มหานครเซี่ยงไฮ้ (Shanghai) หนึ่งในเมืองเจริญที่สุดของประเทศจีน เที่ยวไม่ลำบาก เดินทางสะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องภาษา แถมที่เที่ยวสนุกมาก มีทั้งพิพิธภัณฑ์ไดโดเสาร์, วัดและเมืองโบราณสวยๆ, ถนนคนเดิน, ตึกสูงเสียดฟ้า แสงสียามค่ำคืน และสวนสนุกระดับโลกอย่าง Shanghai Disneyland กินร้านชาบูในตำนาน Hai Di Lao ทริปนี้พักโรงแรมตัวการ์ตูนอย่าง Toy Story Hotel ด้วย จะสนุกสนานแค่ไหน ตามไปรับชมรีวิวกันได้เลยจ้า
โปรแกรมเดินทางท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้ Shanghai ของครอบครัวเรา 8 วัน 7 คืน
ปล.สำหรับคนปกติสามารถเที่ยวได้จบภายใน 3-5 วันนะ แต่พอดีภรรยาผม คุณนายแอนตั้งครรภ์ 7 เดือนอยู่ เลยต้องค่อยๆไป เดินเหนื่อยก็พัก ทริปหอยทากจ้า
20 ต.ค. 62 – เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยการบินไทย สู่สนามบิน Shanghai Pudong Airport เข้าที่พัก Toy Story Hotel
21 ต.ค. – ตะลุยสวนสนุก Shanghai Disneyland เต็มวัน
22 ต.ค. – ย้ายที่พักมาย่าน Xin Tian Di บ่ายๆ ออกไปเดินเล่นที่ Yuyuan Garden
23 ต.ค. – เที่ยว Starbucks Reserve Roastery พาเด็กๆไปสำรวจพิพิธภัณฑ์ Shanghai Natural History Museum กินร้านดัง Cha’s Restaurant เดินเล่นช้อปปิ้งที่ถนนคนเดิน Nanjing Road Pedestrian Street ดูตึกสูงและแสงสีที่ The Bund นั่งรถลอดอุโมงค์ใต้แม่น้ำ Bund Sightseeing Tunnel แล้วไปชมวิวชั้น 118 บนตึก Shanghai Tower
24 ต.ค. – เที่ยววัด Jing’an Temple ต่อคิวกินชาบูในตำนาน Hai Di Lao ที่สาขา People’s Square กินชาผลไม้สุดอร่อย HeyTea
25 ต.ค. – เที่ยวเมืองโบราณ Zhujiajiao
26 ต.ค. – กินเบอร์เกอร์ร้านอร่อย Shake Shack ย้ายที่พักไปที่โรงแรมสนามบิน
27 ต.ค. – เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
ตามไปรับชมคลิปกันก่อนนะ
การเตรียมตัวเดินทางไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้
1.) วีซ่า คนไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศจีน ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า โดยสามารถเตรียมเอกสาร และยื่นได้ด้วยตัวเองเลย ดูระเบียบเรื่องภาพถ่ายหน่อยนะครับ เค้าค่อนข้างจะเข้มงวดมาก
รายละเอียด : https://www.visaforchina.org/BKK_TH/index.shtml
2.) ค่าเงิน อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา 1 หยวนจีนประมาณ 4.3 บาท (ต.ค. 62) ควรแลกเงินสดไปล่วงหน้า การใช้จ่ายที่จีนค่อนข้างสะดวกสบาย ร้านค้าส่วนใหญ่รับ Credit Card ทั้งนั้น
3.) ประกันภัยการเดินทาง แนะนำให้ซื้อไป หากเจ็บป่วยหรือเจออุบัติเหตุ จะได้ผ่อนหนักให้กลายเป็นเบา จ่ายแค่หลักร้อยและคุ้มครองหลักล้านนะ ซื้อแบบครอบครัวได้เลย ลิงก์นี้ครับ http://bit.ly/2NPMqy5
4.) การใช้อินเตอร์เนต อันนี้สำคัญครับ เพราะที่จีนจะบล็อกเว็บหลักๆ อย่าง Facebook, Youtube ซึ่งมันเป็นแอพหัวใจที่เราเล่นมากที่สุดเนอะ ดังนั้นใครที่อยากเล่นแอพเหล่านี้แนะนำให้ใช้ซิมท่องเที่ยวครับ ของครอบครัวเราใช้ของ Travel Sim ของ Truemove H ครับ สัญญาณดี ท่องเน็ตลื่นปรื้ดๆ แถมไม่แถมด้วยนะ
4.) บัตรเติมเงิน บัตรเจียวทงข่า อันนี้สะดวกดีเวลาเดินทาง ใช้แตะเข้าระบบรถไฟ Metro หรือรถเมล์ได้เลย ไม่ต้องซื้อตั๋วบ่อยๆ ค่ามัดจำบัตร 20 เหรียญแล้วเติมเงินใช้งานได้เลย
ข้อเสียคือ ถ้าเหลือเงินแล้วจะเอาเงินคืนยากมากครับ เพราะแม้แต่สถานีที่สนามบินยังไม่รับคืนเงิน ต้องนั่งย้อนไป 8 สถานี ที่สถานี Guanglan Rd. เท่านั้น คือเสียเวลาและค่าเดินทางอีกต่อ ในใจผมยังคิดว่าทำไมเค้าต้องทำให้ยากขนาดนั้นเหมือนบีบให้นักท่องเที่ยวทิ้งเงินในบัตรเลย
จากประสบการณ์การขอเงินคืนยากขนาดนี้ เราเลยไม่แนะนำให้ใช้ครับ ซื้อเป็นเที่ยวๆ น่าจะสบายใจกว่าครับ
5.) ระเบียบล่าสุด (ต.ค. 62) สำหรับนักเดินทางที่ไปพักที่พักแนว Airbnb แบบผม จะต้องไปรายงานตัวกับสถานีตำรวจใกล้เคียงภายใน 24 ชม. หลังเข้าพัก โดยต้องนำเอกสารต่างๆจากเจ้าของบ้านไปยื่นด้วยตัวเองพร้อมพาสเปอร์ตครับ
อันนี้เป็นระเบียบใหม่ที่เพิ่งมีเลยครับ เพราะดูเจ้าของบ้านยังงงๆกับการดำเนินการ สุดท้ายกลายเป็นผมต้องไปสถานีตำรวจสองรอบ เพราะเอกสารนำมาไม่ครบ ดูยุ่งยากไปหมด แต่ผมว่าเมื่อปรับตัวกันได้น่าจะเร็วขึ้นนะ
6.) จองตั๋วล่วงหน้า ประหยัดเงิน และประหยัดเวลา
แนะนำให้โหลดแอพ KKday ครับ เพราะราคาขายบัตรอย่างเช่น Shanghai Disneyland จะถูกกว่าไปซื้อหน้างาน แถมยังไม่ต้องไปเสียเวลาต่อคิว แค่แสดงเว้าเชอร์ในมือถือก็เข้าได้เลย สะดวกไปอีกนะ
บัตรเข้า Shanghai Disneyland : https://www.kkday.com/th/product/7076?cid=9076
บัตรขึ้นชมวิวชั้น 118 ตึก Shanghai Tower : https://www.kkday.com/th/product/10053?cid=9076
รถรับส่งสนามบินกับที่พักในเมือง : https://www.kkday.com/th/product/7204?cid=9076
จองผ่านแอพเหอะสะดวกกว่า ประหยัดกว่าด้วย จะจ่ายแพงและเสียเวลาต่อคิวทำไมเนอะ
7.) เรื่องภาษา ชาวจีนส่วนใหญ่พูดอังกฤษไม่ได้ แต่ที่เซี่ยงไฮ้ค่อนข้างสื่อสารได้นะ เค้าจะเปิดแอพแปลภาษาคุยกับเรา ส่วนตามโรงแรมหรือร้านอาหารก็พอจะพูดอังกฤษได้บ้างครับ ป้ายต่างๆมีภาษาอังกฤษกำกับเกือบหมด ถือว่าเป็นเมืองของจีนที่เที่ยวแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องภาษามากนัก
เริ่มออกเดินทางเลยดีกว่า ทริปนี้เราเดินทางไปด้วยสายการบิน Thai Airways หรือการบินไทยนั่นเอง มีไฟล์ทบินตรงทุกวัน วันละ 2 เวลา หากใครอยากเที่ยวเยอะ บินช่วงเที่ยงคืน ถึงเซี่ยงไฮ้เช้า หรือใครไม่อยากอดนอนมาก ก็บินสายๆถึงเซี่ยงไฮ้ บ่ายๆครับ
สามารถจองตั๋วผ่านเว็บไซค์ : http://bit.ly/2nzHTGW
พอรู้ตัวว่าจะได้ไปเที่ยวก็ตื่นเต้นสดใสกันทุกคน
บินกับการบินไทยก็ดีมากครับ มีคนไทยบริการเรา สื่อสารกันง่าย แถมเข้าใจความต้องการของคนไทยมากกว่าสายการบินต่างชาติ
อาหารไทยกับหนังเรื่องโปรดสักเรื่องก็ถึงจุดหมาย นับเป็นการเดินทางที่สบายใจเสียจริง
ครอบครัวไหนที่มีเด็กเล็กและกระเป๋าใบใหญ่เยอะๆ แนะนำจองรถรับ-ส่งสนามบินกับตัวเมืองนะครับ จะได้ไม่ต้องแบกกระเป๋าขึ้นรถไฟ แบกเดินต่อไปถึงที่พักอีก หรือจะต้องมารอคิวขึ้นแท็กซี่ แถมยังสื่อสารกันกับคนขับยากอีก
จองรถมารับสะดวกกว่านะ รถคันใหญ่กระเป๋าใบใหญ่ก็ไม่หวั่น
รถนั่งกันสบายครับ ราคาเที่ยวละประมาณ 1,700 บาท
จองผ่านลิงก์นี้ได้เลย : https://www.kkday.com/th/product/7204?cid=9076
ที่พักของเราในคืนแรกและคืนที่สองได้แก่ โรงแรมทอยสตอรี่ Toy Story Hotel ที่อยู่ในพื้นที่ของ Shanghai Disneyland นั่นเอง
ช่วงที่เรามาตรงกับเทศกาลฮาโลวีน ทางโรงแรมก็เลยจะประดับตกแต่งทุกอย่างให้เข้ากับเทศกาลครับ
Check-in กันก่อนนะ
เข้าห้องพักมา โอ้โห สวยจังเลย ทุกสิ่งอย่างจะถูกตกแต่งในตรีม Toy Story ขนเหล่าตัวการ์ตูนจากในเรื่อง ทั้ง Woody, Buzz Lightyear และเหล่าผองเพื่อนมากันครบเลย
ราคาประมาณเจ็ดพันกว่าๆต่อคืนนะ จองสองคืน คืนที่สองลด 25% จ้า
บ้านไหนเป็นแฟนการ์ตูนอานิเมชั่นเรื่องนี้ รับรองถูกใจแน่นอน
ห้องน้ำสะอาดดีครับ
มื้อเย็นเรามาทานกันที่ห้องอาหาร Sunnyside ชั้นล่างกัน เค้าจะมีบุฟเฟ่ต์ แต่ราคาแอบแรงไปหน่อย เลยสั่งเป็น Western Set มาทานกัน รสชาติใช้ได้เลยนะ แต่เสิร์ฟมาเยอะมาก บ้านเรากินกันไม่ค่อยเก่ง ทานไม่หมดเลย
มีห้องของเล่นด้วยนะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นของเล่นสำหรับเด็กเล็กๆ แต่เด็กโตอย่างน้องเกรซน้องกายก็สามารถสนุกกับแป้งโดว์ได้
ชมคลิปช่วง Toy Story Hotel
ค่ำคืนผ่านไป แวะถ่ายภาพกับ Woody บริเวณลานของโรงแรมก่อนนะ
เช้าวันนี้เดี๋ยวจะไปตะลุยสวนสนุก Shanghai Disneyland กัน
Shanghai Disneyland เป็นสวนสนุกใหม่ล่าสุดของดิสนี่ย์ เปิดให้ท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 2016 และถือเป็น Dianeyland ที่มีขนาดใหญ่มาก ใหญ่กว่าที่ Hongkong Disneyland ถึง 3 เท่า โอ้ว ใครจะมาเที่ยวต้องเตรียมเดินเยอะกันนิดหนึ่งนะครับ
ซื้อบัตรเข้าล่วงหน้า ประหยัดทั้งค่าเข้าและไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวซื้อตั๋วที่ลิงก์นี้เลยครับ
https://www.kkday.com/th/product/7076?cid=9076
ใครจะมาเที่ยวที่เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ แนะนำให้โหลดแอพของเค้าจะ มันจะบอกคิวของเครื่องเล่น ทำ Fastpass จองคิวเล่นเครื่องเล่น แถมมีรอบการแสดงโชว์ต่างๆด้วย
ลิงก์โหลดแอพ : https://www.shanghaidisneyresort.com/en/download-shanghai-disney-mobile-app/
มาพูดถึงความรู้สึกต่อเซี่ยงไฮ้ ดิสนี่ย์แลนด์กันหน่อยนะ คือตอนแรกที่ยังไม่ได้มา แอบกังวลว่าจะเจออะไรแย่ๆกับคนจีนหรือเปล่า
แต่พอมาเที่ยวจริงๆ ปรากฏว่าที่นี่สะอาดมาก เข้าหน้าที่ส่วนใหญ่พูดอังกฤษได้ จะมีแบบคนจีนแอบจะแซงคิวหน่อยๆและชอบมายืนถ่ายภาพแบบไม่เกรงใจคนอื่น แต่ไม่เยอะนะ
หากเทียบกับดิสนี่ย์แลนด์ที่ญี่ปุ่น,ฮ่องกง,สหรัฐอเมริกาที่เคยไปมา จะบอกว่าเราชอบที่เซี่ยงไฮ้มากที่สุดเลย เพราะคิวต่อแถวไม่เยอะ เล่นได้หลายอย่าง อากาศก็เย็นสบาย ทุกคนในครอบครัวต่างลงมติว่าชอบที่เซี่ยงไฮ้สุดแล้ว
มาถึงก็มาที่โซน Treasure Cove ก่อนเลย กับเครื่องเล่นที่หาที่อื่นไม่มีอย่าง Pirates of Caribean Battle for the Sunken Treasure
น้องกายแต่งเป็นเจ้าชายสุดหล่อ ระหว่างรอคิว
ด้านในจะให้เราล่องเรือเข้าไป มีสมบัติและโจรสลัดมากมายให้ชม
มีฉากตื่นเต้นที่เราดำน้ำลงไปแล้วโผล่พ้นน้ำขึ้นมา (เปียกเล็กๆ) มีฉากต่อสู้ยิงกันไปมา ตู้มต๊าม โอ้โห สมจริง สนุกมากๆ แนะนำว่ามาที่นี่ห้ามพลาดเลยครับ
มุมถ่ายภาพเพียบเลย
โปรดสังเกตุเงาของทุกคน
ที่ Adventure Isle อันนี้สนุกนะ เป็นฐานเดินฝ่าอุปสรรคต่างๆ มีทั้งทางเดินแคบๆ ไต่เชือก ปีนลัดเลาะหน้าผา และน้ำตก เด็กๆก็เล่นได้ เค้ามีอุปกรณ์เชือกเซฟตี้ ได้ออกกำลังกาย ฝึกการทรงตัว และวัดใจพอสมควรเลย
ทุกคนชอบมาก ควรมาเล่นอย่างยิ่งครับ
ส่วน Tomorrowland ของ Shanghai Disneyland ดูล้ำ สมเป็นโลกอนาคตสุดๆครับ
แวะซื้อของฝากกัน
ใครที่อยู่ทั้งวัน แนะนำให้ออกมากินอาหารที่ Disneytown นะครับ อาหารมีให้เลือกเยอะ และราคาถูกกว่าในสวนสนุกด้วย
อย่าลืมแวะมาถ่ายภาพกับ Donald ยักษ์ริมน้ำด้วยนะ
ชมคลิปเที่ยว Shanghai Disneyland
เรานอนที่ Toy Story Hotel 2 คืน และเที่ยวสวนสนุก 1 คืน
จากนั้นเราก็ย้ายที่พักมาที่ย่านซินเทียนตี้ Xintiandi กันนะครับ
ที่พักของเราเช่าผ่าน Airbnb มา ที่พักสวยดี มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ อยู่ใจกลางย่านซินเทียนตี้ Xintiandi เลย ใกล้ทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร เดินจากสถานี Metro 5 นาที จัดว่าทำเลดีสุดๆ
ราคาน่ารักด้วย คืนละพันปลายๆ คือคุ้มมาก
ใครจะจองที่พักผ่าน airbnb เอาลิงก์นี้ไปลงทะเบียนจะได้รับเครดิตเงินคืน 800 บาทด้วยนะ
www.airbnb.com/2Madames
ย่านซินเทียนตี้ Xintiandi ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งย่านการค้าและแหล่งท่องเที่ยวที่คึกคักแห่งหนึ่งของเซี่ยงไฮ้ ในยุคก่อนบริเวณนี้เคยเป็นย่านที่อยู่อาศัยของชาวเซี่ยงไฮ้ จึงเต็มไปด้วยบ้านที่ถูกสร้างจากอิฐบล็อกแบบฝรั่ง สถาปัตยกรรมผสมผสานแบบนี้มีชื่อว่า ฉือคู่เหมิน (Shikumen) มีความหมายว่า ประตูหิน เป็นสไตล์ของตึกแถว 2- 3 ชั้นที่ผสมผสานสไตล์ตะวันตกและตะวันออก จุดเด่นคือการใช้อิฐเรียงกันเป็นแถว เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงกลางของปี ค.ศ. 1860 จนได้รับความนิยมและเป็นสัญลักษณ์ของที่บ่งบอกถึง ความเป็นเซี่ยงไฮ้ ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/dC7PoYsvf28Y91Qp8
อาคารสวยๆกับร้านอาหาร ร้านค้า และคาเฟ่เก๋ๆ เดินกันเพลินเลยหละ
ในนี้มี Shake Shack ร้านเบอร์เกอร์ในตำนานจากนิวยอร์คมาเปิดด้วย เราเคยทานที่อเมริกามาแล้วชอบ เลยจัดไป 2 มื้อเลยครับ อร่อยจริงๆนะ
ส่วนชาผลไม้ที่แนะนำคือของร้าน HeyTea นะ ปกติจะต้องรอคิวเป็นชั่วโมงนะ แต่วันนั้นโชคดี สั่งแล้วได้กินเลย
เมนูที่ชอบมากชื่อ Very Strawberry Cheezo เป็นชาผลไม้ชีส มีไข่มุกบุกด้วย อร่อยมาก กินซ้ำ 2 ไปแก้วครับ
พิกัด : https://goo.gl/maps/f3GxWucpCmjoVGBc6
ชมคลิปมาดมแอนพาชิม HeyTea
มาเที่ยวต่อกันที่ Yuyuan Garden ที่สวนเก่าแก่อายุหลายร้อยปี สร้างตั้งแต่ปี 1559 สมัยราชวงศ์หมิง
ตอนที่เราไปตัวสวนโบราณปิดปรับปรุงพอดี แต่ผมว่าไฮไลท์จริงๆน่าจะอยู่ที่ข้างๆสวน จะเป็นโซนขายของใหญ่มากๆ มีทั้งร้านค้า ร้านอาหารเพียบ เดินกันเพลินเลย
ร้านค้าต่างๆบริเวณนี้ก็เป็นทรงบ้านแบบจีนๆ สวยมากเลย คนเดินกันเพียบครับ
มี Street art ด้วยนะ
และมาถึงเซี่ยงไฮ้ เรามาทานเสี่ยวหลงเปาหรือซาลาเปาที่มีน้ำซุปอยู่ด้านใน
ใครอยากลองแนะนำร้านดัง Michelin Star อย่างร้าน Nanxiang Steamed Bun Restaurant
พิกัด : https://goo.gl/maps/QAjQEnK13hECob2K9
มีทั้งแบบลูกเล็กๆ และลูกใหญ่ที่มีหลอดดูดน้ำซุปด้วย
ชิมแล้วก็ใช้ได้นะ แต่ไม่ได้ถึงกับโอ้โห ต้องกินให้ได้ ใครพลาดก็ไม่ถึงกับต้องเสียใจอะไรขนาดนั้นครับ
มีซาลาเปารูปหมูน้อยสำหรับเด็กๆด้วยครับ
ชมคลิปเที่ยว Yuyuan Garden
วันใหม่เราเดินทางมาเที่ยวที่ Starbucks Reserve Roastery ร้านกาแฟสตาร์บัคสุดอลังการที่เซี่ยงไฮ้ แลนด์มาร์คที่ใครๆต้องแวะเที่ยว
สตาร์บัคสาขานี้มีขนาดใหญ่กว่าสาขาทั่วไปกว่า 300 เท่า หรือมีเนื้อที่ประมาณ 30,000 ตร.ม. หรือคิดง่ายๆว่า 1 สนามฟุตบอล
พิกัด : https://goo.gl/maps/3S1YMw6Ug2H9AqGq6
ลงสถานี : Nanjing West Road
เดินเข้าไปแว่บแรก คือกลิ่นหอมกาแฟอบอวลมากๆ ขนาดครอบครัวผมดื่มกาแฟไม่ค่อยเป็นยังชอบเลย ด้านในจะมีโรงคั่วกาแฟกำลังผลิตให้เราชมและบรรจุใส่ถุงกันใหม่ๆเพื่อขาย
กลิ่นนี่หอยอบอวลทั้งร้านเลย สาขานี้
ที่นี่ยังมีบาร์กาแฟที่เคยยาวที่สุดในโลกด้วย โดยบาร์ริสต้าจะนำเมล็ดกาแฟจากประเทศต่างๆ มารังสรรค์เมนูกาแฟต่างๆให้ลิ้มลองกัน ใครที่เป็นสาวกกาแฟรับรองว่าต้องชอบแน่ๆ เพราะเราเห็นทุกคนเอนจอยในการดื่มด่ำกับกาแฟสุดโปรด ที่เรียกว่ามีเมนูให้ลิ้มลองมากกว่าปกติ
มุมถ่ายภาพเก๋ๆเพียบ
ส่วนใครไม่ใช่สาวกกาแฟก็อย่าได้น้อยใจไป จะมีโซน Teavana บริเวณชั้น 2 ที่มาพร้อมกับเครื่องดื่มชาต่างๆก็ทำได้น่าดื่มมากๆ
แถมชงสดๆให้เราดูตรงหน้ากันเลย
ใครกล้าๆกลัวๆคิดไม่ออกว่าจะสั่งเครื่องดื่มชนิดไหนดี ลองดูเมนูที่ Barista Recommend อร่อยถูกใจอยู่นะ
ยิ่งได้ทานคู่กับขนม ทานเพลินเลยครับ แต่ราคาแอบแรงอยู่นะ
ชมคลิปมาดามแอนพาชิม Starbucks Reserve Roastery
ทานอิ่มแล้ว พาเด็กมากันต่อที่ Shanghai Natural History Museum ซึ่งถ้าใครมาเที่ยว Starbucks Reserve Roastery อยู่แล้วก็อยู่ในระยะเดินครับ แต่ถ้าใครมาด้วย Metro ก็ลงสถานี Natural History Museum ได้เลย
พิกัด : https://goo.gl/maps/6xAp6hitmezAXUsw5
ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์จะมีรูปปั้นต่างๆเพียบเลย
Shanghai Natural History Museum น้องเกรซน้องกายจะเรียกว่าพิพิธภัณฑ์ไดโดเสาร์ครับ เพราะด้านในมีไดโดนเสาร์เต็มเลย
มีให้ลองสัมผัสปลาด้วยนะ จะจัดเวลาแบ่งเป็นรอบๆนะครับ เพราะมีการพักปลาด้วย
มีตู้ผีเสื้อด้วย มันจะบินมาให้เราดูข้างๆกระจกเลย ผมคิดว่ามันคงอยากจะบินออกมามากกว่า บางตัวก็มีชนกระจกจนหมดแรงนอนตายเลย แอบสงสารในใจครับ
ที่ Shanghai Natural History Museum ใหญ่มาก มีหลายชั้น เค้าทำดีทุกโซนเลย สวยๆ น่าสนใจมากๆ แนะนำให้เผื่อเวลามาเดินอย่างน้อย 2 ชั่วโมงนะครับ
ชมคลิปเที่ยว Shanghai Natural History Museum
บ่ายๆ เลยเวลาอาหารไปหน่อยๆ เรามาที่อีกหนึ่งร้านดัง Cha’s Restaurant
พิกัด : https://goo.gl/maps/nGg6BZpfkXbckwgy8
ลงสถานี Huaihai Middle Road
เริ่มด้วยชานม หอมเข้มข้นดี ขนมปังปิ้งใช้ได้แต่ราคาแพงเกินรสชาติไปเยอะ
แต่ทีเด็ดไก่ทอด ทอดกันสดๆ ทานกันร้อนๆ หมักรสชาติดีจริงๆ
ส่วนไข่คนผัดกุ้ง กุ้งสดเด้งดีมาก รสชาติโอเคเลย ข้าวผัดก็ใช้ได้ครับ
เชิญรับชมคลิปมาดามแอนพาชิม ร้าน Cha’s Restaurant
อิ่มท้องแล้ว มาเดินเล่นช้อปปิ้งที่ถนนคนเดิน Nanjing Road Pedestrian Street ที่นี่คือแหล่งช้อปปิ้งสำคัญของมหานครเซี่ยงไฮ้เลย ตลอดสองข้างทางจะเต็มไปห้างสรรพสินค้าตลอดทางหลายกิโลเลย
น้ำมะม่วง ฉันยุ่งมาก คือขอรีวิวไว้เลยนะครับ รสชาติจืดมาก ราคาก็แพง
ดังนั้นถ้าเจอร้านนี้ มันยุ่งก็อยู่ห่างๆมันเลยครับ
อาคารหลายหลังสวยและดูคลาสสิกมาก
เดิน Nanjing Road Pedestrian Street จนสุดทางจะเจอกับจุดชมวิวชื่อดัง The Bund
อย่าลืมแวะทักทายเจ้ากระทิง Bund Bull ด้วยนะ เจ้ากระทิงตัวนี้ที่จริงมีฝาแฝดที่นิวยอร์คครับ โดยคนที่เล่นหุ้นถือว่าช่วงหุ้นขึ้นจะเรียกว่าช่วงกระทิงนั่นเอง
ตรงข้ามถนนมีธนาคารกรุงเทพ สาขาเซี่ยงไฮ้ ที่มีป้ายเขียนเป็นภาษาไทยด้วยนะครับ
ยามเย็นมาชมวิวตึกสูงที่อยู่คนละฝั่งแม่น้ำกันครับ
เรานั่งรอจนค่ำเพื่อชมแสงสีของตึกสูงๆกันต่อ
แสงไฟจากตึกสูงๆ สวยมากจริงๆครับ
มองกลับไปอีกด้านก็สวยไปอีกแบบนะ
เรามีแผนจะข้ามไปอีกฝั่งด้วยการนั่งรถลอดอุโมงค์ใต้แม่น้ำ Bund Sightseeing Tunnel
อุโมงค์แห่งนี้ลอดผ่านแม่น้ำหวงผู่ ตลอดทางจะมีแสงสวยๆให้ชมกันครับ
ข้ามเสร็จแล้ว เราเดินเล่นกันต่อ ชมแสงไฟและตึกสูงๆไปเรื่อยๆ
จุดหมายของเราคือ Shanghai Tower เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ในปัจจุบันเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศจีน และสูงที่สุดอันดับ 2 ของโลก รองจากตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ ในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เราจองตั๋วผ่าน KKDay มา ได้ราคาส่วนลดและไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวครับ
จองบัตรขึ้นชมวิวชั้น 118 ตึก Shanghai Tower ล่วงหน้า : https://www.kkday.com/th/product/10053?cid=9076
ชมคลิปเที่ยวช่วง The Bund กับขึ้นชมวิวกัน
เช้าวันใหม่เราเดินทางมาเที่ยววัด Jing’an Temple กัน
วัดจิงอัน หรือวัดจิ้งอันซื่อ เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 800 ปี
ภายในวัดมีพระใหญ่อยู่ที่หอกลาง เจ้าแม่กวนอิมสลักจากไม้สูงหกเมตร อยู่ที่หอด้านข้าง และภาพวาดจากฝีมือของ Zhu Pa ศิลปินจากราชวงศ์หมิง
นอกจากจะสักการะพระพุทธรูปและเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายแล้ว สองกิจกรรมที่คนเซี่ยงไฮ้นิยมทำกันก็คือ การโยนเหรียญให้เข้าไปในเจดีย์ธูป
เนื่องจากวันก่อนเที่ยวเยอะ เดินกันก็เยอะ วันนี้เลยตั้งใจจะพักผ่อนร่างกายของสมาชิกลูกทัวร์ของผมหน่อย หลังจากเที่ยววัด Jing’an Temple เสร็จ เราจึงย้อนกลับมาทานร้านชาบูในตำนานอย่าง Hai Di Lao กัน
เรามากันที่สาขา People’s Square อยู่ชั้น 5 ของห้าง Shanghai No.1
พิกัด : https://goo.gl/maps/P2RrmPcZE5TXcEMJ9
ตอนแรกนึกว่าจะต้องรอคิวกินหลายชั่วโมงเมื่อที่เคยอ่านรีวิวไว้ แต่ผิดคาดครับ เวลาประมาณเที่ยงหน่อยๆ ได้กินเลยไม่มีคิวเฉย
แต่เท่าที่อ่านรีวิวมา คือถ้าคนรอคิวเยอะๆ ก็สามารถนั่งรอในห้องรับรองแบบนี้ได้
มีของว่างและเครื่องดื่มทานฟรี
มีบริการทำเล็บฟรีด้วยนะ
เดินมาไลน์น้ำจิ้ม ตาลายครับ ตักแทบไม่ถูก
ได้โต๊ะปุ๊ปพนักงานที่นี่บริการดีมาก เอาผ้ากันเปื้อนมาให้ สำหรับคุณผู้หญิงมียางมัดผมด้วยนะ แถมเห็นแอนตั้งครรภ์ เอาหมอนมาให้รองหลังอีกอันด้วย
ส่วนคุณภาพอาหารนั้น บอกเลยว่าอร่อยมาก ดีทั้งเนื้อและหมู กุ้งก็สดและตัวใหญ่ดี ทุกคนชอบกันทั้งครอบครัวครับ
ถ้าสั่งเส้นบะหมี่จะมีมาทำโชว์ข้างโต๊ะด้วยนะ
ชมคลิปมาดามแอนพาชิมร้าน Hi Di Lao กัน
วันรุ่งขึ้นเราเดินทางมายังเมืองโบราณ Zhujiajiao ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเซี่ยงไฮ้
แต่ก่อนจะมาที่นี่ต้องมีนั่ง Metro แล้วต่อรถเมล์ยุ่งยาก แต่ผมมาคราวนี้ Metro วิ่งมาถึงแล้วครับ
ลงสถานี Zhujiajiao แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาทีครับ ตามคนเยอะๆ ไหลตามไปได้เลย
ตัวเมืองสวยมากครับ มีคลองไหลผ่านบ้านเรือนโบราณ
แต่ร้านค้าจะขายของเหมือนๆกันนะครับ เดินไปจะเจอของซ้ำๆครับ
มีวัดสวยๆด้วยนะ
มีร้านวาดภาพเหมือนเลยจัดไปให้วาดน้องเกรซน้องกายไว้หน่อย เอาไปเข้ากรอบ วันไหนที่หนูเติบโตขึ้นไป ภาพเหล่านี้จะยังอยู่ในความทรงจำของพ่อแม่อย่างเราตลอดไป
และนี่คือรีวิวทริปเดินทางท่องเที่ยวมหานครเซี่ยงไฮ้แบบครอบครัวของเราครับ หวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลการเดินทาง และความสุขกลับออกไปไม่มากก็น้อย วันนี้ลาไปก่อนนะ บะบายยยย
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป