กลางเดือน ต.ค. 58 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยวประเทศเนเธอร์แลนด์และเบลเยี่ยม โดยการเดินทางครั้งนี้ เราได้เดินทางด้วยชั้นธุรกิจ Royal Laurel Class ของสายการบิน EVA Air บินตรงจากกรุงเทพสู่อัมสเตอร์ดัม แบบไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องเลย ในรีวิวนี้จะเป็นการให้รายละเอียดทั้งตัวที่นั่ง, อาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง รวมทั้งห้องรับรองหรือ Lounge ของสายการบินนี้ทั้งขาเดินทางไปและกลับ มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง ตามไปรับชมรีวิวกันครับ
ใครขี้เกียจอ่านตัวหนังสือ ดูคลิปวิดีโอนี้ได้เลยครับ
ไฟล์ท BR 75
BKK-AMS ออกจากสุวรรณภูมิ 12:30 น. ถึงอัมสเตอร์ดัม 19:30 น.
เครื่องบินรุ่น Boeing 777-300ER (77W)
เรามาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 9:30 น. ก่อนบินประมาณ 3 ชั่วโมง เข้าเช็คอินที่เคาน์เตอร์เช็คอินของอีว่าแอร์ ในช่องพิเศษของชั้นธุรกิจ Royal Laurel Class ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่มาดูแลเราอย่างดี ช่วยยกกระเป๋าให้ด้วยอ่ะ ดีจังเลย
การบินในชั้นธุรกิจสามารถในสิทธิ์เข้า Security Check และ ผ่าน ตม. ที่ช่อง Premium Lane ได้เลย
บิน Business Class ทุกครั้งเราต้องมาใช้ Lounge หรือห้องรับรองให้คุ้มค่าตั๋วหน่อย
มาดูอาหารและเครื่องดื่มกันก่อนนะ
ขนมจีบ ฮะเก๋า ซาลาเปา ก็มีนะ ข้างๆมีพิซซ่าจาก The Pizza Company ให้ทานด้วย
ด้านนี้เป็นผลไม้จ้า
เครื่องดื่ม Soft drink เลือกดื่มได้ตามชอบใจ มีไอศกรีม Swensen ด้วยนะ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล กาฟงกาแฟก็มี
เด็กๆชอบมากเลย
เรียกว่านี่คือไลน์บุฟเฟ่ต์ย่อมๆเลย
มีส่วนคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ให้ได้ใช้ด้วย
ข้างๆกันเป็นห้องเก้าอี้นวดแสนสบายครับ มี 2 ห้องครับ
ได้เวลาบินแล้วหละ เวลา Boarding ชั้นธุรกิจ Royal Laurel Class ก็ได้สิทธิ์เดินขึ้นเครื่องก่อนครับ
ผังที่นั่งของ EVA Air วางเก้าอี้ 4 ตัวต่อแถวครับ แต่เก้าอี้ตรงกลางจะเดินผ่านกันไม่ได้นะครับ
มาชมเก้าอี้ที่นั่งของเรากันบ้าง
มีชั้นวางของ, ไฟอ่านหนังสือ, รีโมทคอนโทรล, ปลั๊กไฟ และที่เชื่อมต่อมีเดียต่างๆ
มีน้ำแร่จาก Fiji ให้ดื่มด้วย
ส่วนที่ปรับเบาะที่นั่ง หลักๆมีโหมดอัตโนมัติ 3 โหมด คือ โหมดปรับตอนขึ้น-ลงเครื่อง, เวลานั่งปกติ และแบบนอนหลับยาวๆ
หรือถ้าไม่ถูกใจก็สามารถปรับเองได้เองตามชอบใจ
ตัวที่นั่งกว้างมาก นั่งไม่มีขาไปชนครับ สบายสุดๆ
ส่วนความบันเทิงก็มีหนังดีๆใหม่ๆให้ชมกันพอสมควรเลย
ให้นางแบบมาปรับนอนให้ชมครับ นอนราบได้ 180 องศาเลย
มาดูสิ่งที่เค้าแจกมาบ้าง อย่างแรกเลย หูฟังครับ
อย่างที่สองเป็นกล่อง Amenity Kit ครับ มีผ้าปิดตา, ยาสีฟันแปรงสีฟัน, โลชั่นทาตัว และลิปมัน
ใครอยากนอนสบายๆ ก็เปลี่ยนชุดนอนได้ด้วยนะ
ส่วนเด็กๆก็มีของเล่นแจกด้วยนะ น้องเกรซชอบใจใหญ่
ส่วนอาตี๋กายไม่สนใจใครแล้วหละ ได้เวลานอนกลางวันของฉัน ฉันขอชาร์ตแบตก่อนละ
สักพักเดียว Appretizer ก็ยกมาเสิร์ฟ ดูหนังไป กินไปเพลินๆ
จานสองยกมาอีกแล้ว นี่ยังไม่ใช่ Main Dish นะ
ผมสั่งเนื้อมากินครับ อร่อยดีใช้ได้ แต่บอกตรงๆว่ามันเริ่มอิ่มตั้งแต่จานที่แล้วละ
ยังไม่พอ ยังมีผลไม้และไอศกรีมมาตบท้ายด้วยครับ
ส่วนน้องเกรซก็มีความสุขกับ Kids Menu เป็นไก่ทอดและเฟรนฟรายครับ
อิ่มกันแล้ว เค้าก็รี่ไฟห้องโดยสารให้พักผ่อนกัน บนเพดานมีดวงดาวด้วย
แต่เด็กน้อยทั้งสองไม่ง่วง นั่งจิ้มอยู่หน้าจอเล่นเกมส์กันมันส์เลย
ปล.นั่งไปนั่งมาสลับที่กันเองซะงั้น
ผมดูหนังไปเรื่อง เผลอหลับไป ตื่นมาหิวเล็กน้อย ขอมาม่ามารองท้องหน่อย
ส่วนคุณนายแอนเธอสั่งชุดข้าวต้มมาทานครับ เรียกว่ากินกันจนกลิ้งลงเครื่องไปเลย
ส่วนไฟล์ทขากลับจาก Amsterdam ก็มีเลาจน์ให้นั่งนะ แต่ไม่ใช่ของ EVA Air โดยตรง เค้าเป็น Lounge ของ ASPIRE ครับ
ปล. Lounge อยู่ไกลและอยู่ลึกลับมาก
ที่นั่งในเลาจน์ครับ
ของกินไม่ดีเท่าที่สุวรรณภูมิเลย ไม่ค่อยอร่อยด้วยนะ
เครื่องดื่มมีหมดทั้ง Soft Drink และเครื่องดื่มแอลกอฮอลด้วย
มีเบียร์สดไฮเนเก้นให้ดื่มด้วย
ไม่รู้จะกินอะไร ก็ Nissin ถ้วยละกัน ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ แต่ก็รองท้องยังดี
Boarding แล้ว มาดูเมนูไวน์กันบ้าง
พวก Cocktail ก็มีนะ เลือกดื่มได้หมดตามต้องการ
ขากลับอาหารผมจองอาหารล่วงหน้ามานะ เป็น Lobster ครับ จานนี้วอร์มเครื่องก่อน จิบไวน์ขาวฝรั่งเศสรอเลย
Appretizer อีกจานนะครับ
มาแล้วกุ้ง Lobster ตัวใหญ่และสดมาก ดีงามสุดๆ ปลื้มมากครับ เด็ดมาก (จานนี้ต้องจองล่วงหน้าก่อนเท่านั้นนะ ไม่สั่งมาอดกินนะ บอกให้)
ของหวานและผลไม้ปิดท้ายอีกที แต่ไม่ไหวละ อิ่มมาก ไม่ได้แตะต้องเลย
ไฟล์ทขากลับนี่เป็นไฟล์ทกลางคืนครับ หลับยาวเลย ตื่นอีกทีอาหารเช้าเลย
สั่ง Waffle มากิน สงสัยน้ำหนักจะขึ้นละ
บทสรุป Royal Laurel Class ชั้นธุรกิจ สายการบิน EVA Air
EVA Air ถือเป็นสายการบินที่มาตรฐานสูงจริงๆ เราได้รับความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง อาหารอร่อย บริการต่างๆไม่มีอะไรให้ติ ห้องรับรองขาไปดีงามมาก ส่วนขากลับไม่ค่อยดี ไกลลึกลับ อาหารก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าที่สุวรรณภูมิ โดยรวมเราค่อนข้างพอใจกับการเดินทางกับอีว่าแอร์ครั้งนี้มากๆครับ
ตามไปเที่ยวกันต่อ : ขับรถเที่ยวเนเธอร์แลนด์-เบลเยี่ยม 11 วัน พิชิต 2 ประเทศ 14 เมือง บันทึกแห่งความสุข
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป