ต้องยอมรับจริงๆว่ายุคนี้คนอาศัยอยู่คอนโดมิเนียมเยอะมากขึ้น เฟอร์นิเจอร์หรือแม้กระทั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ จึงต้องมีการออกแบบให้เหมาะเข้ากับขนาดพื้นที่เล็กๆ รวมทั้งประโยชน์การใช้สอยของชั้นวางต่างๆต้องชาญฉลาดและตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองได้
วันก่อนผมกับภรรยาได้รับเชิญในฐานะสื่อมวลชนไปงานเปิดตัวตู้เย็นใหม่ของโตชิบา รุ่น PLUS มา หลังจากฟังเค้าเล่าข้อดีต่างๆแล้ว ต้องบอกเลยว่าเค้าออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆออกมาได้เจ๋งดีครับ วันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่าเจ้าตู้เย็นรุ่นนี้มันดียังไง มีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปรับชมรีวิวกันครับ
ที่จริงถ้าพูดถึงตู้เย็นโตชิบา คนไทยอย่างเราๆก็จะรับรู้ว่าเป็นหนึ่งในผู้นำเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องตู้เย็นเนี่ย เรียกว่าเห็นกันมากันตั้งแต่เด็กๆ ยาวนานจนมาถึงปัจจุบัน แต่โตชิบาเค้าก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองนะ ยังคงออกแบบและพัฒนาสินค้าของเค้ามาเรื่อยๆ จนล่าสุดตู้เย็น 1 ประตู รุ่น Plus ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับไลพ์สไตส์คนเมืองที่อาศัยอยู่ในคอนโดมากขึ้น ทั้งขนาดที่กะทัดรัดเหมาะกับพื้นที่คอนโด แต่กลับมากับความจุที่เพิ่มขึ้น
ด้านบนตู้เย็นก็ต้องออกแบบมาให้รับน้ำหนักได้ จะได้วางของใช้ต่างๆหรือแม้กระทั่งเตาไมโครเวฟ โดยสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 20 กิโลกรัมเลย แถมทนความร้อนสูงถึง 60 องศา ตัวที่จับเปิดก็ดึงได้ทั้งจากด้านบนและด้านข้างเลย สะดวกมากๆ
มาชมด้านในของตู้เย็นกันบ้างดีกว่าว่ามีอะไรเดิร์นๆอีก
อย่างแรกเลยนะ คือชั้นวางของตู้เย็นสามารถวางได้สองแบบ คือแบบหงายพื้นถาดเรียบใช้สำหรับวางข้าวของทั่วไป และแบบคว่ำอีกด้าน พื้นถาดมีสันนูน เพื่อวางขวดน้ำทรงกระบอกได้โดยไม่กลิ้งไปกลิ้งมา
ภาพนี้คือวางแบบหงายนะ
ตัวชั้นวางก็สามารถดึงออกมาจากตู้เย็นเป็นถาดเสิร์ฟอาหารหรือของหวานได้แบบนี้เลยนะ เก๋มากๆ
ส่วนใครที่เก็บขวดน้ำต่างๆเยอะก็สามารถคว่ำชั้นวางไปใช้อีกด้าน ซึ่งจะมีสันนูนเบรกขวดน้ำไว้ ไม่กลิ้งไปชนอาหารหรือของต่างๆที่แช่ไว้ ทีนี้เราก็สามารถจัดเรียงขวดน้ำในตู้เย็นได้มากขึ้น โดยที่เป็นระเบียบ ขวดไม่ไหลไปไหลมา
ตู้ลิ้นชักด้านล่างสุดถูกออกแบบมาให้เก็บผักผลไม้ได้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อน โดยที่ไม่ไปลดพื้นที่แช่น้ำขวดใหญ่
ลิ้นชักใต้ช่องฟรีซก็ไม่ธรรมดา เป็นช่องเก็บของสดขนาดใหญ่ หรือจะใช่แช่กระป๋องเครื่องดื่มได้สูงสุด 24 กระป๋องแน่ะ เยอะมาก
ช่องแช่แข็งก็มีพื้นที่มากกว่าเดิม แถมมีปุ่มละลายน้ำแข็ง กดทีเดียวน้ำแข็งจะถูกละลายแล้วปล่อยน้ำไหลลงถาดด้านหลังไปเองเลย ดีงามมากๆ
ช่องใส่ของด้านประตูก็ออกแบบให้ดีขึ้น
มีการแบ่งพื้นที่แช่ขวดน้ำใหญ่ และยังมีชั้นเล็กๆไว้แช่ของขนาดเล็กๆ เช่น ยา ครีม เครื่องสำอางต่างๆได้ด้วย แต่หากไม่ต้องการใช้ก็พับขึ้นแล้วยังใช้เป็นพื้นที่แช่น้ำขวดเล็กทรงสูงได้อีก
สีสันของตู้เย็นก็มีให้เลือกเยอะอ่ะ ตั้งแต่สีธรรมดา ยัน สีสันสดใส ให้เหมาะกับการตกแต่งห้องแบบต่างๆ
นอกจากนี้ เดี๋ยวนี้ตู้เย็นเริ่มเป็นของใช้ส่วนตัวมากขึ้น อย่างตู้เล็กๆแบบ Mini Bar เนี่ย คุณนายแอนเล็งไว้ไปตั้งในห้องนอน ตอนแรกนึกว่านางจะเอาไปแช่น้ำเย็นๆ ที่ไหนได้เปล่าเลย นางจะเอาไปแช่พวกเครื่องสำอางของเธอ แหม… ส่วนตัวเลยนะ
นอกจากตู้เย็นรุ่น Plus แล้ว โตชิบาเค้าก็ยังนำตู้เย็นรุ่นใหญ่อย่าง ตู้เย็นอินเวิร์ทเตอร์ 2 ประตู ความจุใหม่ไซส์กลาง 16.5 คิว และ 17.8 คิวมาแสดงด้วย
ตู้เย็นอินเวิร์ทเตอร์จะมีระบบกำจัดกลิ่นในช่องแช่แข็งที่โตชิบาคิดค้นขึ้นโดยเฉพาะ ทีนี้เราก็สามารถแช่อาหารคาวกับไอศกรีมได้โดยที่ไอศกรีมไม่เหม็นได้แล้ว
ลิ้นชักด้านล่างมีให้เลือกสองโหมดนะ คือแบบ Speedy Cooling (แบบลมเข้าปกติ) หรือแบบ Moisture Keeping แบบหลังจะใช้ความเย็นรอบๆ แต่ไม่มีลมเข้าไป ทำให้ผักผลไม้เก็บได้นานยิ่งขึ้น
ช่องเก็บด้านข้างก็ดีไซน์มาให้ปรับเปลี่ยนความสูงได้
ต่อด้วยการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศอินเวิร์ทเตอร์ทั้ง 2 รุ่นยังมาพร้อมเทคโนโลยี Magic coil ที่สามารถป้องกันแผงแลกเปลี่ยนความร้อนจากฝุ่นละออง ทำให้ลมที่ออกมาจากตัวเครื่อง สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ ออกแบบใหม่ภายใต้แนวความคิด “เย็นเร็ว เย็นเงียบ และเย็นไกล” ตัวเครื่องถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดทั้งภายในและภายนอก มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องดีไซน์ที่เล็ก เพรียว บางลง แต่มาพร้อมประสิทธิภาพ ด้วยขนาด Cooling Capacity ที่เต็ม BTU จึงสามารถทำความเย็นได้ดีและเร็วยิ่งขึ้น ในขณะที่เครื่องตัวในทำงานด้วยเสียงที่เงียบเพียง 19 เดซิเบล (ระดับเสียงกระซิบ) ทำให้ผู้ใช้งานหลับสบาย หายห่วงกับเสียงรบกวน พัดลมภายในเครื่องถูกออกแบบให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น โดยมีความสามารถในการส่งลมไกลสูงสุดถึง 17 เมตร ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าลมเย็นจะถูกส่งไปได้ทั่วถึงทุกมุมห้อง
ปิดท้ายด้วยภาพเหล่าผู้บริหารจากทางโตชิบาที่มาร่วมแถลงข่าวครับ
สำหรับราคาของตู้เย็นโตชิบา พลัส 5.2 คิว 5,790 บาท และ 6.5 คิว 6,390 บาท
สำหรับใครที่สนใจชมสินค้าตัวจริงได้ตามศูนย์การค้าชั้นนำทั่วประเทศ ซึ่งสินค้าจะออกวางจำหน่ายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ www.toshiba.co.th แฟนเพจ facebook.com/ToshibaSociety
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป