังเลย เพื่อให้ดูน่าทาน จึงแยกเครื่องเคียงและน้ำยำให้มาคลุกเคล้าเอง สำหรับผมเมนูนี้ค่อนข้างคุ้มราคาทีเดียวครัว เพราะเนื้อชิ้นใหญ่เชียว แถมเนื้อนุ่มคุณภาพถือว่าดีเลยล่ะ ราคา 180 บาทครับ
มาต่อกันที่เมนูปลา เมนูเพื่อสุขภาพกันบ้างครับ
แซลมอนย่างซอสเลมอนเคเปอร์ เป็นแซลมอนย่างถ่านหอมๆ รสชาติอ่อนนิดๆเด็กๆทานได้ดีเลยครับ ราคา 380บาท
สลับมาที่อาหารทานเล่นกันบ้าง ปอเปี๊ยะทอดสอดไส้ลาบหมู แต่รสไม่จัดครับ เหมาะกับคอนที่ชอบความแปลกใหม่ แต่ทานเผ็ดจัดไม่ค่อยได้ ราคา 90 บาท ของโปรดลูกสาวผม คือถั่วฝักยาวครับ เธอฟาดหมดเกลี้ยงเลย
มาถึงอาหารรสจัดจ้าน ถูกใจคนชอบอาหารพื้นบ้านรสจัดกับบ้างนะครับ หมี่ลวกแกงปู ราคา 220บาท จริงๆแล้วเมนูนี้เป็นอาหารสุดโปรดของภรรยาผมเลยครับ แต่หาทานยากมากในกรุงเทพ ที่มีนั้นก็รสชาติอ่อนไม่เหมือนต้นตำรับเลย แต่ร้านนี้รสชาติเทียบเท่าร้านโปรดที่ภูเก็ตเลยครับ
เด็กๆทานกันยังไม่อิ่มดี ขอต่อด้วย ไก่ซูสี เป็นปีกไก่เลาะกระดูก แล้วเอาเนื้อมาหมักคลุกเคล้ากับข้าวเหนียว ยัดไส้แล้วนำไปทอดกรอบๆ ถูกใจเมนูนี้ตรงที่ทานง่ายนี่ละ แต่ราคาแอบแรงอีกละ 180บาทแหนะ แฮะๆๆๆ
เกือบอิ่มล่ะ ขอลิ้มลองของคาวเมนูสุดท้ายกันด้วยเมนูแกงกะหรี่ไก่-อาจาด-โรตี ราคา 120บาท น้ำแกงเข้มข้น รสชาติจัดจ้าน ทานกับโรตีอร่อยๆ ขอบอกว่าฟินที่สุดเลย
วันนี้เรามาทานร้านอาหารตำรับวัง ทานแล้วตองหาของหวานล้างปากเสียหน่อยแล้ว
เริ่มกันที่ Rabbit Mess ก่อนเลย เป็นการนำเอาผลไม้ 5 อย่างหมุนเวียนตามฤดูกาล มาคลุกเคล้ากับเมอแรง และวิปปิ้งครีม ราดด้วยซอสเสาวรส โดยผลไม้สำหรับส่วนผสมในวันนี้ได้แก่ กีวี, ส้มโอ, มะละกอ, แก้วมังกร และมะม่วงสุก ชิมแล้วได้รสชาติความหวานของผลไม้ มันๆด้วยวิปปิ้งครีม และตัดเปรี้ยวด้วยซอส อร่อยสุดๆเลยครับ
สำหรับของหวานแนะนำ และเป็นของขึ้นชื่อซึ่งหาทานได้ยากมากในปัจจุบัน นั่นคือ ส้มฉุน ผมเองก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามจากที่นี่เป็นที่แรกเลย
ส้มฉุน เป็นผลไม้ลอยแก้ว ที่มีลิ้นจี่เป็นส่วนผสมหลัก หรือเรียกได้ว่าเป็นพระเอกของเมนูนี้เลยล่ะ ส่วนผลไม้อื่นๆก็สลับสับเปลี่ยนตามฤดูกาลกันไป เช่นวันนี้มีทั้งลำไย ขนุน มะม่วงดิบ ที่แปลกมากๆคือโรยหน้ามาด้วยหอมเจียว แล้วราดด้วยน้ำส้มซ่า และน้ำใบเตย จะปรุงหวานมากหรือหวานน้อยก็ตามสะดวกเลยครับ
ศึกครั้งนี้ยังไม่จบ ขอต่อด้วยข้าวเหนียวมะม่วงเป็นอย่างสุดท้ายครับ
ข้าวเหนียวนุ่มๆ มะม่วงน้ำดอกไม้หวานเจี๊ยบ ทานคู่น้ำกะทิข้นๆ ราคา 90 บาท ฟินนนนครับบอกเลย
บทสรุป Rabbit in the kitchen แรบบิท อิน เดอะ คิทเช่น
- ทำเลตั้งอยู่ใจกลางสยาม สแควร์ มีที่จอดรถเดินทางสะดวกครับ
- บรรยากาศร้านแปลกต่างดี ตกแต่งเรียบง่ายด้วยเจ้ากระต่าย ใหม่และสะอาดมากครับ
- รสชาติอาหารถูกปากเกือบทุกอย่าง และบางอย่างก็หาทานรสชาติแบบต้นตำรับจริงยาก โดยเฉพาะ หมี่ลวกแกงปู แกงกะหรี่ไก่โรตี กุ้งสิงคโปร์ อร่อยมากๆครับ แต่บางอย่างน่าเสียดายที่น่าจะรสจัดกว่านี้ได้อีก เช่น เปาะเปี้ยะลาบหมู ครับ
- ราคาสมเหตุสมผล ไม่แพงจนเกินไป หากเทียบกับทำเลที่ตั้งกลางใจเมืองแบบนี้
- ถ้าคุณต้องการทานอาหารไทยแบบต้นตำรับ แถมได้สไตส์ฟิวชั่นด้วยแล้ว Rabbit in the kitchen แรบบิท อิน เดอะ คิทเช่น เป็นอะไรที่คุณต้องมาลองร้านนี้ครับ
ปล.หากคุณอ่านรีวิวมาถึงตรงนี้ ผมได้ใช้เวลาและพลังงานมากมายในการเขียนรีวิวเพื่อเป็นข้อมูลและประโยชน์แก่ทุกคน หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป