วันนี้จะพาทุกท่านไปเที่ยวเกาะสีชังกัน ทริปนี้ไปพักกันที่โรงแรมใหม่เอี่ยมอย่าง โรงแรมซัมแวร์ Somewhere Koh Sichang นั่งรถสกายแล็ปไปเที่ยวพระจุฑาธุชราชฐาน สะพานอัษฎางค์ ขึ้นไปชมวิวไหว้พระที่ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ชมพระอาทิตย์ตกที่ช่องเขาขาด จะสนุกสนานแค่ไหน ตามไปชมรีวิวกันครับ
มารับชมคลิปบรรยากาศเที่ยวกัน
เนื่องจากเราพักกันที่โรงแรมซัมแวร์ ซึ่งเป็นเครือเดียวกับโรงแรม Kantary Bay Sriracha โดยแขกที่พักที่โรงแรม Somewhere สามารถนำรถมาจอดได้ที่ Kantary Bay Sriracha ที่จอดรถดีมาก ไม่ต้องกังวลว่ารถจะเป็นอะไรเพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่
แค่แจ้งเค้าว่าเราจะไปเช็คอินที่ Somewhere เค้าก็จะจัดรถไปส่งถึงท่าเรือเลย แถมฟรีด้วยจ้า
รถรับส่งของโรงแรมก็พาเรามายังท่าเรือเพื่อข้ามไปเกาะสีชัง ค่าข้ามผู้ใหญ่ 50 บาท ส่วนน้องเกรซน้องกายเค้าคิดเป็นหัวเดียวครับ
นั่งไกลเหมือนกันน่าจะประมาณ 45 นาที ทำเอาน้องเกรซสลบไปเลย 5555
พอเราแจ้งว่าเราจะไปพักที่ Somewhere เค้าก็จะมีประสานงานให้รถสกายแล็ปมารับที่ท่าเรือเลย ค่ารถไปยัง Somewhere 60 บาทครับ
นั่งรถสกายแล็ปแค่ประมาณ 10 นาที ก็ถึงแล้วโรงแรม Somewhere
มาถึงก็มาเช็คอินกันที่ล็อบบี้กันก่อนเลย ล็อบบี้ที่นี่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรครับ แต่ก็ดูสวยงามเรียบร้อยดี
โรงแรมซัมแวร์ ตกแต่งเรียบง่ายๆเน้นสีขาวและสีฟ้าเป็นหลัก
บริเวณนี้คือโถงทางเข้าอาคารที่เป็นห้องพัก ดูเรียบง่ายแต่สวยไปอีกแบบ
เข้าไปชมในห้องพักกัน ห้องตกแต่งน่ารักดี มีโซฟาให้นั่งเล่นด้วย
กาต้มน้ำ ชากาแฟบริการฟรีครับ
ห้องน้ำประมาณนี้
มีระเบียงให้ออกไปนั่งชมวิวด้วย
ด้านล่างมีสวนหย่อมเล็กๆ
ที่นี่มีห้องอาหารเดียวนะ ใช้เป็น All Day Dining ตั้งแต่เช้ายันค่ำเลย
ซีซ่าร์สลัดกับอกไก่ ราคา 120 บาท จานนี้ถ้าสั่งทานที่กทม.ต้องมีเกือบสามร้อยบาทแทบทุกร้าน เจอราคานี้เข้าไปรีบสั่งมาลองเลย ผักสดกรอบดี คลุกน้ำสลัดอย่างทั่วถึง แถมชีสสไลด์มาแผ่นโต คุณนายกะว่าจะลดน้ำหนัก กลายเป็นเพิ่มน้ำหนักแทนละงานนี้
Smoked Salmon Pizza พิซซ่าแป้งบางกรอบ อบกับ Tomato Sauce และ Mozzarella Cheese ได้ที่แล้วค่อยมาแต่งหน้าด้วยแซลมอนรมควันพร้อมไข่แซลมอน รสชาติดีเลย แต่อบมาเกรียมไปนิด โดยรวมก็ยังอร่อยอยู่นะ แถมราคา 300 บาทเอง ถือว่าราคาไม่แพงเลย
ส่วนจานนี้ Penne Al’aglio-e-olio สั้นๆง่ายๆก็คือ เพนเน่ผัดเบคอน น้ำมันมะกอก กระเทียม และพริกแห้ง ราคา 120 บาท ถูกอะไรปานนั้น ที่สำคัญอร่อยมากๆและให้เบคอนมาอย่างเยอะเลย
ส่วนเด็กๆก็ทานสปาเก็ตตี้คาร์โบนาราตามเคย ราคา 150 บาท จะถูกไปไหนที่สำคัญอร่อย แบบนี้ขอฝากท้องที่โรงแรมทุกมื้อเลยจ้า
ของคาวจานสุดท้ายสำหรับมื้อนี้เป็น Grilled Pork Chop with Mushroom Sauce ราคา 190 บาท ขอบอกว่าดีงามเกินราคามากจริงๆ
มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ของห้องอาหารที่โรงแรมซัมแวร์ เกาะสีชัง ถ้าใครมาแล้วพลาดไม่ได้ลิ้มลอง Honey Toast แล้วล่ะก็ ต้องขอบอกว่ายังมาไม่ถึงนะจ๊ะ หน้าตาอาจดูไม่สวยงามเท่าไหร่ แต่ดีงามตรงขนมปังที่หั่นขอบออกและชุบเนยทุกด้าน ทำให้ทุกคำทานทานไปกรอบนอกนุ่มในและชุ่มเนยมากๆ พูดแล้วก็อยากกลับไปทานอีก
บรรยากาศของโรงแรมยามค่ำคืน
สระว่ายน้ำไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็พอว่ายน้ำออกกำลังกายได้นะ
อาหารเช้าในวันที่ครอบครัวเราไปแขกเต็มทุกห้อง จึงมีทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และมีบางส่วนสั่งจากเมนู ไส้กรอก เบคอน ข้าวผัด ข้าวต้ม ตามรูปเลยจ้า
ผักสลัด และ Cold cut กับชีสต่างๆ
ขนมปังต่างๆข้ามฝั่งมาสดใหม่ทุกวันจ้า
มุมนี้เด็กทุกคนปลื้มเป็นพิเศษ กินแค่นี้ก็อิ่มกันละ
สั่งไข่จากเมนูทำสดๆใหม่ๆเสิร์ฟถึงโต๊ะ ถ้าวันไหนแขกไม่เยอะก็จะไม่มีไลน์อาหาร ต้องสั่งออเดอร์ตามสั่งจากเมนูนี้ได้ไม่อั้นจ้า
เช้าๆยังทานอะไรไม่ค่อยลง ขอจัดเบาๆแค่นี้พอ
สาวๆคนไหนที่มาเที่ยวสถานที่แดดแรงๆแบบนี้แล้วกลัวตัวจะดำ คุณนายแอนเธอมีตัวช่วยอย่าง AVELA (เอเวล่า) ติดตัวมาด้วยทุกครั้งเลย
AVELA (เอเวล่า) เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อบำรุงผิวสวย และทำให้ผิวทนแดดได้ดียิ่งขึ้น แล้วถ้าใครออกแดดมากๆ AVELA ก็จะช่วยให้เซลล์ผิวผลัดเปลี่ยนเร็วขึ้น ผิวดูสุขภาพดี เมืองไทยแดดร้อนขนาดนี้ ทากันแดดอย่างเดียวคงยังไม่พอแล้วจ้า AVELA มีสารสกัดชั้นดีเพื่อบำรุงผิวสวยอย่างคอลลาเจน สารสกัดจากเมล็ดองุ่น ซิตรัส และทับทิม ทานง่ายๆแค่ผสมน้ำเย็นแล้วดื่มวันละซอง ของดีเลยมาบอกต่อจ้า
ใครสนใจก็ลองไปหามาทานกันดูนะ https://www.facebook.com/avelaofficial
อิ่มแล้วพักแป๊บนึง ก็ขอกระโดดลงน้ำกลางแดดเปรี้ยงๆนี่ล่ะ ร้อนๆแบบนี้ลงน้ำแล้วสดชื่นจริงๆ ออกแรงว่ายกันให้เต็มที่เลยนะ เด็กๆ
ไปชมคลิปน้องเกรซน้องกายเล่นน้ำกัน
เที่ยงนี้เปลี่ยนมาลองชิมอาหารไทยดูบ้าง เริ่มจานแรกกันด้วยผัดไทยกุ้งสด จานนี้ราคา 100 บาท ราคายังถูกกว่าหลายๆร้านอาหารทั่วไปด้วยซ้ำ
ผัดเปรี้ยวหวานซี่โครงหมู ราคา 120 บาท จานนี้รสชาติพอใช้ได้เลย ขอติที่หมูเหนียวไปนิด
ต้มยำรวมมิตรมีมาทั้งกุ้งและปลาหมึกสดๆ ราคา 140 บาท น้ำซุปครบรสจ้า
ถึงเวลาไปเที่ยวเกาะสีชังกันแล้ว ชมคลิปกัน
บ่ายแก่ๆ แดดเริ่มร่มก็ได้เวลาตระเวนเที่ยวเกาะสีชังกันแล้ว วิธีการเที่ยวเกาะสีชังส่วนใหญ่จะใช้วิธีเช่ามอเตอร์ไซค์ขับเที่ยว หรือ เหมารถสกายแล็ปให้ขับพาไปเที่ยวตามจุดต่างๆของเกาะ ราคาอยู่ที่ 250 บาทต่อวัน (เที่ยวจริงๆสัก 2-4 ชั่วโมง)
ครอบครัวเราเริ่มต้นเที่ยวกันที่สะพานอัษฎางค์
สะพานอัษฎางค์ ถือเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญยอดนิยมของเกาะสีชัง เค้าว่ากันว่าถ้ามาเกาะสีชังแล้วไม่มาที่สะพานอัษฎางค์ ถือว่ายังมาไม่ถึงเกาะสีชังนะ
สะพานอัษฎางค์ ตั้งอยู่ในบริเวณของพระจุฑาธุชราชฐานซึ่งเป็นพระที่นั่งเก่า ภายในร่มรื่นและสงบมาก จึงเป็นที่นิยมในการมาถ่ายภาพ Pre-Wedding ของคู่แต่งงาน
น้องเกรซน้องกายนั่งในหัวใจที่เรียงจากดอกไม้
มีหลักกิโลเมตรสวยๆด้วย
พระที่นั่งมันธาตุรัตน์โรจน์ ซึ่งเป็นพระที่นั่งเครื่องไม้สักทอง 3 ชั้น โปรดให้เชิญมาสร้างขึ้นใหม่ใกล้พระที่นั่งอัมพรสถาน ในพระราชวังดุสิต เมื่อ พ.ศ. 2443 พระราชทานนามใหม่ว่า “พระที่นั่งวิมานเมฆ” หลังจากเหตุการณ์วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 พระจุฑาธุชราชฐานจึงมิได้เป็นพระราชวังในการเสด็จแปรพระราชฐานตั้งแต่นั้นมา
เรือนไม้ริมทะเลสีเขียว เดิมทีเป็นบ้านของชาวต่างชาติ แต่ตอนนี้เป็นจุดบริการนักท่องเที่ยว
เดินดูอาคารรอบๆสวยๆ
ภายในก็จะมีจัดแสดงของเก่าและประวัติของพระที่นั่ง
รถสกายแล็ปขับพาเรามาชมอ่าวอัษฎางค์ ซึ่งถ้ามาตอนบ่ายจะเป็นช่วงน้ำขึ้น จะมองไม่เห็นหาดเหมือนช่วงเช้า
นั่งรถสกายแล็ปเที่ยวต่อ มองไปข้างทาง เอ้ย… เจอหมูป่าจ้า หมูป่ากำลังกินข้าวอยู่
คนขับรถสกายแล็ปเล่าให้ฟังว่าเดิมทีมีชาวบ้านบนเกาะสีชังเลี้ยงไว้ดูเล่นไม่กี่ตัว แต่ด้วยหมูป่ามันผสมพันธุ์ออกลูกออกหลานมาไวมาก เค้าเลยเริ่มเลี้ยงไม่ไหว จึงนำไปปล่อยในป่า ปรากฏว่าเจ้าหมูป่าก็ขยายพันธุ์ต่อมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้มีเป็นหลายร้อยตัวบนเกาะสีชังครับ
ที่เที่ยวต่อมา เรามาเที่ยวต่อกันที่ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ต้องขึ้นบันไดออกกำลังกายกันนิดหนึ่งนะ
ด้านบนก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ไหว้เยอะไปหมดเลยครับ
วิวบนนี้มองเห็นเกาะสีชังได้อย่างสวยงาม ทำให้ที่ขึ้นบันไดมาสูงๆหายเหนื่อยเลย
ถ้ำเจ้าพ่อเขาใหญ่สวยงามมากเลย
กระดาษสีแดงๆคือ กระดาษที่คนมาเขียนคำอธิษฐานกันครับ
มาเที่ยวกันต่อที่ช่องเขาขาด ซึ่งจุดนี้เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่เป็นที่นิยมมาก
น่าเสียดายที่วันนี้มีเมฆเยอะไปหน่อย เลยไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินเลย แต่ไม่เป็นไรนะ แค่นี้ก็เที่ยวสนุกแล้วหละ
เที่ยวเกาะสีชังไม่ไกลจากกรุงเทพ แถมมีอะไรให้เที่ยวมากมาย ใครมีเวลาก็พาครอบครัวมาเที่ยวเกาะสีชังกันนะครับ วันนี้ลากันไปก่อนนะ บะบายยยย
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป