

ทริปไปเที่ยวสุโขทัยเป็นทริปฉุกเฉินเล็กน้อย เพราะว่าสัปดาห์ก่อนตั้งใจจะพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดแต่น้องเกรซดันเกิดป่วยกะทันหัน หลังจากน้องเกรซหายดี สัปดาห์ที่ไปตรงกับวันเกิดของภรรยาแอนพอดี เราจึงตัดสินใจจัดทริปเที่ยวซ่อมฉุกเฉินไปฉลองวันเกิดให้คุณนายแอนกันครับ ทริปนี้เราจะไปพักกันที่ Sukhothai Heritage Resort รีสอร์ทสวยประจำจังหวัด ออกไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ศรีศรีสัชนาลัย ทานข้าวพันที่ร้านหมี ชมการทอผ้าตีนจก ชมการผลิตเครื่องเงินเครื่องทอง ขี่จักรยานเที่ยวอุทยานประวัติศาสาตร์สุโขทัย เที่ยววัดศรีชุม (มีพระพูดได้ด้วยอ่ะ) ชิลด์ร้านกาแฟบ้านจันทร์ฉาย กินก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยที่ร้านไม้กลางกรุง ปิดท้ายด้วยเที่ยวเชิงเกษตรที่โครงการเกษตรอินทรีย์
และเนื่องจากเป็นทริปฉุกเฉิน เราวางแผนไม่ทัน ทริปนี้จึงใช้บริการ “บินดี อยู่ดี” ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ซึ่งเค้าจะจัดเป็นโปรแกรมที่รวมตั๋วเครื่องบิน + ที่พัก + อาหารเช้า + รถเช่าพร้อมคนขับ + อาหารกลางวัน + ที่เที่ยวต่างๆ ไว้หมดแล้ว ข้อดี คือ เราแทบไม่ต้องวางแผนเตรียมตัวจองนั่นจองนี่ให้วุ่นวาย แผนเที่ยวก็ไม่ต้องทำ คล้ายๆกับการซื้อทัวร์ครับ แต่เป็นทัวร์ที่มีมาตรฐานหน่อย บินด้วยสายการบินดี โรงแรมก็ระดับ 4 ดาวขึ้นไป ที่จริงก็มีหลายเส้นทางนะ แต่ทริปนี้เราอยากเที่ยวสุโขทัยก็เลยเลือกสุโขทัย ราคาสำหรับโปรแกรม 2 วัน 1 คืนจะอยู่ที่ 7,200 – 7,400 บาทต่อคน ส่วนเด็กจะอยู่ที่ 6,700 บาทต่อคน แต่ผมกลัวเด็กๆจะเหนื่อยเลยขอเพิ่มที่พักอีก 1 คืน และเปิดห้องอีก 1 ห้อง เบ็ดเสร็จราคาจะอยู่ที่ 9,200 ต่อคนครับ
สำหรับเส้นทางอื่นๆดูรายละเอียดต่างๆตามนี้ครับ : https://www.bangkokair.com/app/webroot/packages/01.html
สำหรับแพ็คเกจนี้ คนที่เป็นสมาชิกฟลายเออร์โบนัส จะได้รับน้ำหนักสัมภาระถึง 30 กิโลกรัม และสะสมเที่ยวบินได้ โดยเราสามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ที่ www.FlyerBonus.com
รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกที่ครอบครัว 2 Madames ได้ทำริวิวในรูปแบบรายการด้วย ใครขี้เกียจอ่านตัวหนังสือ หรือต้องการซึมซับอารมณ์ของการเดินทางและบรรยากาศแบบครอบครัวแบบครบถ้วนทั้งแสง สี แสง เชิญรับชมรายการ “รักใคร ให้พาไปเที่ยว” ตอนที่ 1-4 ครับ
เอาละเกริ่นนำไปเยอะแล้ว ออกเดินทางกันเลยดีกว่า เช็คอินกระเป๋ากันก่อนนะ วันนี้เด็กๆตื่นเต้นกันน่าดู
การบินกับ Bangkok Airways ดีงามตรงที่มีห้องรับรองหรือ Lounge ให้ใช้บริการด้วย
บรรยากาศภายในเลาจน์ครับ
มีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการด้วย
สนามเด็กเล่นก็มีนะ
ถูกใจเด็กๆมากเลย ใครสนใจชมรีวิวห้องรับรองของ Bangkok Airways แบบเต็มๆ เชิญที่นี่เลยครับ http://www.2madames.com/bangkok-airways-lounge/
ขึ้นเครื่องบินพร้อมเดินทางกันแล้วจ้า
บินไปสุโขทัยแล้วจ้า
แค่ประมาณหนึ่งชั่วโมงก็เดินทางมาถึงสนามบินสุโขทัยแล้ว สัมผัสแรกเลยบอกตรงๆเลยว่าที่นี่มันไม่เหมือนสนามบินเลย เหมือนกับรีสอร์ทมากกว่า สวยเกินไปนะ
และที่น่าประหลาดใจอีกอย่างของสนามบินสุโขทัย ก็คือ ปกติสนามบินทั่วไปเราจะต้องไปรับกระเป๋าที่สายพาน แต่ที่นี่ไม่มีสายพานนะ เจ้าหน้าที่จะตั้งกระเป๋าเรียงไว้ให้เลย แหม… ดีเหมือนกัน
ทันทีที่ออกจากสนามบิน คนของโรงแรมสุโขทัย เฮอริเทจ ก็มารับพวกเราเลย มันก็ดีแบบนี้แหละ ไม่ต้องวางแผนเลย
ที่พักห้องสวยมากอ่ะ
ระเบียงมีที่นั่งเล่น มองไปสระว่ายน้ำได้
ห้องน้ำดูดีเชียว
ภารกิจวันแรกยังไม่เริ่มโปรแกรมเที่ยวนะ เราเลยพักผ่อนและว่ายน้ำสนุกกัน
มาชมบรรยากาศยามค่ำคืนของ Sukhothai Heritage Resort กัน
สวยมากทีเดียว
บริเวณสระว่ายน้ำงามมาก
รุ่งเช้าทานอาหารกันที่รีสอร์ทเสร็จ ก็มีรถตู้มารับครอบครัวเราไปเที่ยว
วันแรกเราเริ่มเที่ยวจากอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยกัน
วัดนี้ชื่อว่าวัดช้างล้อม วัดช้างล้อมนี้น่าจะเป็นวัดเดียวกันกับที่ปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ 1 ที่กล่าวไว้ว่าในปี พ.ศ. 1829 พ่อขุนรามคำแหงทรงให้ขุดเอาพระธาตุขึ้นมาทำบูชา และฝังลงในกลางเมืองศรีสัชนาลัยก่อนก่อพระเจดีย์ทับลงไป
เจดีย์ประธานทรงลังกาขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อนกันหลายชั้น มีทางเดินเป็นบันไดขึ้นไปยังชั้นบน โดยรอบเจดีย์มีช้างปูนปั้นเต็มตัวประดับโดยรอบฐานทั้ง 4 ด้าน ด้านละ 9 เชือก (ยกเว้นด้านหนึ่งซึ่งเป็นบันไดทางขึ้นมีเพียง 8 เชือก) และที่มุมมีช้างขนาดใหญ่ประดับอีก 4 เชือก รวมเป็น 39 เชือก ช้างเชือกใหญ่ที่อยู่มุมเจดีย์เป็นช้างทรงเครื่องมีลวดลายปูนปั้นประดับที่คอ และข้อเท้าสวยงามกว่าช้างที่ฐานสี่เหลี่ยม ระหว่างช้างปูนปั้นที่ฐานนั้นจะมีเสาประทีปศิลาแลงสลับเป็นระยะ ด้านหน้าช้างแต่ละเชือกจะมีพุ่มดอกบัวตูมปูนปั้นวางตั้งอยู่
โบราณสถานที่สำคัญ คือ เจดีย์ประธานทรงลังกาตั้งอยู่ภายในกำแพงแก้วสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยมีซุ้มประตูทั้ง 4 ทิศ ประตูด้านหน้าและประตูด้านหลังเป็นทางเข้าออกก่อเป็นกำแพงศิลาแลงหนามีการเล่นระดับที่ซุ้มประตูอย่างสวยงาม สำหรับประตูด้านข้างก่อเรียงอิฐศิลาแลงปิดไว้เป็นประตูตัน
สาเหตุความเป็นมาที่วัดนี้ชื่อว่า “วัดเจดีย์เจ็ดแถว” นั้น ชื่อนี้เป็นชื่อที่เรียกขึ้นภายหลังโดยราษฎรในท้องถิ่น สาเหตุที่เรียกเนื่องจากพบเจดีย์จำนวนมากมายหลายแถวภายในวัด
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง เป็นโบราณสถานที่อยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เป็นวัดที่มีความสำคัญมาแต่โบราณกาล
ด้านในของพระอุโบสถ
ด้านหน้าพระอุโบสถมีตู้ไปรษณีย์ส่งบุญด้วย เก๋มากอ่ะ
เป็นอีกวัดที่สวยงามครับ
คนโบราณนี่สร้างอะไรได้มีรายละเอียดเยอะมาก
มาเที่ยวกันต่อที่ สาธรพิพิธภัณฑ์ผ้าทองคำ
“สาธร พิพิธภัณฑ์ผ้าทองคำ” แห่งนี้ก่อตั้งโดย คุณสาธร โสรัจประสพสันติ ชาวบ้านหาดเสี้ยวที่มีใจรักในผ้าทอโบราณพื้นเมืองของบ้านหาดเสี้ยว และได้เก็บสะสมผ้าทอลายโบราณต่างๆ มานาน แล้วได้ตระหนักเห็นว่าหากไม่เก็บรักษาผ้าทอพื้นบ้านที่ทรงคุณค่าเหล่านี้เอาไว้ ต่อไปภายภาคหน้าก็จะสูญหายจากไป ฉะนั้นจึงได้สะสมผ้าเก่าเหล่านี้ไว้มากมาย แล้วก็ได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นมา
นักท่องเที่ยวที่สนใจอยากชมผ้าทองคำสามารถขอเข้าชมได้ฟรี ซึ่งคุณสาธรจะป็นผู้พานำชมพิพิธภัณฑ์ด้วยตัวเอง โดยภายในพิพิธภัณฑ์ฯ เต็มไปด้วยตู้กระจกจำนวนมาก ที่จัดแสดงผ้าทอโบราณนานาชนิด มีตู้โชว์ผ้าที่โดดเด่นซึ่งจัดแสดงผ้าซิ่นตีนจกลายโบราณ 9 ลาย ได้แก่ ลายเครือน้อย ลายเครือกลาง ลายเครือใหญ่ ลายสิบหกขอ ลายแปดขอ ลายสี่ขอ ลายน้ำอ่าง และลายสองท้อง ซึ่งถูกเก็บรักษาโชว์ไว้ในตู้กระจกอย่างดี ผ้าซิ่นตีนจกเหล่านี้มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ซึ่งผ้าทอแต่ละผืนมีความประณีต มีลวดลายและสีสันบนตัวผ้าซิ่นเป็นรูปแบบดั้งเดิมที่วิจิตรงดงามตา
ผมชอบอันนี้ครับ หมอนอันนี้จะมีรูตรงกลาง คุณสาธรเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนหนุ่มชาวพวนหากมาเยี่ยมสาวๆที่บ้าน ชาวพวนจะแจกหมอนให้หนุ่มๆสอดมือสอดแขนทั้งสองข้างเข้าไปในหมอนนี้แหละ (ผมก็สงสัยว่าหนุ่มๆชาวพวนนี้มือไวถึงต้องป้องกันเลยหรือ)
ด้านหลังจัดแสดงเครื่องไม้เครื่องมือของชาวพวนในสมัยโบราณไว้
เครื่องปั้นดินเผาโบราณเพียบ
เดินมาอีกอาคารเป็นพลับพลารับเสด็จ ก็มีบอร์ดให้ความรู้แสดงภาษาไทยและภาษาพวนอยู่ด้วย
มื้อกลางวันวันนี้เราฝากท้องกันที่ร้านหมี ข้าวพันผัก ร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำเลย วิวดี แต่ช่วงนี้น้ำแล้งไปหน่อย แห้งขอดเชียว
ขอเกริ่นนิดๆก่อนว่าข้าวพัน เดิมแล้วเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวอุตรดิตถ์ เป็นการปรุงอาหารให้สุกด้วยไอน้ำบนปากหม้อ คล้ายๆการทำข้าวเกรียบปากหม้อนั่นแหละ เคยกินต้นตำรับร้านดังที่อุตรดิตถ์เค้าต้มน้ำด้วยฟืน กลิ่นอาหารหอมมากๆ ส่วนที่สุโขทัยนี้รสชาติจะเป็นอย่างไร เรามาเริ่มชิมกันเลย
เริ่มกันด้วยเมนูที่ชื่อเก๋ไก๋อย่าง ข้าวพันผักสุกี้ไฮโซ เป็นข้าวพันห่อผัก และใส่เครื่องเคียงเป็นไส้กรอก ลูกชิ้นหมู เต้าหู้ปลาและเกี๊ยวกรอบ ทานคู่น้ำจิ้มสุกี้รสเข้มข้น เสียดายนิดๆน่าจะมีกากหมูเจียวราดมาด้วยน่าจะอร่อยกว่านี้อีกเยอะเลย
จานต่อมาเป็นข้าวพันผักไฮโซ แม้แต่ไข่ดาวก็ยังทำให้สุกด้วยไอน้ำบนปากหม้อด้วย ทานกับเกี๊ยวกรอบและไก่ทอด อร่อยไม่เบา
จานนี้เป็นข้าวพันไม้ จริงๆมันคือแป้งเพียวๆพอสุกก็เอาไม้ยาวๆพันเป็นแท่งแล้วรูดออกใส่จาน มีทั้งแบบเผ็ดและไม่เผ็ด
ถ้าให้เทียบจริงๆผมบอกเลยว่าร้านที่อุตรดิตถ์ที่เคยทานอร่อยกว่ามาก แต่ร้านนี้มีดีที่รู้จักสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆตั้งชื่อให้น่าสนใจ ถ้าใครไม่เคยทานต้นตำรับมาก่อนอาจออกปากชมก็เป็นได้
นอกจากเมนูข้าวพันต่างๆ ร้านหมี ข้าวพันผัก ยังมีก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่รสชาติแซ่บๆขายด้วย
ไข่ม้วน เมนูนี้สั่งมาให้เด็กๆทานเลย จิ้มน้ำจิ้มไก่หวานๆเด็กๆชอบจ้า
อิ่มแล้วก็เที่ยวกันต่อที่ สุนทรีผ้าไทย ศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านโบราณหาดเสี้ยว
เรามาดูชาวบ้านของหาดเสี้ยวทอผ้ากันครับ
แต่ละผืนนี่ต้องใช้เวลาและความตั้งใจมากเลยทีเดียว
มีสินค้าพื้นบ้านจำหน่ายด้วย
หลังจากดูการทอผ้าไปแล้ว จุดต่อมาเราก็มาชมเครื่องเงินกันต่อที่ ลำตัดเงินโบราณ มีจำหน่ายเครื่องเงินสวยๆเพียบครับ
ฝั่งตรงข้ามกันเป็นโรงงานผลิตเครื่องเงิน ซึ่งเค้าก็เปิดให้เราเข้าไปชมเช่นกัน
ดูเครื่องเงินกันไปแล้วที่หาดเสี้ยวเค้ายังชำนาญเรื่องทองคำด้วย
ได้มาดูเค้าผลิตสร้อยทองคำด้วยครับ เป็นอันจบโปรแกรมเที่ยววันที่สอง เดินทางกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมตามสบาย
เช้าวันรุ่งขึ้น โปรแกรมวันนี้เริ่มจากการปั่นจักรยานเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยกันครับ ค่าเช่าจักรยานคันละ 30 บาทเอง แต่เราไม่ต้องจ่ายนะ มันรวมอยู่ในแพกเกจ บินดี อยู่ดี แล้ว
แวะเที่ยววัดมหาธาตุกันก่อน
สวยมากเลยครับ
แวะไหว้พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราชกันต่อ
อีกวัดที่สวยงามมากๆที่ไม่ควรพลาดเลย คือ วัดศรีชุมครับ
วัดนี้มีพระอจนะองค์ใหญ่สวยมาก ถูกล้อมด้วยกำแพงสูง เวลาเราพูดเราจึงได้ยินเสียงสะท้อนกลับมาให้ได้ยินเสียงตัวเองด้วย สุดยอดมากครับ ใครมาเที่ยวสุโขทัยห้ามพลาดจ้า
ไม่ไกลจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เราขอแวะพักจิบเครื่องดื่มเย็นๆและทานขนมกันที่นี่ก่อน ร้านบ้านจันทร์ฉายครับ (ต้องบอกก่อนนะ อันนี้นอกโปรแกรมของบินดี อยู่ดี จ่าเองนะ)
ด้านในตกแต่งน่ารักมากเลย
มีของเล่นต่างๆให้เด็กๆเล่นด้วย
สั่งแค่นี้เบาๆมารองท้อง และนั่งพักตากแอร์ไปในตัว เพราะในอุทยานประวัติศาสตร์ร้อนมากๆ ของหวานร้านนี้ราคาไม่แพงเลย วาฟเฟิลจานนี้ราคา 79 บาทเอง ถ้าเป็นกรุงเทพฯจานนี้ต้องอย่างต่ำ 150 บาทแน่ๆ ส่วนรสชาติวาฟเฟิลต้องขอยกนิ้วให้เลยจ้า เพราะหอมเนย ปิ้งมากรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาอุ่นๆทานคู่กับไอศกรีมเย็นฉ่ำ อร่อยเริ่ดอย่าบอกใคร
อ้อ ร้านนี้มีขายก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยด้วยนะ อ่านรีวิวอื่นๆมาเห็นว่ารสชาติอร่อยดีทีเดียว ใครยังไหวทานควบกันไปได้เลย
แวะไหว้ศาลพระแม่ย่ากันครับ
ศาลพระแม่ย่าเป็นปูชนียสถานที่สำคัญของสุโขทัย เป็นที่เคารพสักการะของประชาชน ทั้งในจังหวัดสุโขทัยประประชาชนโดยทั่วไป ใครมีเรื่องทุกข์ร้อนก็จะไปกราบไหว้ตั้งจิตอธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระแม่ย่า
มื้อสุดท้ายสำหรับทริปบินดีอยู่ดีทริปนี้ น้องโชเฟอร์พาดิ่งมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยในตำนานของจังหวัดสุโขทัยกัน ขับต่อมาอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว ของหวานยังไม่ทันย่อยเลย จัดหนักกันต่ออีก
ร้านไม้กลางกรุง เป็นร้านเก่าแก่ของจังหวัดสุโขทัย ใครไปใครมาต้องแวะชิมกันให้ได้ ไม่อย่างนั้นถือว่ายังมาไม่ถึงสุโขทัย หลักๆที่ร้านขึ้นชื่อเรื่องก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ที่พิเศษแตกต่างจากก๋วยเตี๋ยวทั่วไปตรงที่ใส่ถั่วฝักยาวลวกแทนผักชนิดอื่นๆ โรยหน้าด้วยหมูสับและหมูแดง ขอแซวหน่อยว่าตั้งแต่กินก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยมา ไม่ว่าจะกี่ร้านต่อกี่ร้าน สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เห็นจะเป็นก๋วยเตี๋ยวชามเล็กมีเส้นอยู่หน่อย มีหมูพอประมาณให้ดูสมส่วนกัน และหนักเครื่องปรุง ทานทีไรชามเดียวไม่เคยพอ ส่วนเรื่องราคาเห็นชามเล็กๆน่ารักแต่ราคาไม่ยักจะน่ารักตาม ก๋วยเตี๋ยวชามนึงราคา 35 บาท แพงเอาเรื่องอยู่จ้า
ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ทานให้อร่อยต้องทานต้มยำแห้ง รสชาติจะออกหวานๆหน่อย คงเป็นเอกลักษณ์ไปแล้ว เพราะกินทุกร้านหวานนำทุกร้านเลย แต่ก็อร่อยจริงๆล่ะ
ข้าวคลุกกะปิก็อร่อยแถมให้เยอะมาก สั่งเป็นจานกลางมาแบ่งๆกันชิม
และขอย้ำว่าอย่าลืมสั่งข้าวเกรียบปากหม้อเด็ดขาด เห็นทุกโต๊ะสั่งเราก็สั่งตามบ้าง อร่อยเด็ดจริงๆ
ที่จริงรีวิวยังไม่จบนะ แต่ว่ามันเริ่มยาว งั้นขอตัดตอนเพียงเท่านี้ก่อน เดี๋ยวตอนต่อไปจะพาไปเที่ยวโครงการเกษตรอินทรีย์ สนามบินสุโขทัยกันนะครับ
ตอนต่อไป สนามบินสุโขทัย สนามบินแห่งเดียวในโลกที่เปิดให้ท่องเที่ยวเชิงเกษตร (โครงการเกษตรอินทรีย์)
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป