ช่วงปิดเทอมของเด็กๆ ผมได้พาครอบครัวไปเที่ยวสิงคโปร์ โดยทริปนี้ได้ออกแบบมาเพื่อวันแสนสนุกของเด็กๆและครอบครัวอย่างแท้จริง ตลอด 3 วัน 2 คืน พวกเราได้ทำกิจกรรมแสนสนุกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตะลุยสวนสนุกชื่อดังอย่าง Universal Studios Singapore, Adventure Cove Waterpark, S.E.A. Aquarium นอกจากนี้ยังพาไปทำกิจกรรมทั่วเกาะ Resorts World Sentosa ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาแห่งความหรรษาของครอบครัวอย่างแท้จริง มีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง จะสนุกสนานและน่าสนใจแค่ไหน ตามไปชมรีวิวกันครับ
โปรแกรมคร่าวๆของการเดินทางเที่ยวสิงคโปร์แบบครอบครัว 3 วัน 2 คืนมีดังนี้ครับ
วันแรก – ออกเดินทางจากกรุงเทพ เช็คอินที่โรงแรม Hard Rock Hotel แล้วไปเที่ยว Universal Studios Singapore
วันที่สอง – เล่นน้ำกับสวนน้ำใหม่ล่าสุด Adventure Cove Waterpark เดินเล่นห้าง Vivo City แล้วไปทานอาหารที่ร้านอาหาร Feng Shui Inn
วันที่สาม – เปิดบัตร Day Fun Pass ทำกิจกรรมทั่วเกาะ Resorts World Sentosa ปิดท้ายด้วยการชมสัตว์น้ำที่ S.E.A Aquarium ชิม Ya Kun Kaya Toast ที่แสนโด่งดัง ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพ
ออกเดินทางกันเลยดีกว่า ตื่นกันเช้านิดหนึ่งเพราะเป็น Flight เช้าของการบินไทยเครื่องออกประมาณ 8 โมงเช้า เลยต้องไปถึงสนามบินตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเลย
เดินทางถึงสิงคโปร์ประมาณเกือบเที่ยงครับ เราใช้วิธีการเข้าเมืองโดยรถไฟฟ้า โดยที่สนามบิน Changi Airport จะต้องเปลี่ยนไปยัง Terminal 3 เสียก่อน
จากนั้นก็นั่งรถไฟฟ้าไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Tenah Merah ก่อน จากนั้นไปลงสถานี Outram Station เพื่อเปลี่ยนขบวนอีกครั้งที่สายสีม่วงไปลงยังสถานี Harbourfront
ลงมาให้ใช้ทางออก Vivo City ครับ จะเป็นห้างที่ใช้เดินทางไปยัง Sentosa ต่อไป
ได้เวลาอาหารมื้อเที่ยงพอดี แวะมาชั้น 3 ตรงรถไฟที่จะต่อไป Sentosa มี Food Court ของ Food Republic อาหารไม่แพงมาก และมีให้เลือกเยอะครับ
แวะมาร้านประจำเลยกับร้านข้าวหน้าเป็ด หมูแดง หมูกรอบ
บอกตรงๆว่าเป็ดย่างใช้ได้นะ แต่ที่อร่อยมากคือหมูแดง เด็กๆกับภรรยาทานไปแล้วยังมาขอซ้ำอีกมื้อเลย
การใช้อินเตอร์เนตในสิงคโปร์ ที่ห้าง Vivo ชั้น 2 มีศูนย์ของ Starhub อยู่ครับ ผมซื้อแบบ 18$ ใช้งานได้ 5 วัน ใช้ปริมาณข้อมูลได้ 1Gb
สำหรับทริปนี้ผมไปซื้อแพกเกจ 3D2N Multi Attractions Package ของ Mastercard Priceless Singapore มาครับ
ซึ่งใน Package includes:
1) 2 Nights’ Stay in Deluxe Room at choice of following hotels: ที่พัก 2 คืนจากโรงแรมเหล่านี้ (รู้สึกจะเลือกเองไม่ได้ ระบบจะเลือกให้เอง)
– Hard Rock Hotel
– Hotel Michael
– Festive Hotel (Deluxe Family Room)
– Equarius Hotel
2) 2 x One-Day Adult Admission to Universal Studios Singapore บัตร Day Pass ผู้ใหญ่ 2 ใบสำหรับยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ
3) 2 x One-Day Adult Admission to S.E.A Aquarium บัตร Day Pass ผู้ใหญ่ 2 ใบสำหรับ เอสอีเอ อควอเรี่ยม
4) 2 x One-Day Adult Admission to Adventure Cove Waterpark บัตร Day Pass ผู้ใหญ่ 2 ใบสำหรับแอดแวดเจอร์ โคฟ วอเตอร์พาร์ค
5) $100 ESPA Credit for Equarius Hotel guests only
Payment must be made with a MasterCard credit or debit card. โดยต้องชำระผ่านบัครเครดิต หรือบัตรเดบิตของ Mastercard เท่านั้น
โปรนี้จองได้ถึง สิ้นปี 2015 นะครับ
คุ้มยังไงน่ะหรอ คุ้มตรงที่ปกติที่พักใน Resorts World Sentosa สองคืนก็ราคา 17,xxx-20,xxx บาทอยู่แล้ว แต่ Package นี้ราคาประมาณเดียวกัน ผมได้รับที่พักที่ Hardrock Hotel 2 คืน แถมได้บัตร Day Pass ของทั้งสามสวนสนุกอย่างละ 2 ใบ รวม 6 ใบ ซึ่งแต่ละใบก็หลายตังค์อยู่ เรียกว่าคุ้มสุดๆจริงๆครับ รู้งี้แล้วอย่ารอช้าจ้า พาครอบครัวมาเที่ยวที่นี่กันเถอะ ราคาดีงามอยู่แล้ว
และสำหรับคนที่พักโรงแรมใน Resorts World Sentosa ก็สามารถนั่งรถ Monorail จาก Vivo City ฟรีด้วยครับ (ปกติคนละ 4 SGD) ให้แสดงหลักฐานการเข้าพักกับเจ้าหน้าที่ขายตั๋วได้เลย
เอาละเมื่อมาถึง Sentosa แล้ว ก็ไม่เสียเวลากันมากครับ ตรงไปเที่ยว Universal Studios Singapore กันก่อนเลย
ภายในยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ แบ่งเป็น 7 โซนหลักๆครับ ได้แก่ Hollywood, Madagascar, Far Far Away, The Lost World, Ancient Egypt, Sci-Fi City, New York
เริ่มจากโซนแรกเลย Hollywood ถือเป็นทางเข้าหลักของสวนสนุกแห่งนี้
โดยรวมจะเป็นร้านขายของที่ระลึก และลานพบปะกับเหล่าตัวการ์ตูนมาสคอตต่างๆ
สุดทางเดินจะมีอนุสาวรีย์สวยๆ ฉากหลังคือรถไฟเหาะ Battlestar Galatica ครับ
เนื่องจากครอบครัวผม น้องเกรซน้องกายยังเด็กอยู่ เลยเลือกจะวนรอบสวนสนุกไปด้าน Madagascar ก่อนเพื่อเอาใจเด็กๆครับ
มาถึงก็ต้องล่องเรือกันก่อนเลยนะ
น้องเกรซน้องกายเคยดูเรื่องนี้มาทั้ง 3 ภาคแล้ว จึงคุ้นเคยกับตัวการ์ตูนเหล่านี้เป็นอย่างดี
ล่องเรือเข้าไปก็จะมีฉากต่างๆในการ์ตูนให้ชมกัน
และแน่นอนจะต้องมีเจ้าอเล็กซ์ราชสีห์และผองเพื่อนด้วย ถือเป็นเครื่องเล่นง่ายๆที่เอาใจเด็กๆครับ
ตรงข้ามกันก็เป็นม้าหมุน เครื่องเล่นแบบง่ายๆ แต่ถูกใจเด็กๆมากเลยนะ บอกเลย
ถัดเข้ามาอีกโซน คือ Far Far Away เป็นโซนของเจ้ายักษ์ตัวเขียว Shrek ด้านในจะมีภาพยนตร์ 4 มิติให้ชมกันด้วย
มาดูการแสดงโชว์กันบ้างกับ WaterWorld เรื่องราวเต็มไปด้วยความตื่นเต้นทั้งแสง สี เสียง ระเบิด Action กันเต็มเหนี่ยว
เข้าสู่โซน The Lost World กันบ้าง แม่ลูกคู่นี้ขอเข้าไปอยู่ในปาก T-Rex อ่ะ จัดไปจ้า
มาแวะเล่นเครื่องเล่นแบบเด็กๆกันต่อกับเจ้าไดโนเสาร์บิน อันนี้น้องกายชอบมากเลย
เข้าสู่โซน Ancient Egypt โดยไฮไลท์ก็อยู่ที่เครื่องเล่น Revenge of the Mummy ครับ
สองสาวเลียนแบบหุ่นซะงั้น
นางแบบเกรซวันนี้สนุกสนานอารมณ์ดีมากเลย
แวะมาขับรถแบบเด็กๆกันบ้างกับ Treasure Hunters ขับรถหวานเย็นชมวิวกันนะ
เดินมาถึงโซน Sci-Fi City อันนี้คือรถไฟเหาะ Battlestar Galatica แต่ช่วงที่ไปปิดให้บริการครับ อดเล่นเลย
เดินเล่นกันต่อนะ
ด้านในอันนี้สนุกมากครับ กับเจ้า Transformers The ride : The Ultimate 3D Battle ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
ถัดมาคือโซน New York ครับ
ตึกตรงนี้จะมี Lights, Camera, Action! Host by Steven Spielberg ได้ดู Studio จำลองการถ่ายทำภาพยนตร์ สามารถเนรมิตฟ้าผ่า คลื่นทะเล ได้เหมือนจริงมากๆ
แวะดูโชว์เต้นจากสาวๆชุดแดงกันเพลินๆ
ทิ้งท้ายภาพสุดท้ายกับรถคันเท่ๆ ฉากหลังโรงหนัง Classic กันนะครับ
มาชมห้องพักของ Hard Rock Hotel ที่พักของพวกเราทั้ง 2 คืนกันบ้าง ห้องของ Hard Rock ก็เด่นเรื่องสีสันอยู่แล้ว สวยเก๋เท่ไปอีกแบบนะ
ห้องน้ำเรียบหรูตามสไตล์ครับ
สระว่ายน้ำของโรงแรมมีหาดทรายจำลองด้วย น่าเล่นมากๆ แต่ว่าไม่มีโอกาสได้ลงเล่นที่นี่เลย
ตื่นตี 4 ออกจากบ้าน ขึ้นเครื่องบินก็ซ่าไม่ยอมนอน ห่วงดูการ์ตูน พอถึงสิงคโปร์ก็โดน Universal Studios ไปอีกครึ่งวัน ตกเย็นเรียบร้อยเลยครับ น็อกคู่
#แบตหมด #เครื่องดับ #อยู่ในระหว่างการชาร์ตแบต
รุ่งเช้าวันใหม่ เรามีนัดกับสวนสนุกที่สองของทริปกับ Adventure Cove Waterpark สวนน้ำที่เพิ่งเปิดมาช่วงปลายปี 2014 ที่ผ่านมา เรียกว่าใหม่เอี่ยมแกะกล่องเลย
เข้ามาด้านในก็ไปเปลี่ยนชุดและเก็บของใน Locker กันก่อนนะ
เริ่มจากล่องแก่งไปตามกระแสน้ำ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์เด็ดของที่ Adventure Cove Waterpark ครับ
เส้นทางลอดถ้ำที่ตกแต่งด้วยสัตว์ต่างๆ เช่น ปลาหมึก, ค้างคาว ฯลฯ
แล้วจะมีอุโมงค์ให้ชมปลาสวยงามที่ว่ายอยู่รอบตัว
จากนั้นคือไฮไลท์เด็ด คือ ทักทายกับปลากระเบนมาว่ายอยู่ข้างๆตัวเลยครับ เยอะและสวยงามสุดๆ เรียกว่าถูกใจเด็กๆและผู้ใหญ่มากๆเลย ใครมา Sentosa ต้องแวะมาล่องแก่งที่นี่เลยนะครับ
ปลากระเบนที่นี่ก็ไม่ธรรมดาครับ ทั้งเยอะและต้อนรับแขกสุดๆ
มีเป็นคลิปวีดีโอให้ชมกันด้วยนะ
ล่องแก่งเสร็จมาเล่นน้ำเอาใจเด็กๆบ้าง
โซนนี้เด็กๆสนุกมากๆครับ
เช่นเดียวกับสวนน้ำอื่นๆ ก็มีโซนคลื่นยักษ์ไว้ด้วย
แม่กับลูกบ้านนี้เค้าชิลด์มากเลย
ใกล้ๆกันก็มีเครื่องเล่นเสียวๆหลายอย่างครับ
อันนี้ให้เอาแผ่นโฟมรองตัวทิ้งดิ่งลงมาสูงทีเดียว
ใกล้ๆกันก็มีสระสำหรับเด็กเล็กๆอยู่ อ่อลืมบอกไปอย่างนึงครับ ที่นี่เค้ามีบริการชูชีพให้ยืมฟรีๆด้วย แต่ต้องไปไวหน่อยนะครับ เพรามีจำนวนจำกัดและถูกยืมหมดเร็วมากๆเลย
โซนนี้ เรียกว่า Rainbow Reef
ความพิเศษของ Rainbow Reef คือ เป็นบ่อที่ให้เราสามารถดำน้ำดูปลาทะเลมากกว่า 20,000 ตัว และชมปะการังสีสวยงาม เหมือนได้ดำน้ำที่ทะเลจริงๆ
มีปลาทะเลอะไรบ้างที่อยู่ในสระ ดูจากภาพนี้ครับ
จะสวยงามแค่ไหน ตามไปชมคลิปวีดีโอกันครับ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆอย่างลงไปทำกิจกรรมกับปลาโลมาด้วยนะครับ (อันนี้ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มครับ แอบแพงด้วยล่ะ)
แอบมองจากด้านบน เห็นปลาโลมาอยู่ไกลๆ
ใช้เวลาเล่นน้ำไปประมาณครึ่งวันครับ พวกเรานั่ง Monorail กลับมาเดินเล่นหาอะไรทานที่ Vivo City กัน
ชาร้าน Gong Cha แบบว่าขายดีมาก คนต่อคิวซื้อกันยาว เห็นแบบนี้ต้องลองชิมดูครับ ชาเข้มข้นดีครับ ใช้ได้เลย
ผ่านร้านตัดผมเด็กที่สิงคโปร์ ไอเดียเค้าแปลกดี มีเกมส์ให้เด็กๆเล่นระหว่างตัดผม จะได้ไม่ยุกยิก คนตัดก็ตัดไป คนโดนตัดก็เล่นไป เมืองไทยน่าจะมีบ้างนะ
กลับมาเดินสำรวจในบริเวณ Resorts World Sentosa กันต่อ บริเวณนี้คือ Casino และโรงแรม Festive Hotel ครับ
มื้อเย็นวันนี้มาทานกันที่ร้าน Feng Shui Inn ซึ่งอยู่ที่ Crockfords Tower ใน Sentosa ชั้น G2 ครับ
ร้านนี้เท่าที่หาข้อมูลมาเป็นร้านอาหารจีนที่ได้รับยกย่องและได้รับรางวัลมาเพียบครับ
บรรยากาศภายในร้าน Feng Shui Inn
ผมสั่งกุ้งผัดไข่เค็มมาลอง ให้กุ้งเยอะ และอร่อยมากครับ กุ้งตัวใหญ่สดมาก เนื้อเด้งสุดๆ
เป็ดปักกิ่งที่นี่แตกต่างจากเมืองไทยครับ เพราะมีเนื้อติดมาด้วย
ส่วนจานนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวเป๋าฮื้อ อร่อยแต่แพงมากๆเลยครับ เกือบ 100 SGD หรือประมาณ 2,400 บาทครับ
คืออาหารมันก็อร่อยดีนะ แต่ราคาแพงมากครับ มื้อนี้เกือบห้าพันบาทไทยอ่ะ ยังดีที่มีโปรโมชั่นลดราคาจาก Mastercard ลดได้ 10% ครับ
วันสุดท้ายของการเดินทาง ผมวางแผนที่จะเที่ยวและทำกิจกรรมไปรอบๆเกาะ Sentosa โดยซื้อแพกเกจ Day Fun Pass แบบ Play 5 เลือกเล่นกิจกรรมต่างๆหรือเข้าพิพิธภัณฑ์ได้ 5 ที่ครับ
ราคาผู้ใหญ่ 59 SGD เด็ก 49 SGD
ต้นลูกกวาดแสนสวย
ถ่ายภาพเล่นกับ M&M กันนะ
เดินมาถ่ายภาพกับเจ้าสิงโตนางเงือก Merlion สัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์กัน
เดินมาหน่อยเจอกับ Madame Tussauds ครับ
เดินพรมแดงกันหน่อย
เครื่องแรกที่เราเลือกเล่น 1 ใน 5 อย่าง คือ ชมวิวมุมสูงจาก Tiger Sky Tower ครับ
จากด้านบนนี้มองเห็นตัว Resorts World Sentosa ได้อย่างดีเลย
ลงมาน้องเกรซขอซื้อของไปฝากเพื่อนๆที่โรงเรียน อ่ะจัดไปลูก
ใกล้ๆกันมีกิจกรรมที่สนุกมากครับ กับ Skyline Luge Sentosa จะให้เรานั่งไถลรถลงมาจากเนินเขา เล่นไม่ยาก คุณนายแอนและเด็กๆชอบกันมาก
ลงมาด้วยรถ แต่ขากลับนั่ง Skyride กลับครับ
ไม่ไกลกันก็เป็นที่อยู่ของ Butterfly Park & Insect Kingdom ในนี้มีผีเสื้อสวยๆบินให้เด็กๆดูเพียบเลยครับ
นกแก้วพูดมากก็มีนะ
นกยูงเดินเล่นใกล้ๆกับพวกเราเลยครับ
ชมแมลงกันต่อ
แมงป่องตัวเบ่อเร้อเลย
มีแมลงสต๊าฟไว้ให้ชมเพียบครับ
ผมพาครอบครัวนั่งไปอีกสถานีที่ Beach Station เพื่อเล่นเจ้ารถไฟฟ้า 2 ล้อนี่ครับ เด็กๆอย่างน้องเกรซก็เล่นนะ ไม่ยากเลย
ตกบ่ายเที่ยวกันต่อกับ S.E.A. Aquarium ครับ ทางเข้า Aquarium จะมีของใช้และหุ่นแสดงประวัติศาสตร์การประมงและการค้าของประเทศสิงคโปร์
เรือสวยๆเพียบ
มาชมปลากันดีกว่า ฉลามเยอะมากเลยครับ แบบฉลามหัวค้อนก็มีนะ
เข้าสู่อุโมงค์ใต้น้ำ เนื่องจากตรงกับวันอาทิตย์ คนเยอะมากครับ
มีปลาให้ดูเยอะมาก
เคยชมปลาสิงโตที่ Aquarium อื่นมาหลายที่ แต่ถือว่าตัวเล็กไปเลยหากมาเทียบกับที่ S.E.A. ปลาสิงโตเค้าตัวใหญ่จริงๆครับ
ปลาสวยๆเพียบครับ
และโซนนี้เรียกว่า Open Ocean ตู้ปลาขนาดใหญ่มากๆ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ครับ
แมงกะพรุนสวยมาก
มีปลาโลมาด้วยนะ
มีที่สำหรับลองสัมผัสกับสัตว์น้ำต่างๆด้วย
จบจาก S.E.A Aquarium ที่จริงตั้งใจวางแผนจะไปเที่ยว Trick Eye Museum Singapore แต่เจอคิวรอเข้า 60 นาที เลยหมดเวลา อดเข้าเลยครับที่นี่
มื้อสุดท้ายที่สิงคโปร์ แวะมาทานอาหารเกาหลีข้างๆทางเข้า Universal Studios
เป็นระบบ Self Service สั่งจากหน้าตู้ แล้วเอาบิลไปที่เคาน์เตอร์อาหาร คนจัดคิวจะแจกเครื่องมือคล้ายๆโทรศัพท์มือถือให้เอากลับมา พออาหารได้ ไอ้เจ้าเครื่องนี้จะสั่นและมีไฟกระพริบแจ้งเตือนให้ไปรับอาหารครับ
เนื้อผัดกะทะร้อนของผมจ้า
ไก่ทอดของเด็กๆ
คุณนายแอนเธอสั่งราเมนเสี่ยวหลงเปา
ผมเช็คเอ๊าท์ออกจากโรงแรมจะเดินทางไปสนามบิน แต่ขอแวะทาน Ya Kun Kaya Toast อันโด่งดังที่ Vivo City ก่อนกลับครับ
ขนมปังนึ่งสอดไส้ด้วย Kaya ที่แปลว่าสังขยา มีส่วนผสมของไข่ กะทิ ใบเตย น้ำตาล หวานหอมมากเลย และยังเพิ่มความชุ่มฉ่ำด้วย Butter ทานคู่กับชานมปั่น รสชาติเมื่อมาทานถึงถิ่นต้นตำรับ ขอบอกว่าอร่อยกว่าทานที่เมืองไทยมากมาย
ต่อด้วย Kaya Ball ขนมปังเนื้อแน่นขนาดพอดีคำ และแน่นอนสอดไส้เต็มๆคำด้วย Kaya ที่หอม หวานกำลังดี พวกเราทานกันแค่นี้รองท้องก่อนเดินทางไปสนามบินจ้า
ที่สนามบิน Changi Airport มีตู้สำหรับถ่ายภาพแล้ว Upload ขึ้นไปบนต้นไม้ Electronic ด้วยครับ กลับบ้านแล้วจ้า ลงชื่อไว้เป็นที่ระลึกก่อนกลับหน่อยแล้วกัน
การมาเยือนประเทศ Singapore ครั้งนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีและสนุกมากๆ นี่ขนาดไม่ได้ออกมาเที่ยวนอกเกาะ Sentosa เลยนะ 3 วัน 2 คืนยังไม่ทั่วเซนโตซ่าเลย ถ้าหากครอบครัวไหนต้องการจะเก็บในทั่ว Sentosa จริงๆควรมี 4-5 วันครับ แต่หากต้องการเที่ยวสิงคโปร์ให้ทั่วคงต้องใช้ 6-7 วันครับ ที่เที่ยวเยอะจริงๆ
และแล้วก็จบรีวิวทริป เที่ยวสิงคโปร์แบบครอบครัว : ตะลุย Resorts World Sentosa สวนสนุก Universal Studios, Adventure Cove Waterpark, S.E.A. Aquarium ไปอย่างสมบูรณ์
ขอบคุณทุกท่านแวะมาเยี่ยมชม หวังว่าคงจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์และความสุขแบบครอบครัวไปไม่มากก็น้อย
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป