รีวิวกระบี่ตอนนี้เด็กจิ๋วจะย้ายที่พักจากไร่เลย์วิลเลจ มาที่สมเกียรติบุรี รีสอร์ท อ่าวนาง นะคะ
เราได้มีโอกาสไปเที่ยวท่าปอม คลองสองน้ำกันมาด้วย เป็นอีกสถานที่ที่ประทับใจมากๆค่ะ
พอกลับจากไร่เลย์ เราก็ไปที่ท่าปอม คลองสองน้ำกันเลย
เราเคยดูรูปจากใน web กันมาบ้างแล้วว่าคลองที่นี่น้ำสีฟ้าสวยใสแจ๋วเลย
แต่พอไปถึง ไหงมันเป็นแบบนี้ไม่เหมือนในรูปเลย เดินดูจนครบรอบเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ก็ไม่เห็นมีจุดไหนเป็นแบบในรูปที่ดูมา
จนตอนหลังถึงมารู้จากเจ้าหน้าที่ว่า วันที่เรามาเป็นวันน้ำใหญ่
น้ำทะเลหนุนสูงมาก น้ำทะเลผสมกับน้ำจืดในคลองท่าปอมกลายเป็นคลองน้ำกร่อยสีฟ้าขุ่น
แถมเรายังไปตอน 11 โมงกว่าๆ เป็นช่วงน้ำสูงสุดของวันเลย ฉะนั้นน้ำในคลองจึงเต็มมาก สูงเกือบจะถึงสะพานทางเดินแบบนี้
น้ำเยอะๆ เด็กๆเล่นน้ำกันสนุกไปเลย
(ตรงนี้เป็นช่วงปลายคลอง เล่นน้ำได้ค่ะ ถ้าช่วงต้นๆคลอง ที่มีต้นไม้เยอะๆ จะไม่อนุญาตให้เล่นน้ำค่ะ)
เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าอยากเห็นสวยๆ ให้มาตอนน้ำลง ซึ่งน่าจะเป็นช่วงบ่ายๆ
เราก็เลยตั้งใจว่าก่อนกลับบ้านพรุ่งนี้บ่าย จะแวะมาอีกรอบ ต้องมาดูตอนน้ำสวยใสๆให้ได้เลย
เที่ยงวันนี้ ภูมิใจนำเสนอร้านอาหารนี้มาก ร้านเรือนไม้
เป็นร้านที่พี่จากไร่เลย์วิลเลจพามา เรามากระบี่หลายครั้ง ไม่เคยรู้จักร้านนี้เลย
เราอาจจะปลื้มกับอาหารและบรรยากาศร้านนี้มากๆ เป็นความรู้สึกจริงๆ ที่ไม่ได้อวยนะคะ
เพราะเรา love ที่นี่จริงๆ ถ้าไปกระบี่คราวหน้า ต้องไปกินอีกให้ได้ค่ะ
บรรยากาศในร้าน ร่มรื่นน่านั่งมาก เรานั่งกันตรงระเบียงที่เห็นค่ะ จริงๆในร่มก็มี แต่วันนี้อากาศดี ไม่ค่อยร้อน เลยนั่งตรงนี้ดีกว่า
และโชคดีมากที่เราไปถึงก่อนเที่ยง เลยพอมีโต๊ะว่าง ถ้ามาช้ากว่านิด อดกินแน่ๆ เพราะหลังจากเรามา คนก็มาต่อคิวกันเพียบๆเลย
(อาจจะเป็นเพราะจำนวนโต๊ะที่ไม่มากเท่าไหร่ด้วย)
จานนี้อร่อยมาก แกงปูใบชะพลู หอมมากๆ ไม่เผ็ดมาก กำลังดีสำหรับเรา
(ความทนทานต่ออาหารเผ็ดของเราอยู่ในระดับต่ำมากๆค่ะ)
ภาชนะ จาน ช้อน ร้านนี้เก๋ๆค่ะ มีทัพพีไม้ จานดินเผา ช้อนส้อมทองเหลือง ชอบไปหมดเลย
(แต่เด็กจิ๋วบอกว่าไม่สะอาด ให้แม่เอาไปล้าง เพราะเด็กไม่รู้ว่าช้อนทองเหลืองสีเป็นแบบนั้น ไม่เคยใช้มาก่อนค่ะ ต้องอธิบายกันอยู่นาน)
ยำผักกูด อร่อยมากๆอีกแล้ว จานนี้รอนานหน่อย เพราะเด็กเอาไปเสิร์ฟผิดโต๊ะ
แต่ก็สมกับที่รอ ใส่ส้มโอด้วย อยากกินอีก…คือมันใช่…
ไก่ทอดของเด็กจิ๋ว กรอบดี อร่อยตามมาตรฐานทั่วไป
จานนี้ก็อร่อย เราเรียกใบเหลียงผัดไข่ แต่ในเมนูเรียกผักเหมียง
เคยกินที่กรุงเทพฯ หรือที่สมุย มันเหนียวมาก ไม่อร่อย แต่อันนี้ใช้ได้
(ใบเหลียงที่คิดว่าเด็ดสุดที่เคยกิน คือที่ชุมพรค่ะ ร้านอาหารใกล้ๆธูษิตารีสอร์ท ที่เราจำชื่อไม่ได้ซะแล้ว)
อันนี้เด็ดมาก… เราสั่งน้ำพริกกุ้งเสียบเผ็ดน้อย
รสชาติดีมาก ปกติปะป๊าจะชอบกินอาหารแบบนี้ แต่แม่ไม่เอาเลย เพราะกลัวเผ็ด
แต่จานนี้อร่อยจริงๆ เผ็ดนิดหน่อย ก็ทนเอา เพราะมันอร่อย
จบท้ายด้วยของหวานที่มาในภาชนะเก๋ๆ
เต้าทึงเย็นของเด็กจิ๋ว อันนี้ไม่ได้ชิม เด็กไม่ยอมแบ่งค่ะ
ของแม่เป็นข้าวเหนียวทุเรียน ใช้ข้าวเหนียวดำ แปลกดี ไม่เคยทาน
ถ้วยนี้ไม่ค่อยหวาน แต่เผอิญแม่ชอบหวานๆ เลยเฉยๆกับถ้วยนี้ (แต่ก็หม่ำเรียบคนเดียวเบย…)
อิ่มอาหารกลางวันแล้ว เราก็มาที่สมเกียรติบุรี รีสอร์ทแถวๆอ่าวนาง
ก่อนมา ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นรีสอร์ทแนวป่าๆ concept คือป่ากลางเมือง
รีสอร์ทอยู่ในย่านที่เจริญของอ่าวนาง ทางเข้าอยู่ตรงข้ามกับสตาร์บัคเลย
ประมาณว่าจากรีสอร์ทเดินไปชายหาดอ่าวนาง ก็ราวๆ 300 เมตรค่ะ
พอเข้ามาปุ๊บก็เข้าใจเลยว่าทำไมเป็นป่ากลางเมือง เพราะในนี้ต้นไม้เยอะมากๆ เยอะจริงๆ
ฟังมาจากทางเจ้าหน้าที่ว่าคุณสมเกียรติผู้ที่สร้างที่นี่ขึ้นมา รักต้นไม้มากๆ ไม่ค่อยยอมให้ตัดต้นไม้
รีสอร์ทเลยเป็นป่าขนาดย่อมแบบนี้
ตรงนี้เป็นส่วนร้านอาหาร เรานั่งทานกันท่ามกลางป่า ที่มีกระรอกตัวโตๆ มาวิ่งเล่นโชว์ด้วย
โลเคชั่นที่นี่ดีมากๆ อยู่อ่าวนาง เหมาะกับการมาพักเพื่อเดินทางไปเที่ยวเกาะแก่งต่างๆของกระบี่
แถมวิวภูเขาเบื้องหลังก็งามมากๆ เราได้แต่เปรยๆไปว่าถ้าต้นไม้ไม่บังแบบนี้ วิวจะงามสุดๆ
แต่ทางรีสอร์ทก็ไม่อยากตัดต้นไม้ใหญ่ อยากคง concept ของป่าในเมืองเอาไว้
ซึ่งต่อไปมีโครงการจะปรับภูมิสถาปัตย์ของป่าบริเวณรีสอร์ทนี้ใหม่ โดยพยายามคงต้นไม้เดิมให้ได้มากที่สุด และโชว์ทิวทัศน์ความงามของภูเขาด้วย
เช็คอินด้านหน้าเรียบร้อย ก็เดินเข้าไปเข้าห้องกัน
ทางเดินในรีสอร์ท จะเป็นสะพานไม้วนรอบ ปกคลุมด้วยต้นไม้แบบนี้
ห้องที่นี่เป็นตึก 2 ชั้น มีหลายๆตึก ตึกนึงจะมี 4 ห้อง
เราได้อยู่ตรงช่วงกลางๆ ชั้นบน ลองเข้าไปดูห้องกันนะคะ
ห้องนี้เป็นแบบ Deluxe คือจะมีเตียงใหญ่ 2 เตียง แบบนี้
ห้องน้ำกว้างขวาง มีอ่างอาบน้ำด้วย
ด้านหลังระเบียงห้องต้นไม้เยอะมาก มีคลองเล็กๆ ที่มีปลาเยอะแยะไหลผ่านหลังระเบียงห้องด้วย
ห้องที่เราพัก มองตรงไปจากระเบียง จะเห็นสระว่ายน้ำด้วย ถ้าต้นไม้ไม่บังเยอะขนาดนี้ คงวิวดีมากๆ
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ เพราะฝรั่งที่มาพัก ส่วนใหญ่ชอบแบบต้นไม้เยอะจัดๆ ป่าๆแบบนี้ค่ะ
เก็บข้าวของเสร็จแล้ว เด็กจิ๋วก็เปลี่ยนชุดไปว่ายน้ำทันที
ตรงโซนสระว่ายน้ำจะมีห้องพักล้อมรอบ เรียกว่า Poolside ซึ่งหลังนึงจะมี 2 ห้อง ล่างบนแยกกัน
ห้อง Poolside จะมีขนาดเล็กกว่าห้อง Deluxe ที่เราอยู่ คือจะมีเตียงใหญ่เตียงเดียว
ลักษณะห้องจะเหมือนกับห้อง Superior ที่เราได้เข้าไปถ่ายรูปมาด้วย แบบนี้
สระน้ำที่นี่เล่นสนุกมาก มีบริเวณที่เป็นจากุซซี่ และพื้นสระจะเป็นเทๆ จากตื้นๆ ที่เด็กจิ๋วยืนถึง ไปจนลึกมาก
เล่นน้ำเสร็จ เราออกไปขับรถเล่นเลียบอ่าวนางกัน
วิวทะเลที่อ่าวนางสวยมากๆ แต่เสียดาย พื้นที่ริมชายหาดสกปรกมากๆ เต็มไปด้วยขยะจากนักท่องเที่ยวเกลื่อนพื้นเลย
ไม่ว่าจะเป็นกล่องโฟมพลาสติกที่มีซากส้มตำ ไม้เสียบอาหาร ขวดน้ำ กระป๋องเบียร์ เศษอาหาร เยอะจริงๆ
อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดระเบียบตรงนี้จริงๆ คือเสียดายวิวสวยๆ ที่นี่
มันสกปรกจนเราไม่สามารถมานั่งชิวๆ ชมทะเลตรงนี้ได้ เราลงไปถ่ายรูปแว้บๆ แล้วก็กลับไปทานข้าวที่รีสอร์ทดีกว่า
มื้อนี้สั่งเอง เมนูก็เหมือนๆกับที่ไร่เลย์วิลเลจเลย
คือเจ้าของผู้สร้างทั้งสองรีสอร์ทเป็นคนเดียวกันค่ะ (และครัวที่นี่ก็เป็นฮาลาลเหมือนกันค่ะ)
ถึงแม้ตอนนี้สมเกียรติบุรี จะมีทีมผู้บริหารเพิ่งเข้ามารับช่วงใหม่ แต่ก็ยังเป็นรีสอร์ทพี่น้องกันเหมือนเดิม
อาหารรสชาติปกตินะคะ ถือว่าผ่าน
มีจานที่เราว่าอร่อยคือ กระทะร้อน ตอนมาเสิร์ฟ มีการโชว์ไฟลุกด้วยค่ะ ไฟลุกเยอะมาก ตื่นเต้นเลย กลัวน้องคนเสิร์ฟโดนไฟลวก
ผัดซีอิ๊วของเด็กจิ๋ว ตอนนี้กำลังเป็นเมนูโปรด สั่งเหมือนกันสองวันเลย
อิ่มแล้ว เดินเล่นรอบๆรีสอร์ทกันหน่อย
ตรงนี้เป็นบริเวณ Front ที่เข้ามาแล้วจะเจอตรงนี้ก่อนเลย
เดินขยับเข้ามาหน่อยก็เจอส่วนร้านอาหาร
ซึ่งด้วยความที่ต้นไม้เยอะ ทำให้มียุงค่อนข้างเยอะ ทางรีสอร์ทมีแจกตะไคร้หอมให้
แม่ก็กระหน่ำฉีดให้เด็กจิ๋ว ปรากฎว่าสามารถรอดพ้นจากยุงมาได้ แต่แม่ไม่รอด ยุงกัดเต็มขา เพราะดันไม่ฉีดให้ตัวเอง
ตรงสระน้ำตอนกลางคืน
เช้าวันสุดท้ายที่กระบี่ เราทานอาหารเช้าท่ามกลางแมกไม้ นั่งชมนกจิ๊บ และกระรอกไปตามเรื่อง
เป็นเช้าที่บรรยากาศดีดีอีกวัน
สำหรับไลน์อาหารเช้าก็เหมือนๆกับที่ไร่เลย์วิลเลจเลยค่ะ
วันนี้เด็กจิ๋วแปลงร่างเป็นราพันเซลนะคะ
หลังอาหารเช้า ก็มาเดินถ่ายรูปรอบๆรีสอร์ท
ก่อนออกจากที่พัก เด็กจิ๋วยังเล่นน้ำต่ออีก ต้องใช้ความพยายามมากมายในการให้เด็กขึ้นจากน้ำ
เราทานกลางวันกันที่รีสอร์ท เป็นจานเดียวง่ายๆ รสชาติใช้ได้เลยค่ะ
และตามที่ตั้งใจไว้ บ่ายนี้เราไปท่าปอม คลองสองน้ำกันอีกรอบ
คราวนี้ไปกันเอง ไม่มีเจ้าถิ่นนำทางเหมือนเมื่อวาน เลยหลงกันไปพอให้เสียเวลากันเล็กน้อย
เนื่องจากเราดันให้ Google Map ในมือถือนำทาง แล้วพอบางช่วงไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ก็หลงเบย…
เข้ามาที่ตรงท่าปอม คลองสองน้ำ จะมีลานจอดรถในสวนปาล์ม เก็บค่าจอดคนละ 20 บาท
สวนปาล์มสวยมากๆ น่าเข้าไปเดินเล่นถ่ายรูปจริงๆ
มาคราวนี้ น้ำกำลังลง เห็นน้ำในคลองสีฟ้าใสเลย สวยมากๆ… แบบนี้สิ ที่เราอยากมาดู
น้ำใสๆ บวกกับรากของต้นไม้ ทำให้คลองแห่งนี้สวยจริงๆ ไม่ผิดหวังที่กลับมาอีกรอบ
เมื่อวานน้ำขึ้นมาสูงมาก เกือบถึงสะพานไม้ และท่วมท่าน้ำหมดเลย
น้ำสีสวยมากๆ มีฝรั่งจุ่มกล้อง Go Pro ลงไปใต้น้ำด้วย ปะป๊าไม่รอช้า จุ่ม Sony Action Cam ลงไปบ้าง
เรานั่งเล่นกันอยู่ที่ท่าปอมกันนานพอสมควร จนได้เวลากลับบ้านแล้ว
จบทริปนี้ด้วยความประทับใจ รู้สึกว่ามาครั้งนี้ได้เข้าถึงกระบี่มากขึ้น
ตอนขับรถจากอ่าวนางมาท่าปอม เพิ่งสังเกตเห็นว่าภูเขาที่นี่สวยมากๆ
ความจริง เรามีแผนจะไปถ่ายรูปเขาขนายน้ำในเมืองด้วย แต่เวลาหมดซะก่อน เลยอดไปเลย
ถ้ามีโอกาส จะกลับมาเที่ยวใหม่นะกระบี่
เด็กจิ๋วต้องบ้ายบายไปก่อนนะคะ พบกันใหม่รีวิวหน้า จะพาไปเที่ยวกันอีกนะคะ
DekJewChillOut
ครอบครัวของเด็กจิ๋ว มีปะป๊ากับแม่ที่ชอบเที่ยวกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตั้งแต่มีเด็กจิ๋วเกิดมา ก็รู้สึกว่าการท่องเที่ยวของบ้านเรามันดูจะวุ่นวายมากขึ้น แต่ทุกครั้งก็เต็มไปด้วยความสุข จนต้องบันทึกภาพและเรื่องราวเก็บไว้เพื่อให้ความทรงจำดีๆอยู่กับเรานานที่สุด เราเลยอยากแบ่งปันเรื่องราวดีๆให้เพื่อนๆ ตามกันไปสนุกด้วยกันนะคะ Dek Jew Chill Out เด็กจิ๋วชิลด์เอ้าท์ https://www.facebook.com/DekJewChillOut https://www.youtube.com/user/tanomnuan/videos