ทริปส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของครอบครัว 2Madames เราไปเที่ยวกันที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยจุดหมายหลัก คือ การพาเด็กๆไปป้อนอาหารและดูสัตว์ที่ซาฟารีปาร์คแอนด์แคมป์ ทานร้านอร่อยบรรยากาศสวยๆอย่างคีรีมันตรา จะสนุกสนานแค่ไหน ตามมารับชมรีวิวกันครับ
มาชมบรรยากาศเป็นรูแปปคลิปก่อนเนอะ
พอดีช่วงเดือนที่ผ่านมาไปลืมที่ชาร์ตแบตกล้องหลักไว้ที่โรงแรมแถวเขาใหญ่ แบตที่มีเหลือก้อนเดียวก็มีจำกัด ทริปนี้จึงใช้ภาพจากโทรศัพท์มือถือ Zenfone 3 Max ที่เพิ่งได้มาใหม่แทน ถือเป็นการรีวิวโทรศัพท์รุ่นนี้ไปในตัวนะ (ภาพส่วนใหญ่ เป็นภาพที่ได้จากกล้องเลยนะ แค่เพียงปรับย่อให้ลงในเว็บไซค์ได้ครับ)
พร้อมเดินทางกันแล้ว ทริปนี้นอกจากครอบครัวเรา อิน แอน น้องเกรซ น้องกายแล้ว ยังมีอาม่ามาเที่ยวด้วยนะ เอาละหยิบมือถือมาเซลซี่แล้วออกรถล้อหมุนไปเที่ยวกาญจนบุรีกัน
ระหว่างทางแวะทานข้าวเช้ากันที่ร้านฉางทองกันก่อน
ที่นี่เป็นร้านประจำของครอบครัวเลย หากจะไปกาญจนบุรี ผ่านร้านนี้ต้องแวะทานเป็นประจำ ทีเด็ดคือ กระดูกหมูที่เสิร์ฟมาให้พร้อมกับต้มเลือดหมู เนื้อมันจะร่อนและนุ่มมาก แต่คราวนี้รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่น้ำซุปไม่ค่อยร้อนเหมือนเคย หวังว่าทางร้านจะรีบปรับปรุงนะ
เช้านี้อากาศกลับมาเย็นอีกครั้ง ทำเอาทุกคนในครอบครัวรู้สึกสบายกับอากาศเย็นๆของเมืองไทยที่มีอยู่ไม่กี่วัน
ที่จริงภาพนี้ถ่ายยากนะ เพราะสภาพแสงจริงๆค่อนข้างมืด ถ้ากดถ่ายปกติภาพจะไปสว่างด้านนอกแล้วเด็กๆจะมืด แถมน้องเกรซยังเคลื่อนไหวบนชิงช้า
ผมเลยต้องใช้โหมด M จากมือถือ Zenfone 3 Max เพื่อปรับค่า ISO เป็น 800 และเพิ่มสปีดชัตเตอร์ให้เร็วขึ้นเพื่อหยุดภาพไม่ให้เบลอ อีกส่วนที่กล้องทำได้ดีคือการโฟกัสด้วย Laser auto focus ทำให้ภาพน้องเกรซคมชัดยิ่งขึ้น ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าภาพจากกล้องโทรศัพท์มือถือก็ได้คุณภาพที่น่าพอใจขนาดนี้
ขับรถมาต่อยัง อ.บ่อพลอย อีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้วซาฟารีปาร์ค แอนด์ แคมป์ Safari Park & Camp
ค่าเข้า Safari park
ค่าเข้าผู้ใหญ่ 150 บาท
เด็ก 80 บาท
อาหาร 4 ถาด 100 บาท
พร้อมแล้วก็ขึ้นรถไปสวนสัตว์เปิดกันเลย
ทุกคนดูจะตื่นเต้นกันมากๆ
เข้ามาโซนแรกของสวนสัตว์เปิด มาป้อนอาหารกวางกันก่อน
ถัดมาจะเป็นเสือ
เซลฟี่กับเสือกัน
แชะ… หน้าเนียนสวยฟรุ้งฟริ้งให้อัตโนมัติเลย อันนี้คุณนายแอนชอบมาก 555
สิงโตก็มีนะ
เสือดาวลายสวยมาก
แต่ไฮไลท์อยู่ที่กรงยีราฟครับ ยีราฟเป็นสิบตัวจะทำการบุกรถของเรา มันจะยื่นคอเข้ามาให้เราป้อนอาหารอย่างใกล้ชิด เรียกว่าสนุกมากๆเลยครับ
นอกจากสวนสัตว์เปิดแล้ว ยังมีโซนสวนสัตว์และโชว์การแสดงให้ดูด้วยนะ แวะถ่ายรูปกับเต่ายักษ์ก่อน
มีให้ขี่ม้าด้วย ประมาณ 15 นาที 150 บาท
มาดูโชว์ช้างกัน ช้างทำงวงเป็นชิงช้าให้อาม่าเข้าไปนั่งเลย
ป้อนอาหารนกกันต่อนะ
เกาะไหล่ถ่ายรูปได้ด้วย
จระเข้ที่นี่เยอะมากเลย
เข้าไปถ่ายรูปในปากจระเข้กัน
ต่อด้วยการชมการแสดงจระเข้ เค้าเอามือและหัวเข้าไปให้ปากจระเข้ด้วย หวาดเสียวมากเลย
ปิดท้ายด้วยการไปป้อนอาหารลูกสิงโตกัน
เที่ยวซาฟารีปาร์คเสร็จ สมาชิกทุกคนก็หิวกันแล้วหละ เราเลยมาทานอาหารกันที่ร้านคีรีมันตรา KEEREE MANTRA
ที่นี่วิวสวยมาก มีทุ่งหญ้าใหญ่ๆ ด้านหลังเป็นภูเขาสีเขียว ดูสบายตามาก
มีดอกไม้เล็กๆปลูกแซม พอดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน
คุณนายแอนขอเก็บภาพหน่อย ภาพนี้ที่จริงย้อนแสงหน่อยๆนะ แต่ใช้โหมด HDR จากมือถือ Zenfone 3 Max ก็ช่วยให้ภาพสวยได้
ภาพกระโดดกล้อง Zenfone 3 Max ก็เอาอยู่นะ
ชมวิวทิวทัศน์กันไปเยอะแล้ว อาหารมาต้องรีบถ่ายรูปเลย เพราะหิวโซกันทุกคน
เริ่มจานแรกกันที่ “ลาบหมูทอด” ขอบอกเลยว่ารสชาติจัดจ้านมาก ทอดไม่อมน้ำมัน จานนี้ราคา 150 บาท ถือว่าไม่แพงเลย ทานที่กรุงเทพได้ไม่กี่ก้อน แต่ที่คีรีมันตราตักแล้วตักอีกไม่หมดสักที
ต้มยำปลาคัง สั่งแบบใหญ่เสิร์ฟมาเป็นหม้อไฟ ราคา 280 บาท ปริมาณเนื้อปลาไม่ต้องพูดถึงเลย เนื้อปลาสดและชิ้นใหญ่มากๆ
ส่วนมื้อนี้เด็กๆอยากทานส้มตำและไก่ย่าง คุณนายแอนเธอเหลือบไปเห็นเมนู ‘ข้าวมันส้มตำไก่ย่าง”พอดิบพอดี ราคา 160 บาท เสิร์ฟมาตามในรูปยกเว้นลาบหมูทอดที่ไม่ได้อยู่ในเซ็ต ส้มตำจานใหญ่มากครบเครื่อง แต่เราสั่งแบบเผ็ดน้อย เพราะเมนูนี้เด็กๆอยากทานเอาใจเด็กๆเสียหน่อย แถมไก่ก็ชิ้นใหญ่มากเนื้อนุ่มจริงๆ
จานสุดท้ายเป็น “โรตีแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย” ราคา 220 บาท ขอบอกว่าเป็นจานที่ชอบที่สุดแล้ว เพราะน้ำแกงเข้มข้น และลูกชิ้นปลากรายให้มีเยอะสุดๆ โรตีก็อร่อยทิ้งไว้นานๆก็ไม่แห้งแข็งเหมือนร้านอื่นๆที่เคยทาน
ปิดท้ายด้วยขนมเค้กล้างปากสียหน่อย เห็นเมนูเค้กที่นี่มีให้เลือกเยอะมากๆ ดูแล้วไม่น่าผิดหวัง เลยสั่งมาแค่ลองชิมแล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ชิ้นนี้เป็น White Choc Cheese Pie ชอบที่ฐานด้านล่างเป็นโอริโอบด ทานแล้วติดใจมากๆจ้า
ค่าเสียหายทั้งหมดตามนี้เลย
บทสรุปของกล้องโทรศัพท์มือถือ Zenfone 3 Max ถือว่าเป็นกล้องที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างน่าพอใจ มีโหมดสำเร็จรูปหลายอย่างให้ใช้สำหรับคนทั่วๆไปได้ใช้ และมีโหมดกำหนดเอง M สำหรับคนที่ต้องการถ่ายภาพอย่างมือโปรด้วย
อีกส่วนที่ปลื้มมากคือแบตเตอรี่อึดมาก ด้วยความจุ 4,100 mAh ทำให้แบตใช้งานได้ตลอดวัน
อันนี้ผมใช้ตั้งแต่เช้านะ เปิด GPS นำทาง น้องเกรซเปิดเล่นเกมส์ ผมใช้งานถ่ายภาพ เล่นเฟสบุ๊คด้วย จนเย็นแล้วแบตยังเหลือ 54% แน่ะ เครื่องคำนวณว่ายังใช้งานได้อีกตั้ง 12 ชม. โหจะอึดไปไหน
ด้วยความจุ 4,100 mAh ของแบตเตอรี่ Asus Zenfone 3 Max นั้นมากพอที่ใช้งานตลอดวัน และยังมีไฟเหลือจนสามารถเป็นแบตเตอรี่สำรองให้กับอุปกรณ์อื่นๆได้อีกด้วย เหมือนมี Power Bank อีกตัว ดีงามยิ่งนัก
ถ้าเทียบกับโทรศึพท์มือถือรุ่นอื่นที่ราคาประมาณหกพันบาทด้วยกัน ถือว่าเป็นโทรศัพท์ที่คุ้มค่าสุดๆนะ
ตอนต่อไป : แต่งไทยย้อนวันวานที่เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ กับที่พักสุดฟินริมแม่น้ำแคว
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป