เดิมทีฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่เราไม่คิดว่าอยากจะมาเที่ยวเลย ที่เที่ยวต่างๆก็ไม่ค่อยจะรู้จักเท่าไหร่ แต่วันหนึ่งเราได้รับการติดต่อมาจาก skyscanner เว็บเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินและที่พักของโลก โทรมาแจ้งว่าตอนนี้จะมีโครงการแลกเปลี่ยน Blogger ไทย-ฟิลิปปินส์ โดยจะมี Blogger ชาวฟิลิปปินส์มาท่องเที่ยวประเทศไทย ส่วนผมกับภรรยาจะเดินทางไปยังประเทศฟิลิปปินส์เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม อาหาร ศาสนา และกีฬาซึ่งกันและกัน จากโครงการนี้เอง ทำให้ความคิดของผมและภรรยาเปลี่ยนไป เราได้เรียนรู้ว่าประเทศฟิลิปปินส์ประเทศนี้ซ่อนอะไรดีๆไว้เยอะไปหมด ทั้งอาหารที่อร่อย ข้าวของราคาไม่แพง สถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม น่าเสียดายที่คนไทยรู้จักประเทศนี้น้อยเกินไป (คิดเหมือนกับเราตอนก่อนได้มา) ว่ายน้ำกับฉลามวาฬมาเป็นยังไง ฉลามวาฬตัวใหญ่แค่ไหน น่ากลัวหรือเปล่า ตามมารู้จักประเทศฟิลิปปินส์ให้มากขึ้นผ่านรีวิวของเรากันครับ
skyscanner คือใคร?
skyscanner คือ เว็บเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน, โรงแรม และแม้กระทั่งรถเช่า โดยสามารถใช้ได้ทั้งเว็บไซค์และแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ วิธีการใช้งานก็ไม่ยากแค่ใส่จุดหมายและวันที่เดินทาง skyscanner จะช่วยเปรียบเทียบราคาจากสายการบินต่างๆให้เราเลือกได้ทันที
Download ได้ทั้ง Google Play และ ios App Store
เราเริ่มต้นทริปด้วยการแลกเงินฟิลิปปินส์เปโซที่ SuperRich สีส้มกันก่อน ซึ่งปกติเราแลกเงินเจ้านี้ประจำเพราะเรทดีที่สุดแบบไม่ต้องไปเช็คที่อื่นให้เสียเวลาเลย เดี๋ยวนี้ยิ่งสะดวกเพราะเค้ามีสาขาที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ซึ่งสาขานี้ตั้งชั้น B อยู่ตรงทางไป Airport Rail link เลย
อัตราแลกเปลี่ยนของเงินเปโซอยู่ที่ 0.75 บาทต่อ 1 เปโซ (ก.ย. 59) ใครจะอยากจะตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนก็ตามไปลิงก์นี้เลย http://www.superrich.co.th/
ทริปนี้เราบินด้วยสายการบิน Philippines Airlines นะ
แต่ไม่มี Direct Flight จากกรุงเทพถึงเกาะเซบู เราต้องบินไปเปลี่ยนเครื่องที่มานิลาก่อน 1 ตุ๊บ
กว่าจะมาถึงเซบูก็ค่ำเลย เราเข้าพักที่โรงแรม Quest Hotel ใจกลางเมือง ใกล้ทั้งห้างและท่ารถขนาดใหญ่ ห้องนอนสะอาดดีมาก ใครมาเที่ยวที่เกาะเซบูแนะนำเลยครับ
ห้องน้ำประมาณนี้
เช้าตรู่เรามาเดินเล่น Taboan Public Market กัน ตลาดของคนที่นี่คล้ายๆกับตลาดปลาของบ้านเราครับ มีทั้งของทะเลตากแห้งต่างๆ แต่กลิ่นปลานี่ล้ำลึกมากนะ 555
มาชิมมะม่วงของคนฟิลิปินส์กัน
ปอกกินกันสดๆเลย หวานดีครับ มีแอบเปรี้ยวนิดหนึ่ง
อันนี้แปลกดี คนที่นี่เค้าขายแมงมุมกันด้วย
แมงมุมพวกนี้ไม่ได้เอามากินนะ เค้าเอามาสู้กัน คล้ายๆปลากัดนั่นแหละ
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ยังไม่เจริญนัก เราจะสามารถพบเจอคนยากจนและขอทานได้ตามท้องถนน แถมเป็นขอทานแบบเข้าถึงเนื้อถึงตัวนะ เด็กบางคนก็เข้ามาเกาะแขนเราเลยทีเดียว
ของน่าซื้อสุดๆของตลาด Taboan นี้ คือไข่มุกครับ คนขายเอาไฟมารนโชว์เพื่อแสดงว่าเป็นทุกแท้ๆนะ แถมเอาไปขูดๆก็ไม่เป็นรอยด้วย
สร้อยมุกสวยมากและไม่แพงเลย
คนขายที่นี่มีความพยายามขายสูงมาก ตามมาขายถึงในรถเลย ตื้อสุดๆ ราคาต่อรองได้ครึ่งต่อครึ่งนะ
เรามาเที่ยว Santo Niño Basilica กันต่อ โบสถ์นี้ถือเป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศฟิลิปปินส์
เดิมทีโบสถ์นี้สร้างมาจากไม้นะ แต่ภายหลังรัฐบาลสเปนได้สร้างขึ้นมาใหม่ด้วยหินแทน หน้าโบสถ์สวยงามมาก
ด้านในโบสถ์มีความขลังมาก ผู้คนชาวฟิลิปปินส์ก็มีความศรัทธาต่อศาสนาอย่างแท้จริง
ด้านข้างของโบสถ์จะมีที่ให้จุดเทียน
มีภาพนูนต่ำสวยงามมาก
ด้านหลังจะมีไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ และภาพวาดเล่าเรื่องราวการตรงกางเขนของพระเยซูอยู่บนเพดาน
เราเดินทางกันต่อมายังที่ Lantaw Busay
ซึ่ง Lantaw Busay จะมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนเขา จากตรงนี้เราสามารถชมวิวของเมืองเซบูได้อย่างสวยงาม
วิวดีแบบนี้ จุ๊บๆกันหน่อยนะ
พื้นที่ของฟิลิปินส์ส่วนใหญ่เป็นเกาะ ทำให้อุดมสมบูรณืไปด้วยอาหารทะเลนะ ปูตัวใหญ่มาก
อาหารของฟิลิปินส์ไม่ได้แพงนะ ราคาตามภัตตาคารจะถูกกว่ากรุงเทพด้วยซ้ำ
อาหารขึ้นชื่อของที่ฟิลิปปินส์ได้แก่ หมูทอดหมูย่างกรอบ หรือ Lechon อาหารจานนี้ได้รับมาจากอิทธิพลของสเปนในสมัยที่ยังเป็นเจ้าอาณานิคมอยู่ อร่อยมากครับ ใครมาฟิลิปปินส์อย่าลืมลองชิมเลคชอนของเค้าดู
ปลาตัวใหญ่มากอ่ะ
จานนี้ Spicy Scallop เป็นหอยเชลล์ผัดแบบสไปซี่ ไอ้เรานึกว่าจะเผ็ดๆแต่จริงๆแล้วไม่เลย อร่อยดีเหมือนกันนะ
จานนี้เป็นข้าวกับไก่ย่าง ชื่อเมนู Original Bacolod Chicken BBQ ข้าวที่ฟิลิปปินส์เห็นเหลืองๆแบบนี้ แต่กลิ่นเครื่องเทศไม่แรงเหมือนข้าวหมกไก่นะ ทานกับไก่ส่วนสะโพกย่างชอบแบบย่างแห้งๆแบบนี้คุณนายแอนเธอชอบมากๆ
Baked scallops เรียกง่ายๆไทยๆว่า หอยเชลล์อบเนยกระเทียม หอมเนยมาก แย่งกันทานจนต้องสั่งเบิ้ลสองจานเลย
Sisig ชื่อเมนูมาเป็นภาษาถิ่นเลย ทานแล้วรสเข้ากันมาก แต่ส่วนผสมมีอะไรบ้างจำไม่ได้มันดูผัดคลุกกันมั่วไปหมด 555
ปิดท้ายของหวานมื้อนี้ด้วย Halo-Halo เป็นไอศกรีมสีม่วงสวยแต่ไม่ใช่รสเผือกแบบบ้านเรานะ เค้าว่าเป็นพืชตระกูลใต้ดินเหมือนกัน คุยอังกฤษแปลเป็นไทยแล้วก็ยังงงๆ เลยช่างมัน รู้แค่อร่อยดี พวกสีสดๆด้านล่างเป็นเครื่องคล้ายๆวุ้นมะพร้าวกับลูกชิด ผสมๆกันมาจ้า ขอบอกว่าติดใจสั่งทานเกือบทุกร้านเลย
ของหวานอีกจานเป็น Banana Turon ที่เห็นแป้งทอดๆนี่ทำจากข้าวนะ คนฟิลิปปินส์ชอบทานอะไรที่มีส่วนผสมจากข้าว แป้งนี้ทอดมาร้อนๆทานกับไอศกรีมฟินเลย
ช่วงเย็นๆเราเดินทางมาต่อยัง The Heritage of Cebu Monument อนุสาวรีย์ของเค้าสื่อเรื่องราวความเป็นชนชาติของชาวฟิลิปปินส์ได้อย่างดี
ไม่ไกลกันมาเที่ยวบ้านโบราณ Yap-San Diego ancestral house
บ้านโบราณหลังนี้สร้างเมื่อปลายศตวรรตที่ 17 โดยพ่อค้าชาวจีน ตอนนี้น่าจะเป็นหนึ่งในบ้านที่เก่าแก่ที่สุดของฟิลิปปินส์เลยก็ว่าได้
ภายในมีของใช้เก่าแก่เพียบครับ
ของเก่าเนี่ยดูไปดูมาก็มีเสน่ห์มากมาย
สวนของบ้านโบราณนั่งเล่นสบายใจมากเลย
มื้อเย็นมาชิม BBQ ที่ Larsian หรือเค้าว่าเป็นถนนสายอาหารของที่นี่กัน
ที่นี่จะมีร้าน BBQ เสีบไม้ขายอยู่หลายร้าน โดยจะขายคล้ายๆกันหมด เมื่อสินค้าเหมือนๆกันพ่อค้าแม่ค้าจึงต้องใช้ลีลาในการเรียกลูกค้าอย่างถึงใจ ทั้งตะโกนเรียก พูดเชิญชวนต่างๆนานา
เมื่อเราเลือกอาหารที่จะทานได้แล้ว เจ้าของร้านก็จะมาปิ้งย่างให้เราบริเวณตรงกลาง ควันที่ลอยฟุ้งหอมไปตามๆกัน
ผมชิมดูแล้ว รู้สึกว่าแอบหวานไปหน่อย
ที่น่าสนใจคือพวงสามเหลี่ยมพวกนี้ครับ ให้ทายว่าคืออะไร
เฉลย… มันคือข้าวครับ คือเดิมคนที่นี่อาศัยอยู่ตามเกาะ มีอาชีพเป็นชาวประมงส่วนใหญ่ เวลาเค้าจะขึ้นเรือก็จะพกอาหารไปทาน โดยข้าวก็จะบรรจุใส่ใบไม้ทำให้สะพายไปทานได้ง่ายนั่นเอง
สาหร่ายพวงองุ่นที่นี่มีเยอะมากเลย
อันนี้คือน้ำส้มสายชูและซีอ๊วตามสไตส์ของฟิลิปปินส์
พูดถึงราคาของอาหารถือว่าถูกมากอย่าง Burger King เนี่ยที่นี่แค่ 100 เปโซหรือ 75 บาทเองอ่ะ Whopper 79 เปโซ ประมาณ 60 บาทเอง
ส่วนร้าน Fast Food ที่ได้รับความนิยมที่สุด ได้แก่ Jollibee มีสาขาเยอะกว่าทุกร้านทั้ง Mcdonald หรือ KFC สู้ร้านนี้ไม่ได้เลย
ผมทานดูแล้วผมว่าก็โอเคแหละ แต่ไม่ได้อร่อยมากมายอะไรขนาดนั้นนะ เด่นๆเป็นเมนูไก่ทอดกับข้าวสวย หรือข้าวมัน อารมณ์ประมาณทานข้าวมันไก่ทอดคล้ายๆไทยเลย
รถเมล์สีสันสวยงามถือเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของที่นี่
รุ่งเช้าวันใหม่ เรามาชมพระอาทิตย์ขึ้นกันแถว Cebu South Road Properties
นั่งมองดูวิถีชีวิตของชาวบ้านกับสายน้ำของที่นี่
พระอาทิตย์ขึ้นมาแล้ว สวยงามมากมายจริงๆ
สิ่งที่มีเหมือนกันอย่างหนึ่งของทั้งชาวไทยและฟิลิปปินส์ก็คือกีฬามวย เราต่างเป็นชาติที่มีนักสู้ที่เป็นแชมป์โลกในกีฬาชนิดนี้
เพื่อให้เข้าถึงวัฒนธรรมกีฬามวยของฟิลิปินส์ ทางทีมงาน Skyscanner จึงพาเรามายังค่ายมวย
โค้ชที่ค่ายมวยเริ่มสอนวิธีฟุตเวิร์คและการออกหมัดชกที่ถูกต้องให้กับพวกเรา
ยอมรับเลยว่ากีฬามวยนี่เป็นอะไรที่เหนื่อยและได้เหงื่อสุดๆไปเลย
และเราก็มุ่งหน้าลงใต้ นั่งรถมาประมาณ 4 ชั่วโมงไปยังรีสอร์ทกลางเกาะสุดสวยอย่าง Bluewater Sumilon Island Resort
เค้ามีเปลและเก้าอี้ให้นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ริมทะเลเพียบไปหมด
ตอนมาถึงฟ้าหม่นมากเลย ขนาดไม่มีแดดน้ำยังใสมากเลย
ไม่ช้าไม่นาน แดดก็มาแล้ว น้ำทะเลสวยมาก
มาชมห้องพักเรากันบ้างนะ
ห้องน้ำกว้างมาก
มีชิงช้าให้นั่งเล่นหน้าบ้านด้วย
แต่ไฮไลท์ของ Bluewater Sumilon Island จริงๆคือสระว่ายน้ำครับ
สวยมากมาย
ชั้นล่างจะมีบ่อจากุสซี่ด้วยนะ
เพลิดคุณนายแอนเค้าเลย ฟินมาก
วิวมันสวยจริงๆนะ น้ำใสเว่อร์
บนเกาะสุมิลอนยังมีเรือถีบและเรือคายัคให้พายด้วยนะ
มุมของเด็กๆก็มี
ทะเลสวยแต่หาดทรายยังสู้บ้านเราไม่ได้
ธรรมชาติสวยเราก็มีความสุขเนอะ โลกเป็นของเรา ออกไปดู ออกไปใช้ชีวิตให้คุ้ม
นั่งอยู่กับภรรยาที่รักตรงนี้เนิ่นนาน ไม่อยากไปไหนเลย มีความสุขมากๆ
เช้าวันใหม่วันนี้เรามีคิวจะไปว่ายน้ำกับปลาฉลามวาฬกันแล้วจ้า หน้าท่าเรือเจอรถสามล้อคันนี้สวยดี
ที่นี่จะมีเรือคอยบริการนักท่องเที่ยว
ค่าบริการถูกมาก 1,000 เปโซ (750 บาทไทย) ว่ายเล่นกับฉลามวาฬได้ 30 นาที
ก่อนจะไปว่ายน้ำกับฉลามวาฬก็มาดูกฎระเบียบกันสักนิดหนึ่ง
- ห้ามจับตัวฉลามวาฬ
- รักษาระยะห่างไว้ 4 เมตร
- ห้ามใช้แฟสซ
- ห้ามทิ้งขยะ
- ห้ามทาครีมกันแดดด้วย เพราะเป็นอันตรายต่อฉลามวาฬ
สักแปป เรือก็เริ่มออกมา เราสามารถมองเห็นฉลามวาฬที่ผิวน้ำได้อย่างใกล้ชิดเลย
ผมรู้ว่าฉลามวาฬเป็นสัตว์น้ำที่ตัวใหญ่มาก แต่ไม่รู้หรอกว่ามันใหญ่แค่ไหน
ผมรู้ว่าฉลามวาฬเป็นสัตว์ใหญ่ใจดีที่กินแพลงตอนเป็นอาหาร แต่ไม่เคยรู้ว่าปากของมันกว้างแค่ไหน จนกระทั่งวันนี้….
วันนี้ได้ทำตามความใฝ่ฝันหนึ่งของชีวิตสำเร็จไป กับการได้ร่วมว่ายน้ำกับฉลามวาฬที่เกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์
ถามว่าครั้งแรกที่เห็นกลัวมั้ย ตอบเลยว่าแอบเกรงเล็กๆเพราะตัวของมันใหญ่มาก (คะเนดูน่าจะประมาณรถเมล์บ้านเรา) แต่พอได้ลงไปว่ายน้ำกับมันจริงๆ เรารู้สึกเลยว่ามันน่ารักและเป็นปลาใหญ่ใจดีมาก รอบๆตัวลายจุดของมันจะถูกรายล้อมด้วยปลาเล็กๆที่ว่ายน้ำไปพร้อมๆกัน โดยที่มันจะไม่ทำอันตรายปลาหรือคนที่เข้ามาใกล้ๆมันเลย
นิสัยของมันไม่ใช่เพียงดูใจดีเท่านั้น ยังขี้เล่นด้วย พอเห็นคน มันจะว่ายน้ำมาใกล้ๆ มีครั้งหนึ่งลำตัวของมันว่ายมาชนขาของผมกับภรรยาเลย เรียกว่าเป็นประสบการณ์ที่หาได้ไม่ง่ายในชีวิตนี้
สรุปแล้วที่มีกฎห้ามอยู่ใกล้เกิน 4 เมตรก็ไม่มีผลใดๆนะ เพราะมันว่ายมาหาเราเองเลย
ได้ว่ายน้ำแบบนี้ จำไปชั่วชีวิตเลยครับ
จุดหมายต่อไปเรามุ่งหน้ามายังฝั่งตะวันตกของเกาะเซบู โดยวันนี้เราจะไปเที่ยวน้ำตก Kawasan Falls กัน
วันนี้ฝนตกลงมา เราเดินกันลำบากเพราะตลอดทางเต็มไปด้วยดินโคลน
ข้างทางจะมีลำธารน้ำใสเย็นไหลลงมาให้ชมวิวตลอดทางเลย
น้ำใสมากครับ
บางทีก็มีน้ำตกน้อยๆให้ดูด้วย
และแล้วก็ถึงน้ำตก Kawasan Falls เสียที
น้ำสีฟ้าสวยงามมากๆ คุณนายแอนว่ายน้ำเล่นอย่างสบายใจเลย
กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่คือการขึ้นแพไปให้น้ำตกนวดครับ
คุณนายแอนนั่งแพอารมณ์ดีเลย
และแล้วแพก็จะวนมาใต้น้ำตกก่อน ถึงตอนนี้เริ่มหวั่นเล็กๆ เพราะน้ำตกไหลแรงมากเลย
แต่ก็ไม่รอดครับ โดนน้ำตกนวดจนได้ กรี้ดเสียงดังมาก 5555
สะบัดผมโชว์หน่อย
สบายใจคุณเธอมากๆ
อีกวันเราไปเที่ยวต่อที่ Oslob Church (Our Lady of the Immaculate Conception Church)
โบสถ์นี้มีความเก่าแก่มาก ด้านในก็ดูคลาสสิกสุดๆครับ
ตรงข้ามกับโบสถ์จะมีซากอาคารเก่า สวยมากๆ
เดินต่อไปริมทะเลจะมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆให้เข้าไปชมด้วย
ลาไปภาพสุดท้ายของอินและแอน ณ เกาะเซบู นับเป็นอีกทริปที่ประทับใจมากมาย หวังว่าคงจะได้รับความสุขและข้อมูลการเดินทางไปไม่มากก็น้อยนะครับ ลาไปแล้ว บะบายยย
ปล.หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Share
หรืออยากใกล้ชิดกันมากขึ้น แอด Line มาได้เลย มีรีวิวใหม่จะส่งไปบอก อยากคุยกับแอดมิน Line มาคุยเลยจ้า ID : @2Madames กดตรงนี้ก็ได้
หรือ กรอกอีเมล์ที่ http://www.2madames.com/followus/ เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆแก่ครอบครัวสุขสันต์ 2 Madames หน่อยนะครับ ทั้งหมดที่ว่ามาไม่เสียตังค์จ้า
อย่าลืมแวะไปทักทายเราใน Facebook : 2 Madames Fan Page ด้วยนะครับ
2Madames
ครอบครัว 2 Madames เริ่มเขียนรีวิวมาตั้งแต่ปี 2007 บนห้องท่องเที่ยว Blueplanet ของเว็บไซค์ pantip.com โดยใช้นามปากกา (Login) ว่า "inint&anant" โดยมีภรรยาและลูกสาวคนแรกออกท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ จึงได้เกิดเป็นฉายา "สองคุณนาย" หรือ "2 Madames" นั่นเอง ได้แก่ คุณนายเล็ก (น้องเกรซ ลูกสาว) และคุณนายใหญ่(แอน ภรรยา) ภายหลังครอบครัว 2 Madames ได้มีสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน คือลูกชาย "น้องกาย" และ "น้องเกล็น" ปัจจุบันยังคงออกเดินทาง สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกครอบครัวในการพาเด็กๆออกไปท่องโลกกว้างต่อไป